วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"แช ดง ฮา"อดีตบอยแบนด์ดังเกาหลีแขวนคอฆ่าตัวตายตาม ผจก.ส่วนตัว

เกิดเรื่องช็อกวงการบันเทิงเกาหลีขึ้นอีกครั้ง เพราะเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 พ.ค. 54 ได้มีรายงานข่าวจากแดนโสมออกมาว่า ทีมกู้ภัยในเขต อึนพยองกู ได้รับรายงานจากผู้จัดการส่วนตัวคนปัจจุบันของ ''แช ดง ฮา'' นักร้องและดาราหนุ่มคนดัง อดีตสมาชิกบอยแบนด์วง ''เอสจี วอนนาบี'' (SG Wannabe) ให้รีบไปที่บ้านพักของดาราคนดังกล่าวอย่างเร่งด่วน หลังจากที่ไม่สามารถติดต่อได้ แต่เมื่อหน่วยกู้ภัยไปถึงก็ปรากฏว่านักร้องหนุ่มคนดังกล่าวกลายเป็นศพไปเป็น ที่เรียบร้อยแล้ว ในสภาพแขวนคอตาย

โดยทางต้นสังกัดของดาราหนุ่มได้เปิดเผยว่า สาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้อาจจะมาจากโรคซึมเศร้า เพราะการตายของ ผจก.ส่วนตัวของเขาเมื่อ 2 ปีที่แล้วด้วยการรมแก๊สตัวเองในโรงแรมแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ในอัลบั้ม ''Essay'' นักร้องหนุ่มได้เขียนข้อความพิเศษถึงอดีตผู้จัดการส่วนตัวผู้ล่วงลับว่า ''ประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมากกว่าจูบแรกสำหรับผมเสียอีก ก็คือการมีผู้จัดการคนแรก ผู้เป็นทั้งคนคอยปลอบโยน, เป็นทั้งเพื่อน ครั้งแรกที่ผมได้พบกับคนคนนี้ เหมือนผมได้โลกใบนี้มาเป็นของตัวเอง นับแต่วันที่ 9 มิ.ย. 2009 เขาไม่ได้ยืนอยู่เคียงข้างผมอีกแล้ว หัวใจครึ่งหนึ่งของผมสูญหายไป พี่ชาย, คุณจะมีความสุขใช่ไหม สัญญาผมนะว่าคุณจะมีความสุข''

อย่างไรก็ตามเพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ ในวงการบันเทิงที่รู้จักและสนิทสนมกับหนุ่ม ''แช ดง ฮา'' ได้เผยความรู้สึกเสียใจและเศร้าต่อการจากไปครั้งนี้ โดยเฉพาะนักร้องหนุ่มผ่านทวิตเตอร์อย่างมากมาย อาทิ ''คิม ฮยอง จุน'' ได้เผยว่า ''ขอร่วมไว้อาลัยด้วยครับ ผมเจ็บปวดมากครับ'' ขณะที่นักร้องสาวสุดเซ็กซี่ ''โซลบิ'' กล่าวว่า ''ฉันรู้สึกช็อกมาก ฉันเจ็บปวดมาก หวังว่าคุณจะไปอยู่ในที่ดีๆ นะ ร่วมไว้อาลัย''

สำหรับ ''แช ดง ฮา'' เกิดเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 1981 จบการศึกษาจากสถาบันศิลปะโซล ในสาขาโทรทัศน์ และ มหาวิทยาลัยควางฮีไซเบอร์ ในสาขาธุรกิจระหว่างประเทศ เขาเริ่มก้าวสู่วงการบันเทิงในฐานะศิลปินเดียว เมื่อปี 2002 และกลายเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มศิลปินแนวเพลงบัลลาด SG Wannabe เมื่อปี 2004 จนสามารถสร้างชื่อเสียงได้พอสมควร ก่อนจะลาออกจากวงไปในเดือน มี.ค. 2008 พร้อมผันตัวเพื่อออกผลงานเดี่ยว โดยมีผลงานล่าสุดคือ ซิงเกิลเพลงแนวบัลลาด D-Day ที่ประกอบไปด้วยเพลงที่เขาประพันธ์เองด้วย

"เรย์โนลด์ส"ขยาดชีวิตคู่ ขอพักเบรกอยากอยู่คนเดียว

นับตั้งแต่แยกทางกับ โยฮันส์สัน ก็ไม่ค่อยได้ยินเรื่องที่ว่า เรย์โนลด์ส คบหาดูใจกับใคร มีก็แต่ข่าวลือกับ ซานดร้า บูลล็อก นางเอกม่ายสาวพราวเสน่ห์ที่จับคู่กันดังกับเขาในหนังโรแมนติกคอมเมดี้ ''The Proposal'' แต่สุดท้ายก็ ไม่มีอะไรในก่อไผ่
    
สวนทางกับฝั่งของ โยฮันส์สัน ที่ล่าสุดปฏิบัติการโซ้ยวัวแก่ เพนน์ ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อิจฉาตาร้อนกัน ไปทั่วว่าดาราเจ้าอารมณ์มีดีอะไรถึงชนะใจสาวสวยบาดใจอย่างเธอได้ ส่วนข้อสงสัยที่ว่าทำไม เรย์โนลด์ส ถึงไม่ยอม มีกิ๊กใหม่ซะที เหตุผลก็คือเจ้าตัวยังเจ็บปวดกับความรักที่ผ่านมา จึงไม่พร้อมที่จะมีแฟนใหม่
    
พระเอกหนุ่มที่กำลังจะมีหนังซูเปอร์ฮีโร่ ''Green Lantern'' เปิดตัวในกลางเดือนหน้า อธิบายว่า ''คนที่เคยผ่านการหย่าย่อมต้องเจ็บปวดมาก แต่คุณสามารถพ้นเรื่องนี้ไปได้ เพียงแต่ผมยังไม่สามารถหลุดพ้นได้ แต่ผมรู้สึกว่าผม สามารถผ่านไปได้ ผมมองโลกในแง่ดี ผมไม่คิดว่าผมอยากแต่งงานอีกครั้ง แต่คุณต้องกลับมาประเมินอะไรหลายๆ  อย่าง''
    
นอกจากนี้ เรย์โนลด์ส ยืนยันว่าไม่รู้สึกอะไรกับการที่อดีตเมียรักมีกิ๊กใหม่วัยคราวพ่อ เพราะตัวเขาไม่สนใจที่จะ ออกเดตกับสาวไหนทั้งนั้น ''ไม่มีเรื่องอะไรทั้งนั้น และไม่มีข่าวฉาวด้วย ดังนั้นมันก็แค่เรื่องเล่าที่สร้างขึ้นมาเพื่อผม ผมไม่สนใจที่จะเดตกับใครในตอนนี้''
    
อย่างไรก็ตาม ดาราหนุ่มเจ้าของรางวัลผู้ชายที่เซ็กซี่ที่สุดที่ยังมีชีวิตอยู่ มีภาพอยูกับ แอนส์ ฟิสเชอร์ นางแบบ เลือดเยอรมัน วัย 25 ปี ในเซฟเฮาส์ส่วนตัวขณะที่เขาถ่ายหนังอยู่ในแอฟริกาใต้ โดยเรื่องนี้เจ้าตัวเคลียร์ว่า ''คุณปิดกั้นแนวทางที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน แต่คุณก็ต้องเปิดใจกับหลายๆ สิ่งในแนวทางที่คุณไม่เคยทำมาก่อนเช่นกัน''

ห่วงถ่ายหนัง"ลินด์ซีย์"รีบรับโทษกักบริเวณ

เริ่มต้นกระบวนการชดใช้ความผิด ลินด์ซีย์ โลแฮน ดาราสาวเจ้าปัญหา เดินทางไปยังเรือนจำ ลินวู้ด ใน ลอสแอนเจลีส เพื่อรายงานตัว เกี่ยวกับความผิดฐานละเมิดทัณฑ์บน คดีเมาแล้วขับ เมื่อปี 2007 จากการตกเป็นผู้ต้องหาคดีขโมยสร้อยคอร้านเพชร ช่วงต้นปีนี้ โดยเธอโดนส่งตัวไปรับโทษด้วยการกักบริเวณภายในบ้าน ตามที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเธอต้องห้ามเสนอหน้าออกมาข้างนอกจนถึงวันที่ 29 มิถุนายน

ลินด์ซีย์ ทำเก๋า สู้คดีโดนฟ้องข้อหาจิ๊กสร้อย โดยมั่นใจว่าศาลจะยกฟ้อง แต่ที่ไหนได้ โดนฟ้องซะงั้น ทำให้เธอมีความผิดฐานละเมิดทัณฑ์บนทันที จากนั้นเธอก็ยอมรับผิดกลายๆ ด้วยการไม่ขึ้นให้การ ทำให้ศาลลงโทษเธอสถานเบา ด้วยการสั่งไปทำงานรับใช้สังคม 480 ชั่วโมง และจำคุก 120 วัน ซึ่งโทษจำคุกสุดท้ายก็เปลี่ยนมาเป็นการกักบริเวณในบ้านแทน ด้วยเหตุผลว่า เรือนจำนักโทษล้น และบทลงโทษนี้มีเพื่อคนที่ทำผิดคดีไม่ร้ายแรง
    
เช้าวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ค. เธอไปเรือนจำลินวู้ด และถูกติดตั้งสายข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนโดนส่งไปกักตัวอยู่ที่บ้านของเธอใน เวนิช, แคลิฟอร์เนีย ถึงวันที่ 29 มิถุนายน โดย สตีฟ วิทมอร์ โฆษกของ สนง.นายอำเภอลอสแอนเจลีส กล่าวว่า "ตอนนี้เธอจะถูกกักตัวอยู่ในบ้านตลอดเวลา" โดยความจริงเธอมีเวลารายงานตัวจนถึงวันที่ 17 มิถุนายน แต่เธอรีบมารายงานตัว คาดว่าคงอยากให้รับโทษเสร็จไวๆ เพื่อมาถ่ายหนัง "Gotti: three Generations"
    
"ลินด์ซีย์ อยากให้เรื่องนี้มันจบๆ ไปซะที มันจะได้ไม่มีผลกระทบกับหนังของเธอใน Gotti: three Generations" แหล่งข่าวกล่าว โดยแม้จะโดนกักตัวที่บ้าน แต่ ลินด์ซีย์ ยังต้องทำงานรับใช้สังคมที่ศูนย์ที่พักผู้หญิง และที่ สถานณาปนกิจ ใน แอลเอ ต่อไปให้ครบ 480 ชั่วโมง

ตำรวจรวบ"วอร์เรน"บู๊นอกจอซิ่งชนยับ-เตะตร.-แหกห้องขัง

เห็นหน้าตาสวยๆ ไม่คิดว่าจะอิทธิฤทธิ์เยอะขนาดนี้ เอสเตลล่า วอร์เรน ดาราสาวจากหนังไซไฟเรื่องดัง "พิภพวานร-Planet of the Apes" ก่อเรื่องสุดฉาวซิ่งรถชนเละ 3 คันรวด ก่อนกระโดดเตะเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนโดนรวบตัวเข้าห้องขัง แต่เธอยังไม่สิ้นลายจัดการปลดกุญแจมือด้วยตัวเอง และพยายามหลบหนีจนโดนตั้งข้อหาหนัก 4 กระทง

ซาราห์ ฟาเดน เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองลอส แอนเลจีส เผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางดึกวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าอดีตนางแบบสาวชาวแค นาเดี้ยนวัย 32 ปี ขับรถรถโตโยต้า พรีอุส บนถนนฮาร์เปอร์ อเวนิวใกล้กับเขตฮอลลีวู้ดตะวันตก ก่อนชนเข้ากับรถที่จอดอยู่ข้างทางถึง 3 คันรวด จนมีคนได้ยินเสียง และออกมาพบเหตุก่อนโทร.แจ้งความ โดยหลังจากนั้น ขาได้บอกให้ วอร์เรน หยุดรอเจ้าหน้าที่หลังพบว่าเธอพยายามขับรถออกไปโดยไม่ทิ้งข้อมูลให้ติดต่อ กลับแต่อย่างใด

จากนั้นโปลิศเมืองมะกันได้มาถึง และจับกุมนางเอกสาวด้วยข้อหาขับรถโดยประมาทพ่วงด้วยข้อหาชนแล้วหนี แต่เธอกลับเตะเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง จนโดนรวบตัวพร้อมถูกตั้งข้อหาต่อสู้ขัดขืนเจ้าพนักงานอีกกระทง พร้อมนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่สถานีตำรวจวิลเชียร์

อย่างไรก็ตาม วอร์เรน ยังไม่สิ้นฤทธิ์เมื่อถูกจับเข้าห้องควบคุมตัวของโรงพัก ก่อนจัดการถอดกุญแจมือของตัวเองออกแถมยังพังประตูห้องควบคุมตัวพยายามจะหลบ หนี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามจับกลับมาพร้อมตั้งข้อหาพยายามหลบหนีเพิ่มให้ อีกกระทง ก่อนจะให้ประกันตัวออกไปภายใต้วงเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ด้วยความเหนื่อยใจ

"เชอรีล โคล"เฉดหัวกิ๊กนักเต้น ไม่ช่วยให้ดังในฮอลลีวู้ด

นักร้องสาววัย 27 ปี ต้องเจ็บช้ำระกำใจอุรากับชีวิตครอบครัวกับ แอชลี่ย์ โคล นักฟุตบอลชื่อดังทีมชาติอังกฤษ และต้องหย่าร้างกันไปด้วยความชอกช้ำ อย่างไรก็ตาม ความสวยของเชอรีล ยังคงมีหนุ่มๆ ทั้งในและนอกวงการแจกขนมจีบอยู่เป็นประจำ สุดท้ายเธอมาลงเอยกับ ฮัฟ แดนเซอร์หนุ่ม ที่เต้นด้วยกันในรายการ ''Dancing with the Stars'' และทั้งสองคนก็แสดงความหวานชนิดที่ใครเห็นก็ต้องขอบตาร้อนผ่าว และมีทีท่าว่าทั้งสองคนจะไปได้สวยซะด้วย
    
แต่ที่ไหนได้ ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เนื่องจากรายงานล่าสุดระบุว่า ตอนนี้เชอรีลกับมาโสดเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเจ้าตัวสลัดไอ้หนุ่มนักเต้นทิ้งแบบไม่ไยดี เหตุเพราะคบๆ ไปก็ไม่ใช่ส่งเสริมให้อาชีพเจริญก้าวหน้า แหล่งข่าววงในแฉว่า ''เชอรีลบอกกับดีเร็คว่า มันจบแล้ว การบอกเลิกกับเขาเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดสำหรับเขาจริงๆ เพราะเขายืนเคียงข้างเธอมาตลอดหลังจากที่เธอหย่าเมื่อปีที่แล้ว และเธอก็เจ็บปวดเจียนตายจากไข้มาลาเรีย''
    
''เขาไม่ได้ช่วยให้เธอรู้สึกว่าเธอจะใช้เขาเพื่อเป็นคนดังใน ฮอลลีวู้ดได้เลย แต่เชอรีลเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานอย่างมาก และมุ่งมั่น ฉันว่าคงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเธอจะลงเอยกับคนดังในฮอลลีวู้ดเร็วๆ นี้'' แหล่งข่าวกล่าว
    
อีกเหตุผลที่เชอรีลตัดสินใจเลิกกับฮัฟ เพราะเธอมองว่าเขาเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น โดยแหล่งข่าวระบุว่า ''เชอรีลให้คุณค่าดีเร็คในฐานะเพื่อน แต่เธอไม่ต้องการแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว มันเจ็บปวดสำหรับดีเร็คเลยทีเดียว เพราะเขาหวังที่จะให้เธอย้ายไปแอลเอ ซึ่งจะทำให้พวกเขาพัฒนาความสัมพันธ์มากขึ้น ดีเร็คอยู่เคียงข้างเชอรีลเมื่อปีที่แล้ว และเธอก็ซาบซึ้งเขามาก แต่สำหรับตอนนี้งานมาเป็นอันดับแรก อีกอย่างเธอบอกว่าหากจะคบกับคนใหม่เธออยากได้ผู้ใหญ่ไม่ใช่เด็ก''

   

“ไมร่า” ลูกครึ่งไทย-อเมริกันคว้า “ก็อตทาเลนต์” รับ 10 ล้าน

หลังจากที่แข่งขันกันมายาวนาน 6 เดือน ในที่สุด TGT11 สาวน้อยเสียงใส “ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย” อายุ 13 ปี ลูกครึ่งไทย- อเมริกัน ก็คว้ารางวัลชนะเลิศรายการ “ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์” รับรางวัลมูลค่าร่วม 10 ล้านบาท ได้แก่ เงินสด 5 ล้านบาท คอนโดมิเนียมจากโครงการแอ็บสแตร็กส์ พหลโยธินพาร์ค (ABSTRACTS PHAHONYOTHIN PARK) และรถยนต์มาสด้า 3 2.0 ลิตร
     
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา(29/พ.ค./54) ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ได้จัดให้มีการแข่งขันรอบสุดท้าย สตูดิโอเวิร์คพอยท์ โดยมีคณะกรรมการจาก BECI ทำหน้าที่รวบรวมผลโหวตจากประชาชน โดยมีสักขีพยานและคณะกรรมการประกอบด้วย T-NET , GROUPM , WORKPOINT และ BECI
     
เวลา 19.00 น.การประกาศผลเริ่มจากทีมที่มีคะแนนโหวตสูงสุด 6 ทีมสุดท้าย TGT08 เบลล์-นันทิตา ฆัมภิรานนท์ TGT10 สมศักดิ์ เหมรัญ TGT01 สวอน ทีม (SWAN Team) TGT11 ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย TGT12 ทีมคิดบวกสิปป์ TGT06 ดำ - ก้องภพ แก้วเรือง
     
จากนั้นมาถึง 3 ทีมสุดท้าย TGT12 ทีมคิดบวกสิปป์ TGT10 สมศักดิ์ เหมรัญ TGT11 ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย ก่อนวินาทีระทึกกับการประกาศผล ทีม ที่มีคะแนนเป็นอันดับสามได้แก่ TGT12 ทีมคิดบวกสิปป์ TGT10 สมศักดิ์ เหมรัญ ได้รางวัลที่สอง ส่วนผู้ที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดได้แก่ TGT11 ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย
     
โดย TGT11 ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย ได้กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัล ก็อตทาเลนต์คนแรกของเมืองไทยว่า

“รู้สึกดีใจและขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้ ตอนที่ได้เข้ารอบ 48 คนก็ดีใจมากแล้ว พอมาถึง 12 คนสุดท้ายรู้สึกไกลเกินฝัน แต่พอพิธีกรประกาศก็รู้สึกดีใจจนบอกอะไรไม่ถูก ขอบคุณคุณพ่อและครอบครัวที่ทำให้ไมร่ามาอยู่ถึงจุดนี้ และจะตามฝันเรื่องการเป็นนักร้องต่อไป เพราะไมร่าชอบร้องเพลงมากๆ ค่ะ”
     
สำหรับประวัติ TGT11 สาวน้อยเสียงใส ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย อายุ 13 ปี ลูกครึ่งอเมริกัน ไมร่าเป็นเด็กมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง สามารถจดจำทำนองและเนื้อเพลงของเพลงที่ไม่เคยร้องมาก่อนได้อย่างรวดเร็ว เธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักร้องบรอดเวย์ ไมร่าชอบดูละครเวทีและละครเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ โดยมีเรื่อง Phantom of the Opera และมู่หลานเป็นเรื่องโปรด นอกจากการร้องเพลงแล้วไมร่ายังมีความสามารถด้านดนตรี ไม่ว่าจะเป็น วิโอร่า เปียโน อูกูเลเล่ และกีต้าร์ ครั้งนี้เธอโชว์เพลงละครบรอดเวย์ได้ประทับใจคนดูอีกเช่นเคย

“หนิง” เปิดใจหมั้น "จิน" ฟ้าแลบเดือนมิ.ย. ชมเป็นคนดี มั่นใจฝากชีวิตไว้ได้

กลายเป็นข่าวดีที่แสนจะโรแมนติก เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 54 ที่ผ่านมาหนุ่มไฮโซ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ได้สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคุกเข่าขอนางร้ายสาว "หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ" แต่งงานบนเรือสำราญสุดหรู หลังคบหากันมาได้เกือบปี พร้อมมีสักขีพยานเป็นเพื่อนพ้องในวงการบันเทิงพร้อมหน้าพร้อมตาอาทิ อ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์, อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งอดีตหนุ่มรู้ใจอย่าง "บิ๊ก ศรุต วิจิตรานนท์" ก็อยู่ร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย ซึ่งหนิงได้เปิดใจถึงข่าวดีด้วยน้ำเสียงชื่นมื่นว่า…
     
"ในวันที่เขาขอแต่งงานวันนั้นเพื่อนๆ ที่ทราบเขาก็ดีใจไปกับเราด้วย ทุกคนเขาก็ดีใจด้วย เขาอยากให้เกิดสิ่งดีๆเกิดขึ้นกับเรา ทุกคนก็มาร่วมงานเราก็โอเค คือวันนั้นถือว่าเซอร์ไพรส์สำหรับเรามาก เพราะหนิงไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลยและก็ไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดเหตุการณ์ นี้ขึ้น วันนั้นก็รู้สึกงงๆ แต่ก็ตื่นเต้นมากค่ะ"
     
"ถามว่ามั่นใจในตัวเขาว่าจะดูแลได้มากน้อยแค่ไหน คือหนิงต้องบอกว่า เขาเองเป็นคนที่ไว้ใจและเชื่อถือได้มากทีเดียว เขาเป็นคนดีมาก เขาดูแลเราและดูแลคนรอบข้าง มันเป็นนิสัยส่วนตัวเขา อันนี้คือข้อดีของเขา ซึ่ง วันนั้นที่เขาขอแต่งงานหนิงไม่ได้เซย์เยสเขาไป เพราะมันไม่ได้อยู่ที่หนิงคนเดียว มันต้องขึ้นกับผู้ใหญ่ หนิงยังไม่อยากพูดอะไรมากตอนนี้"
     
"สำหรับหนิงคิดว่า ความคิดหรือแนวโน้มที่ผู้ใหญ่เขาคิด มันก็น่าจะดีนะ คือทางคุณพ่อคุณแม่หนิงเขาก็ไม่ได้กีดกันอะไร แต่พอมีข่าวออกมาแบบนี้ เราต้องคิดถึงคนรอบข้างผู้ใหญ่ มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เพราะมันคือชีวิตทั้งชีวิตของคนสองคน"
     
ยัน เรื่องฤกษ์แต่งงานยังไม่ได้กำหนด เพราะต้องขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย ส่วนฤกษ์หมั้นถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะเป็นเดือนมิถุนายนนี้ แต่ยังไม่ได้ระบุวัน
     
"หมั้นมิถุนายนค่ะ เรื่องแต่งงานตอนนี้หนิงว่า ขอให้เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ไปก่อนดีกว่าว่าจะยังไง เพราะยังไม่อยากพูดอะไรในตอนนี้ ตอนนี้ให้เป็นเรื่องของทางผู้ใหญ่ไปก่อนดีกว่า เราต้องให้เกียรติทางผู้ใหญ่ คือการขอแต่งงานครั้งนี้มันเป็นเรื่องการเข้าใจกันระหว่างตัวหนิงและจิน มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ ค่ะ สุดท้ายแล้วก็ต้องให้ผู้ใหญ่คุยกันก่อน พอข่าวออกไปทางครอบครัวหนิงก็ไม่ได้ว่าอะไร มันไม่ใช่แค่เรื่องของเราสองคน มันเป็นเรื่องระหว่างผู้ใหญ่ต้องคุยอะไรหลายๆ อย่าง มันต้องทำตามขั้นตอน แต่ตอนนี้หนิงตอบไม่ได้ต้องขอโทษด้วย"

"ขวัญ''รับกดดันเล่นบทเด็กถึงบทแม่ใน"โบ๊เบ๊''..โต้'หมวดบีม''ยุทะเลาะ"แม่''

หลังจากที่ละคร ''เพลิงพรหม'' ลาจอไปได้ไม่นาน ล่าสุดสาว ''ขวัญ'' อุษามณี ไวทยานนท์ ก็มีละครเรื่องใหม่ออกมาเรียกกระแสเรตติ้งให้แฟนละครได้ชมกันต่อในละคร ''โบ๊เบ๊'' ของค่ายดาราวีดีโอ ที่งานนี้สาวขวัญบอกว่าเป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่บทบาทค่อนข้างท้าทายพอ สมควร เพราะต้องเล่นบทตั้งแต่เด็กจนบทแม่ นอกจากนี้สาวขวัญก็ยังได้ออกมาโต้ข่าวลือเรื่องที่ ''หมวดบีม'' ยุให้ทะเลาะกับแม่ของตนนั้น ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่ได้มีการชวนไปเที่ยวจนเบี้ยวงานด้วย

สำหรับ ''เพลิงพรหม'' เพิ่งจบไปคาแรกเตอร์นี้เปลี่ยนไปเลยไหม

"ในเรื่องนี้จะได้เห็นมุมที่เป็นตัวหนูหลากหลายมากขึ้นจะได้ไม่กลัวหนูไง เพราะเรื่องนั้นหนูก็ฆ่าไปหลายคนเหมือนกัน"

เรื่องนี้แคแรกเตอร์สบายกว่าเรื่องที่แล้วไหม

"คนละแนวค่ะ เรื่องโน้นก็สนุกดี ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น และนี้ก็มาเป็นอีกบทบาทหนึ่งที่ดรามาเบาๆ หน่อยเพราะว่าพี่ซีจะหนักซะส่วนใหญ่ของหนูก็จะเป็นอารมณ์ของเด็กที่โกรธ ร้องไห้"

เห็นว่าในเรื่องนี้เราต้องสวมบทบาทเล่นตั้งแต่เด็กจนโตด้วย

"ตื่นเต้นดีค่ะเรื่องนี้ เพราะว่าไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ คือนอกจากที่จะเล่นตั้งแต่บทเด็กแล้วก็ต้องเล่นบทแม่ตอนท้ายๆ ด้วยเหมือนคุณแม่มาเล่นแทนเลย (หัวเราะ)"

มีข่าวลือว่าหมวดบีมยุให้เราทะเลาะกับคุณแม่จริงหรือเปล่า

"ไม่มีอะไร เพราะว่าแม่กับพี่บีมไม่ได้มีปัญหาอะไรกันและอีกอย่างเรื่องในครอบครัวแม่ กับลูกทะเลาะกันไม่ได้อยู่แล้วอย่างมากก็แค่งอนกันค่ะ"

หลังจากที่มาคบกับหมวดบีมคุณแม่ว่าอย่างไรบ้าง

"แม่ปลื้มทุกคนค่ะคนไหนที่ดีกับลูกแม่ก็ดีด้วย"

มีโอกาสได้เจอกับคุณแม่หรือยัง

"เจอกันบ้างคุยกันบ้าง แต่ว่าไม่ถึงกับบ่อยมาก เพราะว่าพี่บีมทำงาน"

มีข่าวว่าคุณสั่งติดจีพีเอสในรถเราเพื่อติดตามตัวเรา

"จีพีเอสหนูว่ารถทุกคันมีอยู่แล้วนะคะ เพราะว่าเป็นสัญญาณกันขโมยหนูยอมรับว่าพ่อกับแม่หนูเป็นคนไฮเทคค่ะ แต่ไม่ได้เป็นการติดตามลูกสาว"

คุณแม่มีเตือนอะไรบ้างไหมเกี่ยวกับความความรักของเรา

"เตือนค่ะ คุณแม่บอกว่าทำอะไรก็อย่าให้ออกนอกกรอบ โตแล้วรู้ว่าอันไหนควรไม่ควรอันไหนดีไม่ดี แม่เขาก็สอนขวัญทุกวัน"

แสดงว่าคนนี้ถูกใจเป็นพิเศษ เพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยเปิดตัวดูใจ

"อันนี้หนูบอกว่าหนูคุยกับพี่เขา มันเป็นการไม่น่าเกลียดด้วยเพราะหนูเรียนจบแล้ว"

พี่บีมมาหาที่กองบ่อยไหม

"บ้างค่ะ ถ้าพี่เขาเสร็จงานก็จะซื้อขนมนมเนยมาให้หรือไม่ก็พาไปกินข้าวกับคุณแม่ คือเขาเป็นพี่ที่เป็นสุภาพบุรุษเสมอต้นเสมอปลายค่ะ ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดีกับขวัญกับครอบครัวด้วยค่ะ"

มีข่าวลือว่าเราไปเที่ยวกับหมวดบีมจนเบี้ยวงานที่ต่างจังหวัด

"ขวัญไม่เคยไปเที่ยวกับพี่เขาเลย ตอนนี้ขวัญทำงานทุกวัน 7 วันไม่มีเวลาว่างอยู่แล้ว"

รู้สึกอย่างไรบ้างที่เราเปิดตัวคบกับพี่เขาแล้วมีข่าวแง่ลบออกมา

"หนูว่าข่าวด้านลบของหนูมีมาตั้งนานแล้ว อย่างที่บอกขวัญไม่มีผู้จัดการ เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไรก็มีผลกระทบเข้ามา เพราะไม่มีกำแพงที่จะป้องกันตัวเราเองแล้วก็คำพูด เพราะฉะนั้นเวลาหนูให้ สัมภาษณ์ก็จะไม่ไปทำร้ายใคร"

มีอธิบายให้พี่เขาฟังไหม เพราะทุกข่าวดึงเขามาเกี่ยวหมดเลย

"ก็อธิบายบ้างค่ะหนูก็บอกพี่นักข่าวและก็พี่บีมด้วยค่ะว่า หนูไม่ได้เอาพี่เขามาพัวพันอะไรมากมาย ที่ถามมาถ้าเราเคลียร์ได้เราก็เคลียร์"

คาดหวังรักครั้งนี้มากน้อยขนาดไหน

"จะทำให้ดีที่สุดค่ะ"

อย่าลืมติดตามรับชมฝีมือการแสดงละครของสาวขวัญในบทบาทคุณหนูแสน เรียบร้อยได้ในละคร ''โบ๊เบ๊'' ที่ออกอากาศทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เวลา 20.30 น. ทางช่อง 7

อยากย้ายบ้านหนี "หนูนา" เศร้าฟอร์จูนเนอร์หาย

''หนูนา'' นักแสดงสาวชื่อดังจากภาพยนตร์สุดฮิต ''กวน มึน โฮ'' เศร้าถูกโจรมือดี ฉกกุญแจ ขโมยรถฟอร์จูนเนอร์คันโปรด แถมสูญทรัพย์สินมูลค่าอีกหลายหมื่นที่อยู่ในรถ เผยเคยคิดอยากย้ายบ้านหนี เจ้าตัวเปรยเตรียมมาตราการป้องกันติดกล้องวงจรปิดให้รอบบ้าน วอนโจรใจร้ายเอารถมาคืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 พ.ค. 54 พ.ต.ท.อานนท์ เชื้อมีแรง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่ามีเหตุลักทรัพย์ รถยนต์ ที่บ้านเลขที่ 107/249 ม.6 ตบางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง ภายในหมู่บ้านบ้านบัวทอง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิชาติ เรือนทิพย์ รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พ.ต.อ.โสภณ พึงไชย ผกก., พ.ต.ต.เกียงศักดิ์ อัฒฑพงษ์ สว.สส. เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่า เป็นบ้าน เดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 50 ตรว. หน้าบ้านเขียนว่า บ้านโสภณ หนูนา& สุไอร์ ภายในบ้าน พบกับ นายวิเชียร โสภณ อายุ 45 ปี, นางศศิธร โสภณ อายุ 40 ปี และ น.ส.หนึ่งธิดา โสภณ อายุ 19 ปี หรือ หนูนา นางเอกชื่อดังจากภาพยนตร์ ''กวน มึน โฮ''

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุ สันนิษฐานว่าน่าจะมา 1-2 คน ปีนเข้ามาทางด้านหลังบ้านที่เป็นพื้นที่ว่าง รกร้าง และมีหญ้าขึ้น โดยคนร้ายได้เดินมาทางด้านข้างบ้าน ซึ่งเป็นบริเวณที่มีหน้าต่างบานเลื่อนที่ไม่ได้ล็อกไว้อยู่ โดยคนร้ายเปิดกระจกบานเลื่อนที่ไม่ได้ล็อกไว้ แล้วใช้ที่ช้อนปลา ขนาด 10 ซม. ที่วางอยู่ข้างบ้าน ต่อกับไม้อีกอัน เขี่ยกุญแจบ้าน และกุญแจรถ ที่ว่างอยู่ในตะกร้าพลาสติกที่วางอยู่บนโต้ะรับแขก ให้ตกลงในที่ช้อนปลา แล้วนำกุญแจเปิดประตูบ้าน พร้อมกับขับโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ญฒ 7884 กทม. คันดังกล่าวออกไป

นอกจากนี้คนร้ายยังได้นำกุญแจรถทั้ง 4 คัน พร้อมกับกุญแจบ้านไปด้วย ส่วนรถเก๋งที่คนร้ายไม่ได้เอาไปมี รถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีบรอนซ์ ทะเบียน 4421 กทม. อีก 1 คัน เป็นเชฟโรเลต สีดำ ทะเบียน กต 1821 พระนครศรีอยุธยา จอดอยู่หน้าบ้าน และจยย.อีก 1 คันจอดอยู่ข้างบ้าน คนร้ายไม่ได้เอาไปด้วย ทั้งที่มีกุญแจเหมือนกัน

ต่อมา เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่วิทยาการ ได้เดินทางมาทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงในที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานในการติดตามคนร้าย โดยมี นายนายวิเชียร โสภณ  เป็นผู้พาชี้จุดเกิดเหตุ

ด้าน นางศศิธร โสภณ เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 07.00 น. ตนได้ตื่นนอนมาและเดินลงมาชั้นล่างเพื่อเดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน แต่พบว่ามีไม้ที่ช้อนปลาอยู่ที่โซฟาภายในบ้าน โดยสอดมาทางหน้าต่าง เป็นบานเลื่อนกระจกถูกเปิดออก พร้อมกับสังเหตุเห็นว่า ตะกร้าใส่กุญแจรถ และกุญแจหน้าบ้านหายไป จึงเปิดม่านหน้าบ้านเพื่อดู และพบว่าประตูรั้วถูกเลื่อนเปิดอยู่ พร้อมกับพบว่า รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ญฒ 7884 กทม. ที่จอดอยู่ภายในบ้านหายไป รวมทั้งกระเป๋าเงินของตนเองที่มีเอกสาร บัตรเครดิต เงินสดจำนวนหนึ่ง ที่วางอยู่บริเวณโซฟารับแขกก็หายไปด้วย สำหรับทรัพย์สินที่อยู่ภายในรถ มีกล้องถ่ายรูปนิคอน 1 ตัว ราคากว่า 30,000 บาท แว่นตากันแดดเรย์แบน 2 อัน ราคา 32,000 บาท ไอแพด 1 ตัว ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
   
ด้าน น.ส.หนึ่งธิดา โสภณ หรือ หนูนา นางเอกสาว กล่าวว่า ตนรู้สึกเสียดาย เพราะว่าแม่กำลังจะยกรถคันนี้ให้กับตนเอง และอยากจะบอกคนร้ายที่เอารถไป ขอวอนให้นำมาคืนด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะต้องใช้ติดต่องาน และทำงานด้วย จากนี้ไปจะติดกล้องวงจรปิดให้ทั่วบ้านเลย เพราะก่อนหน้านี้ก็ถูกคนร้ายเข้าบ้านมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยขโมยเอารองเท้าของตนเองไปหมดเลย กว่า 40 คู่ มูลค่ากว่า 1 แสนบาท

''ก็รู้สึกเสียใจค่ะ ก็อยากได้รถกลับคืนมา ทรัพย์สินที่สูญหายไปนอกจากรถ ก็มีกุญแจรถ กุญแจบ้าน กระเป๋าสตางค์ของคุณแม่ รวมทั้งกล้องดิจิตอลของคุณแม่ด้วยค่ะถ้าถามว่าสงสัยใครตอนนี้ไหม ตอนนี้ก็กำลังดูๆ อยู่ค่ะ เพราะมีคนงานเข้ามาทำความสะอาดที่บ้านด้วยค่ะ ตอนนี้ตอบตรงๆ ว่ายังไม่แน่ใจ เหตุเกิดน่าจะเป็นช่วงตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 7 โมงเช้า ซึ่งตอนนั้นหนูกำลังนอนหลับสบายเลย โอกาสที่จะได้คืนเปอร์เซ็นต์คงน้อย แต่ก็อยากขอคืนเถอะค่ะ เพราะหนูจำเป็นต้องใช้รถคันนี้ ต้องใช้ไปทำงานด้วย คันนี้ก็เพิ่งซื้อมาใช้ได้ประมาณ 2-3 ปี ก็ยังอยากที่จะใช้อยู่ อีกอย่างคุณแม่เพิ่งบอกเมื่อวานเองว่ารถคันเล็กๆ อย่าเอาเลย เดี่ยวลูกเอาคันนี้แหละไปใช้จะได้ขับไปนั่นโน่นนี่ได้ แต่ตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นมันแล้ว บ้านนี้ก็เคยถูกขโมยขึ้นมาแล้วครั้งนึงตอนนั้นก็มาขโมยรองเท้าที่อยู่ในตู้ รองเท้าไปกว่า 40 คู่ ก็มีราคาแพงหลายคู่ค่ะ น่าจะประมาณ 1 แสนได้ เหลือแค่รองเท้านักเรียนกับรองเท้าผ้าใบ ก็เคยคิดเหมือนกันที่อยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น หลังจากนี้ไปคงต้องมีการตั้งตู้แดงหน้าบ้านและตั้งกล้องวงจรปิด คงต้องมีแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง คอยทวิตเตอร์ ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ ก็อยากจะฝากบอกไปยังคนที่มาเอารถหนูไปให้เอามาคืน เพราะผูกพันกับมันมากและจำเป็นต้องใช้มันจริงค่ะ'' ส่วน พ.ต.อ.อภิชาติ เรือนทิพย์ รอง ผบก.ภ.จ.นนทบุรี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกดูกล้องวงจรปิด ตามเส้นทาง และตามปั๊มน้ำมัน หรือที่เปลี่ยว ซึ่งคนร้ายอาจจะนำรถไปจอดไว้ และคนร้ายน่าจะทำงานคนเดียว เพราะ มีกุญแจรถยนต์ อีก 2 คัน แต่คนร้ายไม่เอา เลือกเอาคันใหม่ไป และรู้ว่ากุญแจรถอยู่ที่บนโต๊ะ อาจจะเป็นคนที่เคยเข้าออกบ้านนี้หรือเปล่า จะสอบสวนต่อไป และก่อนหน้านี้มีช่างมาทำบ้านด้วย ก็จะสอบสวนดูว่าเกี่ยวข้องหรือไม่

ต่อมา นายศักดิ์ชัย นุชนุ่ม ตัวแทนบริษัท ประกันภัย สินมั่นคง ที่ได้ทำประกันรถไว้ ได้เดินทางมาที่บ้านเกิดเหตุ และกล่าวกับ นายวิเชียร โสภณ ทางบริษัทฯ ชดเชยค่ารถหายให้จำนวน เงิน 550,000 บาท

สำหรับผลงานด้านการแสดงของ น.ส.หนึ่งธิดา โสภณ อายุ 19 ปี หรือ หนูนา โด่งดังจากภาพยนตร์ เรื่อง กวน มึน โฮ และได้รับรางวัลสุพรรณหงส์ทองคำ นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม ปีล่าสุด จากเรื่อง กวน มึน โฮ และมีละครทีวี เรื่อง โลมากล้าท้าฝัน และ หมวดโอภาส ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี, ละครซิตคอมเทวดาสาธุ ทางช่อง 3 และยังเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาโฟมล้างหน้าพอนด์ส, รถจักรยานยนต์ฮอนด้า, ผลิตภัณฑ์แต่งทรงผมเลอซาช่า และโครงการต้านยาเสพติด อีกด้วย และขณะนี้กำลังจะมีผลงานเพลงกับค่ายแกรมมี่ อีก 1 ชุด ในตอนนี้เสร็จไปแล้ว 1 เพลง ในเพลง รักแท้แค่หนึ่งคน

"ป้าง"ฉุนถูกหาติดเอดส์"มิยาบิ"รำคาญเพื่อนล้อ

เงียบหายไปจากวงการหนังเอวี (หนังโป๊ญี่ปุ่น) สำหรับ มาเรีย โอซาว่า มิยาบิ นางเอกชื่อดังของวงการหนังเอวี เพราะเกิดกระแสข่าวว่า เธอติดเชื้อร้ายเอดส์ และส่งผลถึงหนุ่มร็อกหัวล้าน ''ป้าง'' นครินทร์ กิ่งศักดิ์ ที่ดึงตัวเธอมาแสดงมิวสิกวิดีโอเพลง ''ปอดแหก'' เมื่อไม่นานมานี้ และได้มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้งจนร็อกเกอร์หนุ่มนั้น ได้รับเชื้อเอดส์จากมิยาบิเช่นเดียวกัน อีกทั้งนักร้องหนุ่มได้เงียบหายไม่ออกมาแก้ข่าวดังกล่าว จนทำให้หลายคนคิดว่าเป็นเรื่องจริง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2554  ร็อกเกอร์ ''ป้าง'' ได้มาร่วมงานแถลงข่าว ''GREEN CONCERT '' 14 DA & THE IDOLS UNBREAK MY HEART'' (กรีน คอนเสิร์ต '' 14 แอนด์ ดิ ไอดอล อันเบรก มาย ฮาร์ท) ที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่  โดยเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงเรื่องนี้แบบไม่สบอารมณ์ว่า ตนยอมรับว่าช่วงนี้สุขภาพไม่ค่อยดี แต่ไม่เกี่ยวกับการติดเชื้อเอดส์ ที่ตนเงียบไม่ออกมาแก้รู้สึกว่าข่าวนี้มันต่ำ ข่าวมันฆ่าตัวเองอยู่แล้ว และตนก็ให้เกียรตินางเอกเอ็มวี และไม่ส่งผลกระทบต่องานเพลง

''ข่าวนี้สำหรับผมมันเป็นเรื่องที่ต่ำนะ ผมก็เลยไม่อยากพูดถึง ฟังครั้งแรกรู้สึกรำคาญครับ แต่ผมก็ไม่ได้รำคาญถึงขนาดต้องออกมาแก้ เพราะโดยข่าวเองมันต่ำจนมันฆ่าตัวเองอยู่แล้ว ไม่มีใครมานั่งประกาศหรอกว่า ฉันเป็น HIV หรือมานั่งประกาศว่า ฉันขอโทษคนนู้นคนนี้ แล้วผมเชิญเขามาผมต้องให้เกียรติเขา คือเขาเป็นผู้หญิง เชิญเขามาเป็นนางเอกเอ็มวีเรา สิ่งที่ผมต้องทำคือต้องให้เกียรติเขามากที่สุด ข่าวนี้มันต่ำ ส่วนผลกระทบไม่ค่อยส่งผลเท่าไหร่ครับ แต่จะรำคาญ ที่ผมไม่ตอบโต้ก็เพราะอย่างที่บอกว่ามันไม่จำเป็น โดยตัวข่าวมันฆ่าตัวเองอยู่แล้ว มันบ้าบอคอแตกอยู่แล้ว ผมไม่รู้สึกว่าต้องตอบโต้อะไร แต่ที่ว่าสุขภาพไม่ค่อยดีช่วงนี้ก็จริง เพราะเมื่อคืนก่อนเพิ่งเป็นหวัดลงคอ นี่ก็พยายามอัดยาลดไข้แล้วก็มาเนี่ยครับ (หัวเราะ) แต่สักประมาณอาทิตย์นึงก็น่าจะหายแล้วครับ''
        
ป้าง เผยต่อว่า เรื่องนี้ไม่มีผลครอบครัว แต่ตนรำคาญที่โดนเพื่อนฝูงนำมาล้อเป็นเรื่องหัวเราะ ''คนรอบตัวผมจะหัวเราะกับข่าวนี้ หัวเราะจนผมยังรำคาญเลยว่า จะหัวเราะอะไรนักหนา (หัวเราะ) เขาจะหัวเราะกัน เพื่อนก็มาแซว เป็นเรื่องเฮฮาในกลุ่มเพื่อนกันไป แต่ก็อย่างที่บอกว่ามันน่ารำคาญ'' ป้าง กล่าว

"ไบรโอนี่"อวดลูกสาวหน้าเหมือนกันเป๊ะ

มีภาพอัพเดตออกมาเป็นระลอก สำหรับอดีตนักร้องสาว เคท ไบรโอนี่ ที่ยอมมาเปิดตัวในรายการของนักร้องหนุ่ม ''มอส'' ปฏิภาณ ปฐวีกานต์ ในรายการ ''มอสกินซ่า'' หลังจากที่ก่อนหน้านี้อดีตนักร้องสาวได้ออกร่วมงานรายการตะลอนเที่ยวลอสแอ นเจลีส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย อเมริกา ที่สาวเคทอยู่

โดยคืนวันพฤหัสฯ ที่ 2 มิถุนายนนี้ เวลา 23.40-00.20 น. ทางททบ.5 พิธีกรและโปรดิวเซอร์มอสยังคงอยู่กับน้องสาวสุดเลิฟ เคท ไบรโอนี่ ที่วันนี้ขอโชว์รูปลูกสาวสุดที่รัก ''เทเลอร์'' (Taylor) มาอัพเดตในรายการ ''มอสกินซ่า'' ให้ชมกันชัดๆ เต็มๆ ถึงความน่ารักน่าชังอีกด้วย

จากนั้น ''มอส-เคท'' ควงกันไปร้านแฮมเบอร์เกอร์ ''IN-N-OUT'' ที่อร่อยที่สุด และดังที่สุดในอเมริกา ก่อนจะพาแฟนๆ รายการไปเข้าคลาสเรียนโยคะที่สตูดิโอ ''Equinox'' ตั้งอยู่ในย่าน ''Sunset Boulevard'' พร้อมดูลีลาโยคะระดับแอ็ดวานซ์ของคุณแม่ยังสาว ''เคท ไบรโอนี่'' อีกด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"บียอนเซ"โดนเหน็บการแสดงในงานบิลบอร์ด ลอกไอเดียนักร้องอิตาเลียน

บียอนเซ ได้ขึ้นแสดงในเพลง Run The World (Girls) โดยมีฉากเป็นแอลอีดีขนาดยักษ์เพื่อแสดงดิจิตอลเอฟเฟ็คท์ต่างๆ ผสมผสานกับท่าเต้นประกอบเพลงของบียอนเซ
     
แต่แล้วนักร้องสาวที่มีรางวัลการันตีมาแล้วมากมายกลับต้องถูกกล่าวหา ว่าการแสดงที่น่าตื่นตาตื่นใจของเธอนั้น ได้ขโมยไอเดียการแสดงนี้มาจากนักร้องสาวป็อปสตาร์ชาวอิตาเลียนที่ชื่อ โลเรลลา คุคคารินี ที่ได้แสดงไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว
     
ซึ่งการแสดงของทั้ง 2 ศิลปินต่างก็มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก ซึ่งการออกแบบภาพเคลื่อนไหวต่างๆนับได้ว่าแทบจะเหมือนกันทั้งในเรื่องของ การใช้ปีก กำแพงที่แตกสลายลงหลังนักร้องสาวใช้มือทำลาย รวมถึงเหล่ากองทัพที่ยืนเป็นแดนเซอร์อยู่ด้านหลัง
     
เรียกได้ว่าไอเดียการทำกราฟฟิกครั้งนี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่เป็นสิ่งที่คล้ายกันกับอีกศิลปินอย่างไม่น่าเชื่อ จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมายในอินเตอร์เน็ตระหว่างแฟนเพลง ทั้งสองฝั่ง
     
แต่ในเวอร์ชันของบียอนเซนั้นต้องเรียกได้ว่ากินขาดและน่าสนใจกว่าด้วยบีทที่หนักแน่นและรวดเร็วและฟังดูมีพลัง ซึ่งในฝั่งของโลเรลลา นั้นออกไปทางโซลมากกว่า
     
โดยหลังจากได้ชมการแสดงอันน่าตื่นตาของบียอนเซเป็น ที่เรียบร้อย เหล่าคนดังที่ได้นั่งชมต่างก็แสดงความยินดีโดยรีบทวีตข้อความขึ้นทวิตเตอร์ ว่า "บียอนเซ เจ๋งจริงๆ ว้าว!! ฉันพูดได้อย่างเดียวว่า บียอนเซ เป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ตัวจริง!! คุณสมควรที่จะประสบความสำเร็จแล้วล่ะ! ทำงานหนักทุ่มเทขนาดนี้!" มิสซี เอลเลียท ชื่นชมนักร้องสาว
     
ด้านรีฮันนาที่ลุกขึ้นปรบมือให้กับบียอนเซหลังเธอแสดงจบก็ได้เขียนข้อความลงในทวิตเตอร์ว่า "ขอแสดงความยินดีกับบียอนเซในงานประกาศรางวัลครั้งนี้"
     
อย่างไรก็ตามทางตัวแทนจากทั้ง 2 ศิลปินยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อการแสดงที่แทบจะเหมือนกันนี้แต่อย่างใด

"บริทนีย์ - รีฮันนา"จุ๊บโชว์บนเวทีในงานประกาศผลบิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส์


งานประกาศผลรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส์ ปีนี้นับว่าคึกคักมากทีเดียว โดยงานนี้การแสดงที่เป็นที่จับตามองอย่างมากคือการแสดงของ"รีฮันนา"และ"บริ ทนีย์ สเปียร์ส"ที่มีการจุ๊บโชว์บนเวที นอกจากนั้นงานนี้"จัสติน บีเบอร์"ยังจูบ"เซเลนา โกเมซ"โชว์กล้องเช่นกันก่อนคว้ารางวัลกลับบ้านไปถึง 6 รางวัลเช่นเดียวกับ"เอมิเน็ม"
     
เรียกได้ว่าการประกาศผลรางวัล บิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส์ ที่จัดขึ้นในลาสเวกัสเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมากกับการแสดงของรีฮันนา และ บริทนีย์ สเปียร์ส
     
โดยหลังจากที่รีฮันนา และ บริทนีย์ ร้องเพลง S&M ด้วยกันในชุดหนังสุดเซ็กซี่ รีฮันนานักร้องสาววัย 23 ปี ก็ได้จุ๊บที่แก้มของบริทนีย์ นักร้องสาวรุ่นพี่วัย 29 ปีไปหนึ่งที ซึ่งนับว่าแรงน้อยกว่าเมื่อครั้งที่บริทนีย์ประกบปากกับมาดอนนา บนเวที MTV อวอร์ดส์ อยู่มากทีเดียว
     
การแสดงครั้งนี้ของ 2 นักร้องสาวนับว่าเซ็กซี่เป็นอย่างมาก โดยนอกจากชุดหนังรัดรูปสุดเซ็กซี่แล้ว ยังมีทั้งโซ่และกุญแจมือประกอบการแสดงด้วย ก่อนที่ทั้งคู่จะจบโชว์ด้วยการนำหมอนมาตีเหล่าบรรดาแดนเซอร์หนุ่มจนขนนกกระ จัดกระจาย นับได้ว่าการแสดงครั้งนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี
     
นอกจากจะมาร่วมแจมกับรีฮันนาในเพลง S&M แล้ว บริทนีย์ยังร่วมแจมกับ นิคกี้ มินาจ นักร้อง-นักแต่งเพลงสาววัย 26 ปีในเพลง Till the World Ends ด้วย ซึ่งในการแสดงครั้งนี้ดูเหมือนบริทนีย์ดูจะฟิตและมีพลังในการเต้นมากขึ้นกว่าหลายๆเดือนที่ผ่านมา
     
นอกจากการแสดงของบริทนีย์ที่มาร่วมแจมกับ 2 นักร้องสาวรุ่นน้องแล้วยังมีการแสดงของบียอนเซ ที่ทุกคนต่างตั้งตารอด้วย โดยงานนี้เธอนำเพลงใหม่อย่าง Run The World มาแสดงบนเวทีได้อย่างสุดเซ็กซี่เลยทีเดียว
     
นอกจากนั้นยังมีการแสดงของศิลปินชื่อดังมากมายทั้ง Black Eyed Peas, Ke$ha, ซี โล กรีน, คีธ เออร์เบิน และ นีล ไดมอนด์ ด้วย
     
การแสดงครั้งนี้เกิดขึ้นต่อหน้าศิลปินชื่อดังมากมาย โดยทีเด็ดที่ถูกจับตามองมากที่สุดเห็นจะเป็นคู่ของคู่รักวัยละอ่อนอย่าง จัสติน บีเบอร์ และ เซเลนา โกเมซ ซึ่งเรียกได้ว่าคู่รักคู่นี้ทำให้หลายๆคนนึกย้อนไปถึงภาพสมัยที่จัสติน ทิมเบอร์เลก คบหาอยู่กับ บริทนีย์ สเปียร์ส เลยก็ว่าได้
     
ซึ่งงานนี้ทั้งคู่ต่างก็แสดงความหวานกันตลอดเวลา นั่งอิงแอบแนบชิด โดยมือของเซเลนานั้นก็วางอยู่ที่ขาของจัสติน พร้อมกับยิ้มสู้กล้องกันตลอด โดยจัสตินเองก็สามารถคว้ารางวัลกลับบ้านไปได้ถึง 6 รางวัลเลยทีเดียว
     
โดยจัสตินเฉือนเอาชนะ บรูโน มาร์ส และ นิคกี มินาจ คว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยมไปครองได้สำเร็จ โดยเขากล่าวต่อหน้าผู้ชมว่า "ผมอายุ 17 ปี ทุกๆวันของผมมันบ้ามากเพราะว่าผมได้เจอผู้คนเยอะมาก และผมทำให้คนมากมายยิ้มได้ครับ"
     
นอกจากนั้นนักร้องหนุ่มน้อยชาวแคนาดายังสามารถคว้ารางวัลอื่นไปครอง ได้ทั้ง Digital Artist of the Year, Fan Favourite of the Year, Top Social Artist, Top Streaming Artist, Top Pop Album และ Top Pop Album.
     
ซึ่งงานครั้งนี้ เอมิเน็ม แร๊ปเปอร์ผิวขาวชื่อดังก็คว้ารางวัลไปได้ 6 รางวัลเช่นเดียวกับจัสติน บีเบอร์ โดย เขาคว้ารางวัลในสาขาสำคัญๆไปได้ทั้ง Top Artist, Top Male Artist, Top Billboard 200 Albums, Top Rap Artist, Top Rap Song และ Top Rap Album.
     
ซึ่งก่อนหน้านี้ เอมิเน็ม เคยคว้ารางวัลใหญ่อย่าง Best Album of the Year และ Best R&B Hip Hop Album of the Year จากเวทีนี้เมื่อปี 2002 ไปได้ นับได้ว่าเขาสามารถคว้ารางวัลจากเวทีบิลบอร์ด มิวสิค อวอร์ดส์ รวมแล้วถึง 8 รางวัลเลยทีเดียว
     
งานนี้ไม่ได้มีแต่ฝ่ายชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จเท่านั้น ฝ่ายนักร้องสาวๆก็มีเช่นกันโดย เคที เพอร์รีย์, รีฮันนา และ ชากีรา ต่างก็คว้ารางวัลกลับบ้านกันไปคนละ 2 รางวัล ขณะที่บียอนเซ ก็ได้รับเกียรติให้คว้ารางวัล มิเลเนียม อวอร์ดส์ ในฐานะศิลปินที่ประความสำเร็จอย่างสูง
       

''เคที่ เพอร์รี่'' อึ้งกิมกี่ แม่สวนโกหกอดีต

คนเราอย่าโกหกอดีตของตัวเอง เพราะหลบยังไงก็หนีไม่พ้น และความจริงยังไงก็เป็นความจริงวันยังค่ำ ! เคที่ เพอร์รี่ นักร้องสาวอวบ แสนเซ็กซี่ของวงการเพลง โดนแม่บังเกิดเกล้าออกมาพูดแย้งบทสัมภาษณ์ ที่เธอบอกว่า สมัยเด็กวันๆ โดนบังคับให้อ่านแต่คัมภีร์ไบเบิล เพราะครอบครัวเคร่งศาสนา โดยคุณแม่บอกว่า เลี้ยงลูกสาวมาแบบเด็กธรรมดาสามัญ แม้จะเติบใหญ่มาใช้ชีวิตตรงกันข้ามกับพ่อ-แม่ก็ตาม

อดีตที่ว่า เคที่ เพอร์รี่ เติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งครัดศาสนานั้น แฟนๆ ส่วนใหญ่ต่างทราบดีอยู่แล้ว โดยช่วงที่เธอเพิ่งก้าวเข้ามาโชว์ลีลาก๋ากั่นนั้น ถึงขั้นมีข่าวว่า พ่อแม่เธอไม่พอใจมาก เนื่องจากลูกเป็นสาวเป็นแส้ แต่แต่งตัววาบหวิว และโชว์หน้าอกหน้าใจแทบล้นทะลักทุกวัน อย่างไรก็ตาม มันอาจไม่ได้หมายความว่า พวกเขาเลี้ยงลูกอย่างเคร่งครัดขนาดไม่ให้ลูกมีชีวิตวัยเด็กแบบที่ เคที่ กล่าวอ้าง
    
เคที่ เพอร์รี่ ที่ตอนนี้เป็นนักร้องโด่งดัง ร่ำรวยเงินทอง และมีผัวเป็นดาราตลกชาวอังกฤษ รัสเซลล์ แบรนด์ ไปให้สัมภาษณ์นิตยสาร ''วานิตี้ แฟร์'' และมีการคร่ำครวญถึงชีวิตวัยเด็กที่ถูกพ่อแม่เลี้ยงดูอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเรื่องศาสนา ที่ให้เธออ่านแค่ไบเบิล ทั้งยังแบนเธอจากอาหารไข่ๆ อย่าง Deviled Eggs ด้วย ''ฉันไม่ได้มีชีวิตวัยเด็กเลย ฉันมาจากครอบครัวที่ขวางโลกเอามากๆ แต่ฉันไม่ใช่''
    
นอกจากนี้ เคที่ ยังบอกอีกว่าองค์กรอย่าง ''Planned Parenthood'' ที่ดูแลสุขภาพผู้หญิง ไม่ต่างอะไรจากคลินิกทำแท้ง แต่ แมรี่ แม่ของเธอ บอกว่า ''เคที่ ถูกเลี้ยงดูมาตามปกติ และเราภูมิใจในตัวลูกสาว'' โดยจากปากของ แมรี่ เธอบอกว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับลูกสาว ก็เหมือนๆ กับความสัมพันธ์ของ ไมลี่ย์ ไซรัส กับคุณป๋า บิลลี่ เรย์ และคุณแม่ทริช ''ลูกของพวกเขาเติบโตสู่ชื่อเสียง และใช้ชีวิตตรงข้ามความเชื่อของพ่อแม่''

The Hangover II โดนฟ้อง เหตุลอกเลียนลายสักหน้า "ไมค์ ไทสัน"

ยังไม่ทันได้ เข้าฉายอย่างเป็นทางการ The Hangover II ก็มีอันต้องเจอเรื่องยุ่งยากทางกฏหมายจนได้ เมื่อศิลปินนักสักรายหนึ่ง ได้ยื่นฟ้อง บริษัทผู้สร้างว่าลอกเลียนผลงานรอยสักของเขา ที่เคยสักให้กับ "ไมค์ ไทสัน" ไปใช้เป็นรอยสักบนใบหน้าของตัวะละครที่สวมบทบาทโดย "เอ็ด เฮล์มส์" โดยไม่ได้รับอนุญาต
     
เอส. วิคเตอร์ วิธมิล ศิลปินรอยสักผู้เคยสักลวดลายบนใบหน้าให้กับอดีตนักมวยแชมป์เปี้ยนโลกรุ่นเฮฟวีเวต ได้ยื่นฟ้องร้องเอาผิดกับบริษัท Warner Bros. ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง The Hangover II และคดีได้เริ่มมีการพิจารณาในชั้นศาลไปแล้ว ซึ่งสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด อาจจะทำให้หนังดังเรื่องนี้ต้องเลื่อนการเข้าฉายออกไป ตามข้อเรียกร้องของผู้ฟ้องเลยทีเดียว
     
ในตอนหนึ่งของหนัง The Hangover Part II ที่เปิดเผยออกมาให้เห็นในตัวอย่างหนังกันด้วยนั้น จะเป็นการเล่นกับมุขความจำเสื่อมอีกครั้ง เมื่อตัวละคร "สตู" ที่สวมบทบาทโดยดาราตลก เอ็ด เฮล์มส์ จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับรอยสักบนใบหน้า เป็นรอยเดียวกับที่หลาย ๆ คน คุ้นเคยกันดีจากใบหน้าของ ไมค์ ไทสัน นั่นเอง
     
ซึ่งฉากดังกล่าว กลายเป็นเหตุให้ศิลปินผู้ออกแบบ และสักลวดลายดังกล่าวให้กับ ไทสัน ได้ตัดสินใจยื่นฟ้องผู้สร้างหนังเรื่องนี้ ในฐานความผิดละเมิดต่อกฏหมายลิขสิทธิ์ ที่นำลวดลายการสักของเขาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะที่เจ้าของรอยสักบนใบหน้าอย่าง ไทสัน ไม่ได้มีชื่ออยู่ในผู้ฟ้องแต่อย่างใด
     
New York Times ได้อ้างคำพูดของ เอส. วิคเตอร์ วิธมิล ว่า "ไม่เคยมีการขออนุญาตผม และผมก็ไม่เคยให้อนุญาตใคร นำมันไปใช้ หรือสร้างรอยสักใหม่ โดยอ้างอิงจากผลงานต้นแบบของผม" โดยศิลปินช่างสักรายนี้ยังร้องร้องให้มีการตัดฉากที่มีการลอกเลียนผลงานของ เขาอยู่ในหนัง หรือให้หนังเลื่อนฉายออกไปก่อนจนกว่าจะหาข้อยุติทางกฏหมายได้
     
ซึ่งฝ่ายของ Warner Bros. ได้ตอบโต้ในชั้นศาลว่า การเลื่อนฉายจะสร้างผลกระทบทางธุรกิจต่อหนังเรื่อง The Hangover Part II อย่างใหญ่หลวง นอกจากนั้นสตูดิโอยักษ์ใหญ่แห่งฮอลลีวูดยังโต้ตอบคำฟ้องในหลาย ๆ ประเด็น อาทิ
     
       - การใช้ลวดลายดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อ "ล้อเลียน" รอยสักของ ไทสัน ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก ยึงไม่น่าจะเข้าข่ายการละเมิดลิขสิทธิ์
     
       - รอยสักบนใบหน้าของ ไทสัน ไม่สามารถอ้างความเป็นเจ้าของได้ เพราะมันไม่ได้เป็นของใหม่ แต่ได้รับอิทธิพลจากรอยสักของชาวเมารีมาอีกต่อหนึ่ง
     
       - ซึ่งถ้าจะมีใคร มีสิทธิ์ต่อรอยสัก ก็ควรจะเป็นตัวของ ไทสัน ไม่ใช้ เอส. วิคเตอร์ วิธมิล
     
ซึ่งเมื่อปลายเดือน เม.ย. วิธมิล ยังเคยฟ้องร้อง Warner Bros. ให้มีการปลดโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ The Hangover II ที่ปรากฏรอยสักบนใบหน้าของ เอ็ด เฮล์ลส์ ออกทั้งหมดมาแล้ว
     
ถึงขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าคดีครั้งนี้จะมีบทสรุปอย่างไร แต่ทนายความรายหนึ่งได้ให้ความเห็นกับ New York Times ว่าไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะคดี หนังก็คงไม่น่าจะต้องมาเลื่อนฉายด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้
     
ยังมีการเปิดเผยว่า ไทสัน ที่ร่วมแสดงใน The Hangover ทั้งสองภาค ไม่ได้ทราบล่วงหน้าว่าจะมีมุขตลกเกี่ยวกับรอยสักของเขาในหนังภาคสองเลย จนกระทั่งถึงวันที่เขามาร่วมเข้าฉากแสดงบทรับเชิญนั่นเอง เอ็ด เฮล์มส์ เปิดเผยเรื่องนี้กับ EW.com ว่า
     
 "ปฏิกิริยาของเขากับรอยสักบนหน้าผมจะอยู่ในหนังเลย เพราะไม่มีการแจ้งล่วงหน้ากันก่อน เขาเดินทางมาถึงกองถ่ายก่อนจะเริ่มถ่ายทำนิดหน่อย มันชัดเจนว่าไม่มีใครบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องรอยสัก จริง ๆ ผมกังวลถึงเรื่องนี้อยู่เหมือนกันว่าเขาจะโกรธขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าเขารับได้นะ คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาอยู่เสมอ จริง ๆ ไทสัน เป็นคนที่เยี่ยมที่สุดเลย"

เผยเหตุเลิกนางแบบ "ลีโอ"อยากมีลูกตัวสั่น

จะเชื่อดีไหมเนี่ย? แหล่งข่าววงในออกมาเปิดเหตุผลที่ทำให้ ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ พระเอกนัยน์ตาโศก แห่งวงการฮอลลีวู้ด แยกทางกับ บาร์ เรฟาเอลี่ นางแบบสาวสุดปิ๊งชาวอิสราเอล เป็นเพราะฝ่ายชายอยากที่จะมีทายาทสืบสกุล แต่ในทางตรงกันข้าม เรฟาเอลี่ต่างหากที่ไม่ต้องการมีลูก และเมื่อตกลงกันไม่ได้ทางเลือกสุดท้ายก็คือการแยกทางกัน

หลังจากที่ดิคาปริโอแยกทางกับเรฟาเอลี่ ทำเอาหลายฝ่ายแทบไม่อยากเชื่อ เพราะไม่เคยมีข่าวระแคะระคายว่าจะจบชีวิตรักกัน แม้ก่อนนี้จะรักๆ เลิกๆ กันก็ตาม และตอนนี้ดูเหมือนว่า พระเอกสุดหล่อจากหนังรักดรามา ''ไททานิค'' จะหายเศร้าแล้ว เพราะกำลังแจกขนมจีบกับ เบลค ไลฟ์ลี่ย์ สาวหน้าหวานจากซีรีส์ดัง ''กอสซิป เกิร์ล'' และดูเหมือนว่าจะไปได้สวยซะด้วย เพราะทั้งคู่เพิ่งชวนกันไปเที่ยวสวีตบนเรือยอชต์ในเฟร้นช์ ริเวียร่า
    
ล่าสุดมีรายงานว่าเหตุที่ดิคาปริโอตัดใจเลิกกับเรฟาเอลี่ เพราะเขาอยากให้แฟนสาวมีทายาทสืบสกุลให้หากพวกเขาแต่งงานกัน แต่เธอไม่ต้องการเพราะยังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ เรื่องนี้แหล่งข่าวเพื่อนสนิท แฉว่า ''ลีโอบอกกับบาร์ว่า เขาคาดหวังที่จะมีลูกถ้าพวกเขาแต่งงานกัน ขณะที่บาร์แม้มองตัวเองว่ายังไงก็ต้องเป็นแม่ และต้องการสร้างครอบครัว แต่ตอนนี้อาชีพของเธอกำลังไปได้สวย เธอรู้ว่าเธอคงไม่สามารถเดินแบบได้ หลังจากที่ทำสัญญาเอาไว้อีกหลายงานหากเธอท้อง''
    
''ลีโอโมโหที่สิ่งที่เขาบอกเธอกับถูกเมินเฉย เขารู้สึกเหมือนกับว่าเสียเวลาที่จะอยู่กับเธอ เมื่อปีที่แล้ว ลีโอคิดอย่างจริงๆ จังๆ มาตลอด และตัดสินใจว่า บาร์คือคนที่ใช่ และเขาก็อยากมีลูกกับเธอมาก ลีโอได้เห็น โทบี้ แม็คไกวร์ เพื่อนรักของเขามีความสุขสุดๆ ตอนได้เป็นพ่อคน และลีโออยากเป็นแบบที่เพื่อนรักของเขาทำเป็น แต่บาร์บอกกับเขาว่าเธอยังไม่พร้อม นั่นทำให้ลีโอผิดหวังมาก''
    
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวบอกว่า แม้จะโกรธนางแบบคนสวยมากแค่ไหน แต่ดิคาปริโอก็พร้อมที่จะกลับมาคืนดีกับอดีตแฟนสาวอีกครั้ง เพียงแค่เธอเปลี่ยนความคิดยอมมีลูกกับเขาเท่านั้น โดยเพื่อนสนิทคนเดิมกล่าวเสริมว่า ''ลีโอจะกลับมาอยู่กับบาร์ทันที เพียงแค่เธอบอกกับเขาว่าเธอพร้อมที่จะเป็นแม่คน''

"คนเหล็ก"อ่วม "เจน ซีย์มัวร์"ร่วมแฉ บอกมีลูกลับอีก2คน

โดนแฉต่อไปอย่างไม่มีหยุดยั้ง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ พระเอกคนเหล็กชื่อดัง อดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเด็นแยกทางเมียรัก ตามด้วยแบกหน้ายอมรับว่า ทำแม่บ้านท้องจนมีลูกชายวัย 13 ขวบด้วยกัน มิหนำซ้ำยังถูกตามขุดคุ้ยประวัติต่างๆ นานาว่า เป็นคนเจ้าชู้ตัวพ่อ ล่าสุดเจอคนในวงการเดียวกันอย่าง เจน ซีย์มัวร์ นางเอกสาวคนงามรุ่นใหญ่ ออกมาบอกว่า เค้ารู้กันตั้งนานนมแล้วว่า อาร์โนลด์เจ้าชู้ และเธอเคยได้ยินมาด้วยซ้ำว่า ''อาร์นี่'' มีลูกลับๆ อีก 2 คน

นักแสดงสาววัย 60 ปี อดีตสาวบอนด์ ภาค ''Live and Let Die'' ออกมาร่วมแจมแสดงความเห็น หลังจากที่ อาร์โนลด์ พระเอก ''Terminator'' กลายเป็นข่าวพาดหัวใหญ่โต จู่ๆ ก็ประกาศแยกทางกับ มาเรีย ชรีเวอร์ ภรรยาคนสวย ที่อยู่กินกันมานานกว่า 25 ปี และยอมรับในเวลาต่อมาว่า เขามีสัมพันธ์สวาทกับ มิลเดร็ด เบน่า อดีตแม่บ้าน วัย 50 ปี จนมีลูกชายด้วยกัน 1 คน จนถูกแฉเพิ่มว่า เป็นคนเจ้าชู้ตัวพ่อ ชอบเคลมสาวหน้าตาธรรมดาๆ เพราะบูชาเขามากกว่าสาวหน้าตาสะสวย
    
ล่าสุด ซีย์มัวร์ ที่กลับมาสร้างความฮือฮาด้วยการถ่ายฉากเปลือยอกใน ''Wedding Crashers'' หนังคอมเมดี้สุดฮิตปี 2005 กล่าวว่า ''ฉันเคยได้ยินมาว่าเขามีลูกอีก 2 คน พอดีฉันเคยเจอกับคนๆ หนึ่งที่รู้จักเขาเป็นอย่างดี จะว่าไปฉันก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไหร่กับการที่พวกเขาแยกทางกัน เขาตัดสินใจกระโดดออกมาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อนที่จะมีใครบอกให้โลกรู้ และจากที่ฉันคาดเดานะ ฉันว่าคงจะมีข่าวคราวอีกมากมายหลุดออกมา''
    
เคราะห์ร้ายของอาร์โนลด์ยังไม่หมด เพราะแว่วๆ มาว่า มีผู้หญิงอีก 1 คน ได้ติดต่อไปหาทนายความของ อาร์โนลด์ เพื่อขอตรวจดีเอ็นเอ เพราะเธอเชื่อว่า เขาเป็นพ่อของลูกสาวเธอ จากการมีสัมพันธ์สวาทในอดีต ขณะเดียวกัน ยังมีการเปิดเผยด้วยว่า ลูกนอกสมรสวัย 13 ขวบของอาร์โนลด์ ไม่รู้เลยว่า ตัวเองมีพ่อเป็นดาราใหญ่ แม้เขาจะได้รับการดูแลอย่างดี ได้ของขวัญมากมาย ทั้งยังได้ไปเที่ยวกับครอบครัวของพ่อด้วย
    
ส่วนความเคลื่อนไหวฝั่ง มาเรีย ชรีเวอร์ นั้น ตอนนี้มีข่าวล่ามาไวบอกว่า เธอตกลงว่าจ้าง ลอร่า วาสเซอร์ ให้มาเป็นทนายความ และจัดการเรื่องฟ้องหย่า ซึ่งเธอมีสิทธิ์ได้เงินค่าแยกทางกันสูงถึง 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 12,000 ล้านบาท) แม้ชัดเจนว่าพวกเขามีสัญญาก่อนแต่งก็ตาม โดยหากเป็นเช่นนั้น มันก็จะเป็นตัวเลขที่สูงมหาศาล มากกว่าที่ เอลิน นอร์เดเกรน ได้จาก ไทเกอร์ วู้ดส์ ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว

''อั้ม''สุดทนเลิก"โน้ต"เบื่อความเจ้าชู้

เพิ่งจะคืนดีกันไม่ทันไรก็กลับกลายมาเลิกกันอีกแล้ว สำหรับนางเอกสาวคนดัง '' อั้ม'' พัชราภา ไชยเชื้อ กับแฟนหนุ่มรูปหล่อคนมีตังค์ ''โน้ต'' วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์  ซึ่งเรื่องของการเลิกราครั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจากปากของฝ่ายหญิงระหว่าง ที่ไปร่วม งานเปิดตัว ''ซิตี้วีว่า'' โครงการซิตี้วีว่า ถ.นราธิวาสฯ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.54 ที่ผ่านมา  หลังจากที่สาวอั้มถูกถามถึงข่าวลือที่ว่าทะเลาะกับโน้ตจนถึงขั้นเอาโทรศัพท์ มือถือไป ใส่ไมโครเวฟ ซึ่งเจ้าตัวได้ปฏิเสธถึงข่าวดังกล่าว แต่กลับยอมรับว่าได้ห่างกับแฟนหนุ่มมากว่า 1 เดือนแล้ว โดยสาเหตุก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆ นั่นคือความเจ้าชู้และเรื่องผู้หญิงนั่น เอง
    
''มือถือใส่ไมโครเวฟ จะใส่ได้ยังไงใส่ก็ระเบิดสิค่ะ คิดว่าคนได้ข่าวนี้เยอะแล้ว มาก ไปหรือเปล่า ใครจะเอามือถือไปใส่ในไมโครเวฟ แต่อั้มก็ยอมรับค่ะว่าตอนนี้เราห่างกันพักใหญ่ๆ แล้ว ห่างกันเกือบเดือนแล้ว สาเหตุก็เรื่องเดิมๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกก็เป็น เพื่อนที่ดีต่อกันได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่อั้มจะรับรู้ว่าเค้ามีใคร เพราะหลายทีแล้วที่เค้ามี ข่าว คืออาจจะไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียว เป็นเรื่องซ้ำๆ ไม่มีอะไรมากกว่านี้ เค้าหล่อเลือกได้  จริงๆ ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนกันแล้วไม่ได้คุยกันแล้ว''
    
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการทบทวนถึงความสัมพันธ์หรือมีโอกาสกลับมา คืนดีหรือเปล่า นางเอกสาวตอบว่า ''ตอนนี้อั้มก็มีความรู้สึกดีนะ จริงๆ แล้วอั้มไม่อยากพูดอะไร มากเพราะเคยพูดแล้วมันไม่มีผลดีกับตัวเอง ไม่อยากพูดอะไรมากก็รอลุ้นกันต่อไป เรา ไม่ได้โกรธกันทะเลาะกันเหมือนที่ข่าวออกมา อย่างเช่นข่าวที่เอามือถือใส่ไมโครเวฟ นั่นเลย แต่มันมีปัญหาซ้ำๆ ปกติโน้ตเค้าเป็นคนที่ดีมากนะคะ แต่อาจเสียอยู่แค่ข้อ เดียว''
    
โน้ตยอมรับการตัดสินใจครั้งนี้เปล่า?
    
''ไม่ได้คุยกันเลย จริงๆ วันนี้ไม่ได้อยากจะพูดเรื่องโน้ตว่าเลิกกันแล้วมันเบื่อที่จะ พูด กับเรื่องข่าวอั้มก็ไม่รู้ว่าใครเป็นตัวจริงหรืออะไรยังไง ก็ขอร้องพี่ๆ นักข่าวว่าเรื่องนี้ เราจากกันด้วยดีอยากให้จบแบบเงียบๆ ไม่อยากพูดอะไรแล้ว'' อั้ม กล่าว
    
นอกจากนี้ อั้มยังประกาศชัดเจนว่าพร้อมเปิดใจรับคนใหม่ และคนที่จะเข้ามานั้น ตนไม่ขออะไรมากไปกว่าการที่ชายคนนั้นจะไม่ไปมองใครอื่น ซึ่งตอนนี้ก็มีหนุ่มที่เข้า มาคุยบ้างแล้ว
    
''ได้ค่ะได้ ใครเข้ามาก็ได้ ถ้ามีคนใหม่เข้ามา อั้มไม่ขอคำสัญญา ไม่ขออะไรทั้งนั้น  อั้มขอแค่เขามีตามองเราแค่คนเดียว ตอนนี้ก็มีหนุ่มใหม่ๆ เข้ามาคุยบ้าง แต่ยังไม่ได้ พัฒนาอะไรมากมาย'' นางเอกสาว กล่าว

รับแล้ว"แพนเค้ก-เป้"ดูใจกันอยู่

ในที่สุดก็เอ่ยปากยอมรับสักที ว่าอยู่ในช่วงศึกษาดูใจกันและกัน สำหรับพระเอกมาดเซอร์ ''เป้'' อารักษ์ อมรศุภศิริ กับนางเอกสาว ''แพนเค้ก'' เขมนิจ จามิกรณ์ ซึ่งเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 54 ที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้ควงกันไปร่วมเดินแฟชั่นในงาน ''เซ็นทรัล เมน วิต สไตล์'' ที่เซ็นทรัลชิดลม โดยงานนี้เจ้าตัวยังถูกถามย้ำถึงความสัมพันธ์อีกเช่นเคย แต่คราวนี้ฝ่ายชายก็ได้ยอมรับต่อคำถามที่ว่าศึกษาดูใจอยู่หรือไม่เป็นที่ เรียบร้อยแล้ว

ตอนนี้ความสัมพันธ์แพนกับเป้เรียกว่าอะไร?
 เป้ : ยังใช้คำมาแทนไม่ได้ เราก็ค่อยๆ ดูกันไป ช่วงนี้ก็พูดคุยกันพอสมควร
 แพนเค้ก : คล้ายๆ กันค่ะ ก็ได้เจอกันได้คุยกัน

 มีทั้งกระแสเชียร์ให้คบกันและไม่ให้คบกัน?
 แพนเค้ก : ก็ขอขอบคุณค่ะที่ติดตามพวกเรา เรามีแฟนคลับที่ติดตามมาจากละคร ทุกคนก็น่ารักค่ะ
 เป้ : ผมว่าเป็นความคิดของคนเพียงไม่กี่คน เราไม่สามารถไปห้ามความคิดใครได้ ก็อยากให้ดูที่ผลงานดีกว่า

 ถ้ามีงานด้วยกันจะร่วมงานกันอีกมั้ย?
 เป้ : ถ้ามีก็ไม่ขัดข้องครับ

 ตอนนี้เรียกศึกษาดูใจกันอยู่ไหม?
 เป้ : ครับผม
 แพนเค้ก : ก็โอเคค่ะ

 เรียกได้ว่าคุณแม่ (แม่หน่อย นวลนงค์ จามิกรณ์) ปูทางเลยหรือเปล่า?
 แพนเค้ก : แม่ไม่ได้มาจัดการอะไรแบบนั้น แม่ก็ดูแลแพนตามปกติ ก็ดูแลในส่วนของตัวเราเองมากกว่า
 เป้ : งานนี้ไม่ได้จ้างเป็นคู่ครับ แต่จ้างคนละที ไม่ได้อัพค่าตัว ราคาเท่าเดิมครับ

นอกจากนั้น สาวแพนเค้กยังถูกถามถึงข่าวคราวที่ว่าจะต้องร่วมงานกับอดีตหวานใจ ''เวียร์'' ศุกลวัฒน์ คณารศ ในละครเรื่องใหม่ ซึ่งนางเอกสาวเผยว่า ''ปกติก็รับกับทางช่องอยู่แล้วค่ะ ตอนนี้ก็รอผลจากทางช่องค่ะ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดหรือเปลี่ยนแปลงก็โอเคค่ะ แต่ยังไม่ได้บทบาทหรือรายละเอียด ถามว่าพระเอกจะเป็นใครแพนยังไม่แน่ใจ ก็น่าจะใช่นะคะ ในส่วนของการแสดงยังเหมือนเดิม แต่ก็อาจจะทำการบ้านเพิ่มนิดหน่อย สำหรับความสัมพันธ์นั้นก็คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตั้งแต่มีข่าวก็ยังไม่ได้เจอกับพี่เวียร์เลยค่ะ''

แม่ "น็อต" ไฟเขียวรับ "ชมพู่" เป็นสะใภ้

ถึงแม้ละครจะจบไปแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่ากระแสของ ''เรยา'' แรงจนฉุดไม่อยู่แล้วจริงๆ งานนี้จึงทำเอานางเอกสาว ''ชมพู่'' อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านล้านตลาดว่า นางนั้นแสดงได้สมบทบาทมากเลยทีเดียว อีกทั้งความแรงของสาวชมพู่ ก็ทำให้สถานปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถาน เลือกเธอเป็นพรีเซนเตอร์รณรงค์ให้คนหันหน้าเข้ามาปฏิบัติอีกด้วย
    
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอนางเอกสาวที่มาบวงสรวงละคร ต้มยำลำซิ่ง ที่บริษัท บรอดคลาส เมื่อวันก่อน จึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปสอบถามถึงเรื่องที่ได้รับเลือกเป็นพรีเซนเตอร์ของ สถานปฏิบัติธรรมทันที
    
''เรียกว่าร่วมงานกับทางสถานปฏิบัติธรรมเสถียรธรรมสถาน แต่ว่าตอนนี้อยู่ในช่วงคุยนะ ก็เป็นพรีเซนเตอร์เกี่ยวกับเรื่องชักชวนน้องๆ ให้หันมาสนใจพุทธศาสนามากขึ้น เรียกว่าทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้น้องๆ เข้ามาสนในธรรมะมากขึ้น ก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติมากเลยน่ะค่ะ แต่จริงๆ แล้วมี พี่เบิร์ด พี่อ้อม โป๊บ ด้วย''
    
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อไปว่า มีหมอดูของเว็บไซต์นึงได้ทำการทำนายดวงของนางเอกสาวกับแฟนหนุ่ม ''น็อต'' วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ เอาไว้ว่า นางจะได้เป็นสะใภ้หมายเลขหนึ่งของตระกูล รังษีสิงห์พิพัฒน์ อีกทั้งคุณแม่ของหนุ่มน็อต ออกอาการปลื้มในตัวของนางเอกสาวมากสุดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ สาวชมพู่จะว่าอย่างไรบ้าง ''ก็ว่ากันไปค่ะ ขอบคุณค่ะ อยู่ๆ ก็มีคนดูดวงให้ฟรีเลย ในส่วนของคุณแม่เค้าก็น่ารักค่ะ คุณแม่ก็ให้ความเอ็นดู'

"บี้" ส่ายหน้าได้รับงานถี่เหตุคบ "อิงฟ้า"

ตั้งแต่นักร้องหนุ่มสุดฮอต ''บี้ เดอะสตาร์'' สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว'' มีข่าวกิ๊กกั๊กกับ ''อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม'' ทายาทหมื่นล้านของบอสใหญ่ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ''อากู๋'' ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ก็ให้หลายคนจับตามองหนุ่มคนนี้มากขึ้น และดูเหมือนว่าในช่วงนี้หนุ่ม ''บี้'' จะมีงานต่อเนื่องเข้ามาอย่างไม่ขาดสายจนทำให้มีกระแสข่าวออกมาว่าผู้ใหญ่ทาง ค่ายให้งานดาราหนุ่มมากขึ้นเพราะคบหากับลูกสาวคนสวยของเจ้าของค่ายนั่นเอง โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 54 ณ ห้องเจ้าพระยา หอประชุมกองทัพเรือ ผู้สื่อข่าวพบกับนักร้องหนุ่มขณะมาร่วมงานประกาศรางวัล ''นาฏราชครั้งที่ 2'' จึงไม่พลาดที่จะเข้าไปซักถามหนุ่ม ''บี้'' เกี่ยวกับกระแสข่าวลือที่ออกมา โดยนักแสดงหนุ่มเผยว่าที่งานเยอะเป็นเพราะผู้ใหญ่เห็นความตั้งใจในการทำงาน มากกว่า
    
''ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับจริงๆ ก็แล้วแต่งาน ''คุณบอย'' ถกลเกียรติ วีรวรรณ จะสอนว่าถ้าเราตั้งใจมีวินัยในการทำงาน หรือว่าไม่เกเร ผู้ใหญ่ก็จะเมตตาให้งานเรา ถึงแม้ว่างานนั้นเราจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ถ้าเรามีวินัยตั้งใจผู้ใหญ่ก็ให้งานเรา''
    
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าสถานะกับ ''น้องอิงฟ้า'' ณ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เรื่องนี้ดาราหนุ่มยืนยันว่าเป็นพี่น้องกันเท่านั้น เรื่องพัฒนาความสัมพันธ์นั้นคงยาก
    
''เป็นเพื่อน เป็นพี่น้อง ก็เจอกันตามที่ต่างๆ แถวแกรมมี่บ้าง คงยังไม่มีโอกาสพัฒนา เพราะผมยังอยากเป็นนักร้องในแกรมมี่อยู่เหมือนกัน (หัวเราะ)''
    
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามต่ออีกว่าตั้งแต่มีข่าวกับ ''น้องอิงฟ้า'' ผู้ใหญ่มีเรียกเข้าไปพุดคุยบ้างไหม เรื่องนี้หนุ่ม ''บี้'' เผยว่าผู้ใหญ่ไม่ซีเรียส
    
''จริงๆ เหมือนผู้ใหญ่เขาก็ไม่ซีเรียส เพราะเขาอยู่วงการบันเทิงมาหลายสิบปีแล้วเหมือนผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขาเข้าใจ ไม่ซีเรียส ไม่มีว่าแต่อย่างใด''

"เอมมี่" เคลียร์ตบแย่งผู้ชายในผับ ย้อนถาม "จบป่ะ"?

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งสาวมั่นที่แรงได้ใจจิรงๆ "เอมมี่" มรกต กิตติสาระ ที่จู่ๆ ก็โดนมือดีปล่อยภาพที่ดูเหมือนสวีตสุดๆ กับสาวหล่อไฮโซอักษรย่อ อ. อ่าง ที่พอดูดีๆ แล้วก็ต้องร้องอ๋อ..เพราะสาวหล่อที่ว่านั้นเป็นคนเดียวกันกับที่สาว "เอม" เจษยา เวียงเกตุ สาวคู่กรณีกับพ่อหนุ่มพระเอกอิเหนา "สเตฟาน" ฐศิษฐ์ สินคณาวิวัฒน์ ที่สาวเอมนั้นเพิ่งเปิดตัวว่าสาวหล่อคนดังกล่าวนี้เป็นแฟนไปเมื่อไม่นาน แต่ไหงกลับมามีภาพหลุดคู่กับสาวเอมมี่ได้
    
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 54 ในงานประกาศรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 2 ที่จัดขึ้นที่หอประชุมกองทัพเรือที่ผ่านมานั้น สาวเอมมี่ ก็เดินทางมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย โดยเมื่อผู้สื่อข่าวหลากหลายสำนักตั้งคำถามถึงภาพหลุดกับสาวหล่อคนดังกล่าว สาวเอมมี่ก็ได้ให้คำตอบห้วนๆ สั้นๆ ว่าเป็นเพียงแค่รุ่นน้องที่รู้จักกันเท่านั้น
    
"เพราะมีรูปใช่ไหมคะ เออ!! ปกติหนูชอบผู้ชายค่ะ จบมั้ย?? ทอมคนนั้นเป็นรุ่นน้องที่เป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวเพื่อนสนิทมี่อีกที" โอเคมั้ย?? ถามถามว่าสนิทไหมก็สนิทระดับนึงค่ะ ส่วนมากถ้าเพื่อนสนิทไม่มีงานก็จะไปอยู่แล้ว ก็จะเจอน้องตลอดและถ่ายรูปกันตลอด แต่ไม่มีอะไรค่ะ เพราะน้องเค้าก็ไม่ได้มาจีบอะไร เค้าก็เรียกเราว่าเจ๊ทุกคำค่ะ"
    
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามถึงข่าวเม้าท์ที่ว่าหนุ่ม "เต้" วิทย์สรัช สุขวัฒนศิริ นักร้องหนุ่มไฮโซมาดนิ่งตามจีบอยู่นั้นเป็นความจริงหรือไม่ ทางฝ่ายเอมมี่ก็ได้ให้สัมภาษณ์ต่อเรื่องดังกล่าวว่า สนิทกับนักร้องหนุ่มจริง แต่ขอเก็บความสัมพันธ์เป็นเรื่องส่วนตัว และยังได้โบ้ยให้ไปถามทางฝ่ายชายเอาเอง
    
"สนิทน่ะค่ะแต่ ความสัมพันธ์ขอเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวก่อนน่ะค่ะ ก็ต้องไปถามตัวเค้าเองน่ะค่ะ เค้าก็ไม่มีข้อไม่ดีตรงไหนน่ะค่ะ มี่เองก็ไม่เคยปิดอยู่แล้ว มี่ก็เปิดใจตลอด"
    
ต่อกรณีที่ว่าสาวเอมมี่ไปก่อคดีทะเลาะวิวาทในผับเหตุเพราะแย่ง ผู้ชายคนเดียวกัน ซึ่งสาวเอมมี่ก็ได้ตอบคำถามกรณีดังกล่าวสั้นๆ แต่ได้ใจความกระแทกใจว่า ไม่เคยทำกิริยาดังกล่าวเพราะพ่อแม่สอนมาดี
    
"ถ้ารู้จักมี่ดีมี่ไม่มีกริยาอะไรแบบนี้อยู่แล้วค่ะ คุณพ่อคุณแม่สอนมาดีค่ะ จบป่ะคะ!" เอมมี่ กล่าว

''หยาด'' ปัดเปิดศึก ''แอนนา รีส''

ตกเป็นสาวที่มีข่าวเกาเหลากับดาราคนอื่นๆ อยู่เป็นประจำจริงๆ สำหรับนางเอกสาวตาคม ''หยาด'' หยาดทิพย์ ราชปาล ล่าสุดตกเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เกาเหลากับสาวเซ็กซี่ไซส์มินิอย่าง ''แอนนา'' แอนนา รีส อดีตหวานใจผู้ชายลั้นลา ''เสนา หอย'' เกียรติศักดิ์ อุดมนาค เหตุเพราะไปเดินชนสาวรุ่นพี่บนแคตวอล์กในงานอีเวนต์งานหนึ่งแถวเรียบทางด่วน

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ที่งาน ฟีโน่แอนด์ฟีโอเร่ เติมฝันแฟนคลับ จัดเต็มซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ที่จัดขึ้น ณ ร้านฟังกี้ ซอยทองหล่อ 10 ซึ่งสาวหยาดเองก็ได้เดินทางมาร่วมโชว์ตัวเดินแบบในงานครั้งนี้ด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีดังกล่าวสาวหยาดก็ได้ตอบคำถามอย่างยิ้ม แย้มว่า
    
''ไม่มีนะคะ ไม่มีเลยค่ะ วันนั้นจำได้ว่าในงานไม่รู้จักใครเลยรู้จักแอนนากับพี่ตอง แต่ตอนที่พี่ตองยังไม่มีหยาดก็ยังนั่งคุยกับแอนนาในห้องแต่งตัวอยู่ตั้งนาน ไม่มีเลยค่ะบนเวทีมันแป๊บเดียวเองน่ะค่ะ ผู้จัดการของแอนนากับผู้จัดการของหยาดก็รู้จักกันค่ะ งงมากเลยค่ะ ก็คงไม่ต้องเคลียร์อะไรเลย เพราะมันไม่เห็นจะมีอะไร แล้วหยาดว่าหยาดก็ไม่ได้เดินสวนกับแอนนาด้วย คือในห้องแต่งตัวมันเล็กมากเราก็ยังคุยกันแอนนาเองยังมาแต่งหน้ากับช่างแต่ง หน้าของหยาดเลย ไม่มีอะไรเลยอ่ะค่ะ ไม่มีเกาเหลาค่ะ งงเลยค่ะกับเรื่องนี้'' หยาด กล่าว

"ป๋อ''เมินคนมอง'วนาลี''แป้ก!! ฟุ้งละครใหม่ประกบ "พลอย-แอฟ''

''ป๋อ'' ณัฐวุฒิ สกิดใจ พระเอกผิวเข้มนิสัยดี หลังจากย้ายจากวิกหมอชิตจนเป็นข่าวครึกโครมมาซบวิกคู่แข่งอย่างวิกหนองแขม และเปิดตัวละครบู๊เรื่องแรกในบ้านใหม่ไปเรียบร้อยแล้วในละครเรื่อง คู่เดือด ที่จะว่าไปแล้วก็ยังไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดการณ์ไว้ เพราะกระแสเบากว่าที่คิด ล่าสุดละครเรื่องที่ 2 อย่างเรื่อง วนาลี ของพระเอกผิวเข้ม ที่ต้องมาประกบนางเอกน้องใหม่ ''มิว'' ลักษณ์นารา เปี้ยทา ก็เป็นที่จับตามองอย่างยิ่งว่าจะเปรี้ยงปร้างขนาดไหน แต่แล้วก็เหมือนจะเป็นการตอกย้ำความแป้กอีกครั้ง เมื่อกระแสเรื่องนี้ก็ไม่ได้ดังเปรี้ยงอย่างที่หลายคนคาดคิด

ล่าสุดเจอตัวพระเอกผิวเข้มในงานฟีโน่ แอนด์ ฟีโอเร่ เติมฝันแฟนคลับ จัดเต็มซูเปอร์สตาร์เมืองไทย ที่จัดขึ้น ณ ร้านฟังกี้ ซอยทองหล่อ 10 เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 54 ที่ผ่านมานั้น ผู้สื่อข่าวหลายสำนักจึงได้ถามไถ่ถึงกรณีดังกล่าว ซึ่งพระเอกผิวหมึกก็ได้ตอบคำถามอย่างยิ้มแย้มว่า
     
กระแสวนาลีเป็นยังไงบ้าง คนมองว่ากระแสไม่ดีเท่าที่ควร 

''กระแสวนาลีก็ดีนะ เช็กกับทางช่องเค้าพอใจมั้ย กระแสเสือมืดดีมาก กระแสของน้องมิว ดาราใหม่ก็ดีมาก มีคนมาวิพากษ์วิจารณ์ตัวละครเป็นฉากๆ เลย ว่าตัวนี้รู้สึกอย่างไร พี่คิดว่าพอใจนะ ในแง่ของมืออาชีพ พี่เป็นนักแสดงพี่ทำหน้าที่จบแล้ว แต่ในส่วนของคนดูจะชอบจะรักหรือจะเฉย ก็มีสิทธิ์ทั้งสิ้น ก็ยอมรับการตัดสิน ถามว่าพอเอาละครมาคู่กับเรยา เหมือนแข่งกันเองหรือเปล่า ถ้าถามว่าเรยาตอนนี้ชั่วโมงก็ต้องเรยาถูกมั้ยครับ ผมเองก็ดูมันเป็นกระแสทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ มากที่สุด แต่ว่าผมเชื่อว่าเสือมืดก็เป็นกระแสรองๆ เหมือนกันนะครับ เสือเรยา เอ้ย! เสือมืด เมื่อกี๊ขึ้นเวทีมีคนตะโกนเรียกเสือมืดๆ ก็คงจะได้กลุ่มคนที่ชื่นชอบแคแรกเตอร์เสือมืดอีกเหมือนกัน''
     
มีข่าวว่ากลายเป็นพระเอกลูกรักคนใหม่ช่อง 3 เนื่องจากมีละครจ่อคิวถึง 2 เรื่อง

''เรื่องต่อไป รักประกาศิต กับน้อง ''แอฟ-ทักษอร'' ค่ายของ ''น้องจ๋า-ยศสินี'' และมีหงส์สะบัดลาย กับน้อง ''พลอย- เฌอมาลย์'' ขึ้นหม้อสุดๆ เลยไหม ย้ายวิกเนี่ย (หัวเราะ) ก็ดีครับ ดีต่อเนื่อง รอบนี้ได้เล่นกับนักแสดงตัวเป้งๆ อย่างน้องแอฟกับน้องพลอย ผมเกร็งทุกคนนะ ไม่รู้คนอื่นเกร็งผมรึเปล่า ผมได้คุยกับน้องพลอยบ้างแล้ว ได้เล่นเป็น บอดี้การ์ดดูแลน้องพลอยครับ ก็จะพยายามไม่ให้แฟนๆ เสียใจ น้องพลอยจะไม่มีรอยขีดข่วนผมจะเป็นบอดี้การ์ดอย่างดีที่สุด ฝากบอกแฟนคลับ หรือพี่โดม เอ้ย! พี่ต้าร์ดิ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ บอดี้การ์ดคนนี้จะดูแลน้องพลอยเต็มที่ไม่ให้มีรอยขีดข่วนเลยครับ''
     
แล้วภาพยนตร์เรื่องพุ่มพวงล่ะ

''พูดถึงหนังพุ่มพวงกันนิดนึงใกล้จะเข้าโรงแล้ว วันที่ 21 กรกฎาคมนี้ครับ ฟีดแบ็กดีมาก ทุกคนบอกขนลุกหมดเลย สปอตหนังออกไปนิดเดียวเอง เค้าบอกน้องตองเหมือนมาก ร้องเพลงเพราะมาก ก็ 21 กรกฎาคมนี้แล้วครับ ผมเห็นตัวอย่างแล้วขนลุกเหมือนกัน คือเป็นชอตที่สวยงามที่สุดของคุณพุ่มพวง แล้วคนเห็นแค่ฉากนี้ฉากเดียว จะติดตามาก เป็นคุณพุ่มพวงใส่ชุดลายเสือและเป็นเพลงขึ้นจะไม่กลับหลัง จะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจคนเยอะ หวังว่าแฟนๆ คุณพุ่มพวงจะติดตามเยอะ เล่าเรื่องเดิมๆ ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เกิดมีความละเอียดลออ เรื่องชีวิตเป็นเรื่องเซนซิทีฟเพราะเราเอามุมที่ดีที่สุดของคุณพุ่มพวงเอามา ให้แฟนๆ ได้ดูกัน น่าจะเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ ที่สมบูรณ์ที่สุดครับผม''

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ฟอบส์จัดอันดับ"เลดี้ กาก้า"คนดังทรงอิทธิพลที่สุดแซงหน้า"โอปราห์ วินฟรีย์"

จากความสำเร็จของเธอที่ทำให้เธอได้ขึ้นอันดับหนึ่งครั้งนี้มาจากการ ที่เธอมีแฟน ๆในFacebookถึง 32 ล้านคน, มีคนติดตามในทวิตเตอร์อีกสิบล้านคน, มีผู้เข้าชม YouTube มากถึงหนึ่งพันล้านครั้ง และกวาดโฆษณามามากมายทั้งเครื่องสำอางค์, กล้อง และโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนั้นนักร้องสาวสุดแปลกรายนี้ยังทำรายได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญจากการเดินสายเปิดการแสดงคอนเสิร์ตรอบโลก
     
ทางด้านแชมป์เก่าหลายสมัยอย่าง โอปราห์ วินฟรีย์ มาปีนี้เธอตกมาเป็นรองอยู่ในอันดับสอง ส่วนหนุ่มป็อปหน้าใสอย่างจัสติน บีเบอร์ วัย 17 ปี ก็มาอยู่ที่อันดับสาม ซึ่งเขาเคยคิดว่าตนเองนั้นดังเกือบๆเท่าเลดี้ กาก้า เพราะ ว่าในทวิตเตอร์เขามีผู้ติดตามมากถึง 9 ล้านคน, มีผู้เข้าชมYouTubeเพลง Baby ของเขามากถึง 500ล้านครั้ง ซึ่งนอกจากความดังแล้วภาพยนตร์บันทึกเรื่องราวส่วนตัวของเขายังทำรายได้ใน บ็อกซ์ ออฟฟิศไปกว่าหนึ่งร้อยล้านเหรียญด้วย
     
ด้านนักร้องระดับตำนานอย่าง U2 ตามมาอยู่ที่อันดับ 4 ตามมาด้วยเอลตัน จอห์น ที่อยู่ในอันดับ 5 โดยมีไทเกอร์ วู้ด นักกอล์ฟชื่อดังอยู่ในอันดับที่ 6 และนักร้องสาวสวยเจ้าแม่คันทรีอย่างเทย์เลอร์ สวิฟท์ ตามมาอยู่ที่อันดับ 7
     
โดโรธี โพเมอแรนท์ส บรรณาธิการ ฟอบส์ ได้กล่าวถึงความสำเร็จของเลดี้ กาก้า ว่า "เลดี้ กาก้าสามารถเอาชนะโอปราห์ได้ในปีนี้เป็นเพราะพลังของเครือข่ายสังคมออนไลน์ เธอเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดที่บอกได้ว่าคนดังควรจะต้องจัดการกับงานของพวก เขาอย่างไรในปีต่อๆไป"
     
       10 อันดับคนดังทรงอิทธิพลที่สุดจากการจัดอันดับโดยนิตยสารฟอบส์
     
       1. Lady GaGa
       2. Oprah Winfrey
       3. Justin Bieber
       4. U2
       5. Elton John
       6. Tiger Woods
       7. Taylor Swift
       8. Bon Jovi
       9. Simon Cowell
       10. Le Bron James

พิษฉาวโซ้ยแม่บ้าน "อาร์โนลด์" เลื่อนคัมแบ็ก

ข่าวฉาวซุกเมียน้อยกับลูกอีกหนึ่งทำพิษ พระเอก ''คนเหล็ก'' อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ จำใจต้องเลื่อนคืนวงการบันเทิงแบบไม่มีกำหนด ทั้งๆ ที่วางแผนไว้แล้วซะดิบดี เจ้าตัวเผยขอเวลาสะสางปัญหาส่วนตัวแอบปั๊มแม่บ้านสุดอื้อฉาว ส่งผล กระทบหนังใหม่ 2 เรื่องรวดแบบเต็มเหนี่ยว

เข้าตำรากรรมเก่าย้อนเข้าตัวเสียแล้ว อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ พระเอกหนังบู๊คนดังจากหนังมหากาพย์ ''คนเหล็ก'' ดีกรีอดีตผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศแขวนแผนการหวนกลับคืนสู่วงการภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดอย่างไม่มีกำหนด หลังจากที่กำลังเผชิญกับข่าวอื้อฉาวหย่าร้างแยกทางกับ มาเรีย ชรีเวอร์ ภรรยาที่สมรสสมรักกันมานาน 25 ปี แถมยังบานปลายไปกันใหญ่เมื่อแอบซุกซนซุกซ่อนเมียน้อยและมีลูกด้วยกันอีกต่างหาก

อดีตนักเพาะกายระดับแชมป์โลก วัย 63 ปี ที่โดนแฉว่า มีสัมพันธ์ใต้สะดือกับอดีตแม่บ้านคนหนึ่ง ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็น มิลเดร็ด แพทริเซีย เบน่า ก่อนที่จะออกมายอมรับสารภาพว่า มีลูกนอกสมรสกับอดีตคนงานในบ้านของตัวเองเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้นั้น ได้ขอให้เอเยนต์ส่วนตัวจากบริษัทครีเอทีฟ อาร์ติสต์ส เอเยนซี่ (Creative Artists Agency) หรือ ซีเอเอ (CAA) ยกเลิกการเจรจารับงานแสดงหนังเรื่องใหม่ของตัวเองที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ทั้งหมด

แถลงการณ์ของตัวแทนชวาร์เซเนกเกอร์ ระบุว่า ''ท่านผู้ว่าฯ ชวาร์เซเนกเกอร์ กำลังเพ่งความสนใจไปยังปัญหาส่วนตัว และไม่ประสงค์ที่จะผูกมัดตัวเองกับตารางการทำงานหรือกำหนดเวลาในการแสดง ภาพยนตร์เรื่องใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งรวมไปถึง คราย มาโช่  (Cry Macho), เทอร์มิเนเตอร์  (Terminator หรือ คนเหล็ก) ภาคต่อ และโครงการอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา เราจะกลับมาหารือกันอีกครั้ง เมื่อท่านผู้ว่าฯ ชวาร์เซเนกเกอร์ตัดสินใจได้แล้ว''

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ''อาร์นี่'' เพิ่งจะตกลงเซ็นสัญญาเล่นหนังใหม่ คราย มาโช่ (Cry Macho) ในเดือนพฤษภาคมนี้ โดยรับบทเป็นครูฝึกม้าที่ถูกว่าจ้างให้ไปลักพาตัวลูกชายของอดีตเจ้านายมา จากอดีตภรรยาในเม็กซิโก ซึ่งคาดว่า จะได้รับค่าเหนื่อยสูงถึง 12.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 375 ล้านบาท) เลยทีเดียว รวมทั้งยังกำลังเจรจากลับมารับบทดารานำในหนัง ''คนเหล็ก'' ภาคใหม่อีกด้วย

หนูน้อยจาก Jerry Maguire เผยโฉมโตเป็นหนุ่มหล่อแล้ว

คงมีหลายคนทีเดียวที่ยังคงจดจำความน่ารักของหนูน้อยคนหนึ่งใน ภาพยนตร์เรื่อง Jerry Maguire ได้เป็นอย่างดี มาตอนนี้หนูน้อยคนดังกล่าวได้โตเป็นหนุ่มหล่อวัย 20 ปีแล้ว
     
โจนาธาน ลิพนิคกี วัย 20 ปี ที่สร้างชื่อให้ตนเองเมื่อครั้งแสดงภาพยนตร์ร่วมกับทอม ครูซ และ เรเน ซีลเวคเกอร์ ในปี 1996 ขณะเขามีอายุได้เพียง 5 ปี และเคยเล่นภาพยนตร์เรื่องอื่นแต่ไม่สร้างชื่ออย่าง Like Mike และ Stuart Little ก่อนจะหายไปนานเป็นสิบปีและกลับมาปรากฏโฉมอีกครั้ง
     
"ผมเล่นบทเล็กๆในหนังสองเรื่องนี้ ภาพยนตร์อิสระที่ผมค่อนข้างเชื่อมั่นอย่างแท้จริง หลังจากนั้นผมก็ตัดสินใจไปเรียนต่อไฮสคูล ผมแค่อยากเป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง"
     
นอกจากนั้นเขายังยอมรับด้วยว่าบทที่ทำให้เขาโด่งดังในหนังเรื่อง Jerry Maguire เขาได้รับมาแบบเฉียดฉิว "ผมไปออดิชันบทนี้แต่ผมไม่ได้แสดง พวกเขาเลือกเด็กคนอื่น แล้วก็ถ่ายทำร่วมกับเด็กคนนั้นไปนาน 2 สัปดาห์ แต่ว่ามันออกมาไม่เวิร์คดังนั้นพวกเขาก็เลยคัดตัวใหม่อีกรอบ แต่ตอนแรกเลยพวกเขาไม่เคยเห็นผมเพราะว่ากลุ่มพนักงานคัดเลือกนั่นแหละที่ เห็น ไม่ใช่ผู้กำกับคัดตัวนักแสดง"
     
"ทางตัวแทนผมเขาสู้ๆๆแล้วก็สู้ จนกระทั่งผมได้กลับมาเข้าคัดตัวในห้องอีกครั้งแล้วผมก็ได้เล่นหนังเรื่องนี้"
     
หลังจากที่หันหลังให้วงการเพื่อไปใช้ชีวิตนักเรียนแบบปกติทั่วไป เจ้าตัวก็ยอมรับด้วยว่าเขาก็ถูกล้อถูกแกล้งจากเด็กคนอื่นเหมือนกัน
     
"ทุกๆคนต้องเคยโดนแกล้ง แม้ว่าคุณจะเป็นนักแสดงหรือไม่ก็ตาม"
     
ตอนนี้ ลิพนิคกี หวนคืนกลับเข้าวงการอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่มีชื่อว่า For the love of Money ที่เขาแสดงร่วมกับ เอ็ดเวิร์ด ฟูลอง
     
"ผมพร้อมที่จะกลับมาแล้วครับ และพร้อมที่จะทำงานแล้ว ผู้คนต่างก็นึกถึงภาพลักษณ์ของผมสมัย 5 ขวบอยู่เสมอ ดังนั้นมันเป็นงานของผมที่ต้องทุ่มเทอย่างหนัก เข้าให้ถูกจังหวะ และทำให้พวกเขาตกตะลึง"
       

"สตีเวน ไทเลอร์"ออกปากยอมรับเคยลองมีเซ็กซ์กับผู้ชาย

หลังจากที่ถูกสงสัยมานานกับภาพลักษณ์แต่งตัวจัดจนเหมือนเกย์เข้าไป ทุกวันๆ มาตอนนี้"สตีเวน ไทเลอร์"นักร้องสุดฉูดฉาดจากวง"Aerosmith"ออกมายอมรับแล้วว่าครั้งหนึ่งเขา เคยลองมีเพศสัมพันธ์กับชายหนุ่มแต่ไม่ปลื้ม
     
สตีเวน ไทเลอร์ ที่ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินในรายการ American Idol ได้ออกมายอมรับถึงประสบการณ์ชีวิตของเขาว่าครั้งหนึ่งเคยลองมีเพศสัมพันธ์ กับผู้ชายมาแล้ว เมื่อครั้งที่เขายังเป็นหนุ่มแต่ว่านั่นไม่เหมาะกับตัวเขาเลย
     
"เซ็กซ์แบบเกย์ไม่เหมาะกับผมเลย ผมเคยลองมาแล้วครั้งหนึ่งตอนที่ผมยังหนุ่มๆ แต่ผมก็ทำไม่ลง"
     
สตีเวน ร็อกเกอร์วัย 63 ปี เคยแต่งงานมาแล้วถึง 2 ครั้ง และเมื่อไม่นานนี้เขามีข่าวกำลังออกเดทอยู่กับ เอริน แบรดี ซึ่งสาวๆส่วนมากต่างก็ไม่ไว้ใจเขามากเท่าไหร่เนื่องจากภาพลักษณ์ที่หลุดโลกมากเกินไป
     
"ผมไม่เคยมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่เชื่อใจผมจริงๆเลย ผมผู้ชายคนนี้ยืนอยู่บนเวทีพร้อมกับความบ้าแบบสุดๆ มันเกินกว่าชีวิตส่วนตัวผม ส่วนตัวผมออกแบบไว้ให้มันเหนือที่สุดของที่สุด บ้าบอ น่าสะอิดสะเอียด อย่างที่เห็นๆกันอยู่"
     
นอกจากนั้นยังมีสิ่งหนึ่งที่เขาไม่ได้เผยให้ใครรับรู้ถึงเครื่องเคราส่วนตัว ที่ครั้งหนึ่งมือกลอง Guns ‘N Roses อย่าง สตีเวน แอดเลอร์ เคยออกมาบอกว่า สตีเวน ไทเลอร์ เป็นหนึ่งในบรรดาร็อกสตาร์ที่มีขนาดไอ้จ้อนใหญ่ที่สุดเลยก็ว่าได้
     
 "ยาเพิ่มขนาดพวกนั้นไม่เวิร์คเลย ผมลองมาหมดแล้ว! หลังจากได้เห็นของสตีเวนที่รายล้อมด้วยมือสาวๆถึง 5 คน ผมรู้สึกโชคดี ถ้าผมถอดเสื้อผ้าออกหมดหลังจากนั้นนะ ผมคงไม่เหลืออะไรแล้วล่ะ!"

ทอมแสบ ตุ๋นดาราเป็นแสน เชียร์,แนนนี่,การ์ตูน โดนด้วย!

ดาราดัง ''เชียร์'' ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ พร้อมด้วย ''การ์ตูน'' อินทิรา เกตุวรสุนทร และ แนนนี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่ เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง เหตุโดน น.ส.อรทัย หรือ แอน ส่งเสริมรัตน์ มีลักษณ์คล้ายทอมบอย ที่อ้างตัวว่าเป็นพีอาร์ของบริษัทผลิตหนัง ตุ๋นเงินหลอกซื้อไอแพด 2 และ ไอโฟน 4 ทั้งนี้ กิ๊บซี่ เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, ''มะนาว'' ศรศิลป์ มณีวรรณ์ และ ''กี้'' รฐกร สถิรบุตร ก็โดนด้วย รวมค่าเสียหายกว่าสามแสนบาท และยังไม่รวมดาราคนอื่นที่อาจจะโดนเหมือนกันอีก ผู้เสียหายวอนขอแค่ได้เงินคืนก็จะยอมความ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และเตรียมออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบสวน หากมีมูลความผิดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายฐานฉ้อโกงต่อไป

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม ที่ สน.ห้วยขวาง น.ส.ทิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ หรือ เชียร์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วย น.ส.อินทิรา เกตุวรสุนทร หรือ การ์ตูน อายุ 24 ปี นักแสดงชื่อดัง และ น.ส.ภัทรนันท์ ดีรัศมี หรือ แนนนี่ อายุ 26 ปี สมาชิกวงเกิร์ลลี่ เบอร์รี่ ค่ายอาร์เอส เดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง และ พ.ต.ท.สมคิด สมบูรณ์ พนักงานสอบสวน (สบ3) สน.ห้วยขวาง หลังจากที่ทำการสั่งซื้อไอโฟน 4 และไอแพด 2 จาก น.ส.อรทัย ส่งเสริมรัตน์ หรือ แอน อายุประมาณ 31 ปี ลักษณ์คล้ายทอมบอย ที่อ้างตัวว่าเป็นพีอาร์ของบริษัทผลิตภาพยนตร์แห่งหนึ่ง แต่กลับถูกหลอก ไม่ได้รับสินค้า รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดกว่าสามแสนบาท

จากการสอบถาม ''การ์ตูน-อินทิรา'' เผยว่า ตนและเชียร์ต้องการอยากซื้อไอโฟน 4 และรู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางเพื่อนชื่อ บิว เมื่อผู้ต้องหารู้ว่าตนและเพื่อนอยากได้ไอโฟน 4 จึงเสนอตัวว่าสมารถจัดหาซื้อได้ในราคาถูก โดยฝากซื้อจากเพื่อนที่อยู่อเมริกา ที่อ้างว่ากำลังจะกลับ ตนจึงหลงเชื่อและได้โอนเงินไปให้เข้าบัญชี น.ส.อรทัย คนละหนึ่งหมื่นห้าพันบาท รวมเพื่อนดาราในกลุ่มด้วยก็ประมาณหกหมื่นบาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้สินค้าตามที่สั่ง

''คือตอนแรกหนูและเชียร์อยากที่จะซื้อไอโฟน 4 และได้รู้จักเค้าซึ่งทำงานอยู่ในบริษัทผลิตหนังแห่งหนึ่งผ่านเพื่อนชื่อ บิว อีกทีนึง และในตอนนั้นเค้ารู้ว่าพวกหนูอยากซื้อไอโฟน 4 จึงเสนอตัวที่จะจัดหาสินค้ามาให้ในราคาที่ไม่แพงมากนัก โดยบอกผ่านบิวมาว่ามีเพื่อนที่อยู่อเมริกากำลังจะเดินทางกลับมาประเทศไทย สามารถซื้อและนำสินค้าเข้ามาได้ในราคาถูก จะฝากซื้อมั้ย หนูกับเชียร์จึงเชื่อใจและโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทยของ น.ส.อรทัย คนละ 15,000 บาท โดยเชียร์โอนเมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนหนูโอนไปตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปีที่แล้ว หลังจากนั้นได้มีการนัดรับของกันช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อติดต่อไปยังเค้า ก็ได้รับคำตอบว่าเพื่อนที่จะนำสินค้ามาให้ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาประเทศ ไทยได้ ตนจึงรอกระทั่งถึงเดือนเมษายน เค้าก็อ้างว่าติดช่วงเทศกาลสงกรานต์ อ้างสารพัด ติดหิมะ กลับประเทศไม่ได้ ของที่สั่งไม่ผ่านด่านตรวจ จากนั้นก็ผัดผ่อนไปอีกหลายครั้ง โดยติดต่อกันผ่านทางโทรศัพท์ตลอดไม่เคยเจอหน้าเลย หนูกับเชียร์จึงคิดว่าน่าจะถูกหลอกแล้ว จนมารู้ว่าแนนนี่และกิ๊บซี่ก็ถูกหลอกเช่นเดียวกัน โดยในส่วนของแนนนี่และกิ๊บซี่เป็นไอแพด 2  ซึ่งเค้าคงไม่คิดว่าพวกหนูจะรู้จักกัน และ ''มะนาว-ศรศิลป์'' และ ''พี่กี้'' รฐกร สถิรบุตร ก็โดนหลอกเช่นเดียวกัน และยังไม่รู้ว่าจะมีดาราโดนแบบนี้อีกหรือเปล่า '' การ์ตูน กล่าว

ด้าน แนนนี่ เผยว่า ถึงตอนนี้ตนและเพื่อนๆ ก็อยากได้แค่เงินคืน ไม่อยากจะแจ้งดำเนินคดีกับเค้ารุณแรงเดี๋ยวจะหมดอนาคต และกลัวว่าคนอื่นๆ จะโดน น.ส.อรทัย ไปหลอกอีก

''ตอนแรกเราก็ไม่อยากจะแจ้งความ เพราะก็สงสารเค้าเหมือนกัน กลัวแจ้งความแล้วข่าวออกแล้วเค้าจะหมดอนาคต แต่ถึงตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้วกับพฤติกรรมของเค้า และกลัวว่าเค้าจะไปหลอกคนอื่นอีก จึงเดินทางมาแจ้งความในครั้งนี้  ในส่วนความเสียหายในกลุ่มของหนูที่โดนด้วยก็มีกิ๊บซี่ และเพื่อนๆ รวมกันก็ประมาณ แสนเจ็ดหมื่นบาทส่วนการชดใช้เราก็ขอแค่ได้เงินคืน จะผ่อนเป็นงวดก็ได้เราไม่ว่า ขอแค่ได้คืนก็เท่านั้น''  แนนนี่ กล่าว

ขณะที่ "เชียร์-ฑิฆัมพร" เผยว่า ตนก็อยากฝากถึงคนอื่นๆ ว่า อย่าหลงเชื่อใครง่ายๆ ถ้าอยากได้ให้ชื้อสินค้าที่ศูนย์บริการดีกว่า ถึงแม้จะได้ของช้ากว่า แต่ก็ปลอดภัย

''อยากฝากไปถึงเพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงประชาชนว่าอย่าไว้ใจหรือหลงเชื่อใครง่ายๆ แม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นคนที่รู้จักก็ตาม และอย่าเห็นแก่สินค้าราคาถูก เพราะจะถูกหลอกได้ง่าย อยากให้ซื้อสินค้าตามศูนย์ที่มีสินค้าและมีการรับประกัน เพราะนอกจากจะไม่ถูกหลอกแล้วยังได้สินค้าที่มีคุณภาพด้วย และคดีนี้หาก น.ส.อรทัย สามารถนำสินค้าหรือเงินมาคืนให้ก็พร้อมที่จะไม่เอาเรื่อง'' เชียร์ กล่าว

ด้านการดำเนินคดี พ.ต.อ.บุญส่ง เผยว่า หลังจากนี้จะทำการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมด อาทิ หลักฐานการโอนเงินและการสั่งซื้อสินค้าต่างๆ จากนั้นจะติดต่อให้น.ส.อรทัยเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน หากไม่เดินทางมาก็จะออกหมายเรียกและดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ซึ่งหากน.ส.อรทัย สามารถนำสินค้ามามอบให้กับผู้เสียหายหรือคืนเงินให้ตามจำนวนที่ผู้เสียหาย จ่ายไปก็สามารถเจรจายอมความกันได้ แต่หาก น.ส.อรทัยมี เจตนาที่จะหลอกลวงก็จะทำการแจ้งข้อหาฉ้อโกงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณที่มา : สยามดารา

"จุ๋ย"แฮปปี้ปัดช่อง3ทาบโนรีเทิร์น"นิว"

ตั้งแต่โสดก็มีข่าวกับหนุ่มๆ ทั้งรุ่นเล็กอย่าง ''พอร์ช'' ศรัณย์ สิริลักษณ์ และรุ่นใหญ่ระดับ ''เสี่ย'' มาตามจีบ นอกจากนี้นางเอกสาวช่อง 7 สี ''จุ๋ย'' วรัทยา นิลคูหา ยังมีกระแสข่าวว่า วิกสามพระรามสี่ทาบทามให้ไปร่วมงานอีกด้วย อีกทั้งข่าวกับคนรักเก่า ''นิว'' วงศกร ปรมัตถากร ก็ยังมีออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดมีตาดีเห็นหนุ่มนิวไปนั่งแกะกุ้งให้สาวจุ๋ยกินอยู่ที่ชายทะเลแถว หัวหิน

เมื่อผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอจุ๋ยที่มาร่วมงานเปิดตัว ''เทศกาลเที่ยวงานวัด ครั้งที่ 11'' ที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 54 จึงได้สอบถามถึงประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งจุ๋ยได้ชี้แจงประเด็นมีเสี่ยตามจีบก่อนว่า ไม่ใช่เรื่องจริงเลย

''เสี่ยไม่มีหรอกค่ะ เป็นอะไรที่เข้าใจผิดมากๆ เหมือนเป็นเพื่อนของเพื่อน ซึ่งจุ๋ยไม่ได้สนิทเป็นพิเศษ ไม่ได้รู้จักหรือกินข้าว หรือไปเดินด้วย หรืออะไรก็ตาม เป็นการรู้จักแบบเพื่อนของเพื่อนมากกว่า ซึ่งเขาก็อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่ได้เป็นเสี่ยไม่ได้เป็นอะไรน่ะค่ะ เดี๋ยวเขาจะเสียใจ และเขาก็มีคนที่เขาจีบอยู่แล้ว เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ มันเหมือนเป็นธุรกิจเพื่อนทางการค้า จุ๋ยทำเรื่องของรถนำเข้าด้วย เพื่อนจุ๋ยเป็นรองประธานกรรมการ ฉะนั้นเขาต้องมีเพื่อนในวงการนี้อยู่แล้ว และเราก็ต้องเข้าไปทำงานด้วย รู้จักกัน แต่ว่าไม่ได้มีอะไรพิเศษสำหรับความรักค่ะ ยืนยันว่าเขาไม่ได้มาจีบค่ะ เป็นการคุยเฉยๆ ทางบีบี ไม่เคยเจอ กินข้าว ดูหนัง หรือไปไหนมาไหนด้วยกันเลย'' มีขอส่วนลดเวลาจะซื้อรถไหม? ''จุ๋ยซื้อในนามบริษัทของจุ๋ย ก็ได้ลดอยู่แล้วค่ะ (ยิ้ม)''

ต่อข้อถามว่า มีข่าวว่า ทางช่อง 3 มาทาบให้ไปร่วมงานจริงไหม จุ๋ยกล่าวว่า ''ตอนนี้จุ๋ยยังมีละครอยู่กับทางช่อง 7 อยู่เลย ยังทำงานสบายใจ อย่าทำให้มีกระแสข่าวอะไรแบบนี้เลยค่ะ''

เมื่อถามว่า สัญญากับทางค่ายกันตนายังเหลืออีกกี่ปี เรื่องนี้จุ๋ยบอกว่า ''สัญญาเพิ่งเซ็นต่อไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ต่อไป 3 ปี จุ๋ยเซ็นกับกันตนา ไม่ได้เซ็นช่องอยู่แล้วค่ะ อย่างที่เห็นจุ๋ยจะไปได้หลายช่อง ผู้ใหญ่เมตตาให้ไปทำพิธีกรในรายการต่างๆ ผู้ใหญ่ทางช่องก็น่ารักมาก''

ส่วนเรื่องที่ ''นิว-วงศกร'' แกะกุ้งให้ทาน จะมีลมพัดหวนหรือไม่อย่างไร เรื่องนี้จุ๋ยชี้แจงว่า

''วันนั้นไปทำงานที่หัวหิน  พี่นิวกับพี่เคลลี่ก็แกะกุ้งกัน เหมือนเราอยู่หัวโต๊ะเขาก็ให้เรากิน ความเป็นสุภาพบุรุษของเขาก็ยังอยู่ ไม่ว่าเราจะคบหรือไม่คบในแบบไหนก็ตาม เป็นพี่น้อง เขายังมีความเป็นสุภาพบุรุษเหมือนเดิม เราก็ออกมาชื่นชมเขา ยังเป็นพี่น้องที่ดูแลเอาใจใส่'' จุ๋ยกล่าว

"เจน" รับ แฟชั่นเซ็กซี่คู่ "อนันดา" แรง วอนอย่าชงรีเทิร์น

นอกจากจะมีผลงานภาพยนตร์เรื่อง “คอนฟลิก จังโก้” ด้วยกันแล้ว อดีตคู่รักอย่าง “เจน เจนสุดา ปานโต” กับ “อนันดา เอเวอร์ริ่งแฮม” ยัง ตัดสินใจถ่ายแฟชั่นสุดสยิวให้กับ 2 Magazine คู่กันอีกด้วย งานนี้ขอบอกว่าภาพที่ออกมานั้นซี๊ดส์สุดๆ จนใครต่อใครแอบลุ้นว่าจะทำให้คู่นี้สปาร์คกันอีกรอบหรือเปล่า สอบถามกับสาวเจน เจ้าตัวก็ยอมรับว่าภาพออกมาแรงจริง แต่เรื่องรีเทิร์นนั้นคงหมดสิทธิ์
     
“ฟีดแบคถ่ายแฟชั่นน่าตกใจค่ะ ก็ดีมีคนถามเยอะ เซ็กซี่มากมาย ทำงานกับอนันดาเป็นยังไง ก็ดีค่ะ สนุก รู้จักกันมานาน เขาชอบแซวทำให้เขิน ที่จะมาร่วมงานกันก็ทราบก่อนค่ะ แต่เรื่องคอนเซ็ปต์แฟชั่นก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เพราะว่ารู้จักกับทีมงานอยู่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าแรง ซึ่งแฟชั่นนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของหนังที่จะเล่นด้วยกัน ชื่อเรื่อง คอนฟลิก จังโก้ เป็นหนังแนวรัก สิ้นปีต้องไปถ่ายที่นิวยอร์กด้วย”
     
“เมื่อวานอนันดาก็โทรมา เขาบอกว่า เราว่าเฉยๆ มากเลยนะ ไม่เห็นมีอะไรเลย เขาคงชินนะคะ (ภาพแฟชั่นสวีตมากมีแววรีเทิร์นมั้ย?) ไม่หรอกค่ะ ชอบเอาเจนไปเกี่ยวรีเทิร์นกับอนันดาตลอด เดี๋ยวแฟนแต่ละคนของเขาจะไม่ชอบเจนนะคะ คงไม่ได้รีเทิร์น เจนทำงานทุกวัน ไม่ได้เจอใครเป็นพิเศษ เรื่องหัวใจตอนนี้ก็ไม่มีอะไรค่ะ เรื่อยๆ เรียบๆ”
     
แย็บถามถึง “ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม” ทายาทแกรมมี่ที่ มีข่าวพัวพันกิ๊กกันอยู่ว่าได้ถามถึงแฟชั่นสุดสยิวนี้บ้างหรือเปล่า? สาวเจนก็เผยว่า… 

“ถามถึงเรื่องแฟชั่น เขาก็ทักทายว่าเซ็กซี่เลยนะ เจอกันบ้างเรื่อยๆ ตอนนี้อาจจะเป็นเพราะเจนทำงานเยอะด้วยก็เลยไม่ค่อยมีเวลาคิดเรื่องความรักเท่าไหร่ จริงๆ ก็เลือกมากด้วยค่ะ”
     
พร้อมเผยเตรียมเคลียร์คิวบินไปเยี่ยม “พอลล่า” กับลูกที่อังกฤษ

“เจนไปค่ะ แต่รอเช็กคิวอยู่ว่าจะไปเมื่อไหร่ ตอนนี้กำลังเก็บวันหยุดไว้ก่อน เพื่อไปเยี่ยมทีเดียว (แอน อลิชา บอกว่าพอลล่าได้ลูกสาว?) แอนบอกแล้วเหรอ ทำไมอ่ะ จริงๆ อยากให้พอลล่าเขาบอกเองไง เป็นลูกเขา เขาก็อยากจะบอกพี่ๆ ด้วยตัวเขาเอง"

"เวียร์" โต้ตกอับ! ให้แฟนคลับซื้อของแต่งบ้าน

ตั้งแต่เลิกรากับนางเอก ''แพนเค้ก'' เขมนิจ จามิกรณ์ พระเอกหนุ่มผิวเข้ม ''เวียร์'' ศุกลวัฒน์ คณารศ ก็โดนข่าวเงินหด ตกอับ ออกมาเป็นระลอกไม่ว่างเว้น แม้ล่าสุดจะควักเงินล้านซื้อบ้านใหม่ แต่ก็ไม่วายถูกเม้าท์ว่าซื้อบ้านจนเงินหมด ต้องให้แฟนคลับซื้อของเข้าบ้านใหม่ให้ เมื่อผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอ ''เวียร์'' ที่มาร่วมงานเปิดตัว ''เทศกาลเที่ยวงานวัด ครั้งที่ 11'' ที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 54 จึงได้สอบถามถึงเรื่องดังกล่าว รวมถึงข่าวที่ว่าผู้ใหญ่ช่อง 7 จะจับหนุ่มเวียร์มาเล่นละครกับ ''แพนเค้ก'' ในละครเรื่องใหม่ ''นางฟ้ามาเฟีย'' ด้วย และละครอีกเรื่องหนึ่งที่จู่ๆ ก็ถูกปลด โดยมี ''วี'' วีรภาพ สุภาพไพบูลย์ มาเล่นแทน

มีข่าวว่าแฟนคลับซื้อของเข้าบ้านใหม่ให้ จนเราไม่ต้องซื้ออะไรเลย
    ''ก็ไม่ถึงขนาดนั้นนะครับ บ้านซื้อใหม่แล้วนะครับ ตรงบางกอกบูเลอร์วาด เส้นตัดใหม่รามอินทรา-รัชดา อยู่ไม่ไกลนะครับ ข้างๆ ห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์ ยังอยู่ในช่วงของการบิวต์อินอยู่ จ้างช่างเค้ามาตกแต่งภายในเล็กน้อยครับ ประมาณ2-3 เดือนถึงจะย้ายเข้าไปอยู่''

เขาว่าเราซื้อบ้านจนหมดตังค์ไปเยอะ  แฟนคลับเลยต้องช่วย
    ''ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับเขาคงเห็นว่าเราไม่มีเวลาไปจับจ่ายเอง ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างมาให้บ้าง ไม่ได้เยอะ คือผมก็อยู่คนเดียว คงไม่ได้ใช้อะไรเยอะแยะมากมายอยู่แล้วครับ''

แฟนๆ ซื้อของมาให้รู้สึกยังไง
    ''ก็ดีครับ ของมันมีประโยชน์เค้าซื้อมาเราก็ได้ใช้  ไม่ได้ซื้อทั้งหมด เกรงใจครับ ประมาณ 4-5 อย่าง เช่น ตู้เย็น ที่ใหญ่สุด''

บ้านหลังราคาเท่าไหร่
    ''ประมาณ 6-8 ยังไม่รวมบิวต์อิน บานปลาย ไม่แพงมากครับ''

ลือว่าเงินในบัญชีลดลงฮวบๆ
    ''อ๋อ ไม่ยังอยู่ครับ ยังเหลือเยอะอยู่ ไม่น้อยหรอกครับ''

ถามถึงละคร ''นางฟ้ามาเฟีย'' ที่ถูกวางให้เล่นคู่กับ ''แพนเค้ก''
    ''ยังไม่แน่นอนครับ แต่เค้าบอกว่าน่าจะเป็นผมเล่นแน่ๆ แต่นางเอกเนี่ย น่าจะเป็นน้องแพนเค้ก ก็โอเค ถือว่าได้ร่วมงานกันอีก มันเป็นละครที่เค้าอยากให้ผมเล่นตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทางผู้ใหญ่เขาอยากให้เวียร์ลองเล่น บู๊คอมเมดี้ดูบ้าง เพราะบทนี่เสร็จนานแล้ว ประมาณ 2 ปี แต่ว่ายังหาคนเล่นไม่ได้ ยังไม่มีคิวไปเปิดกล้องสักที ตอนนี้พร้อมแล้ว เวียร์ก็ว่างแล้ว''

รู้สึกยังไงที่ได้กลับมาร่วมงานกับน้องแพน
    ''จริงๆ ยังไม่รู้เหมือนกันครับ เดี๋ยวรอให้ทุกอย่างมันเรียบร้อย สรุปเราได้เล่นด้วยกันจริงๆ แล้ว ค่อยมารู้สึกว่าเราจะรู้สึกยังไง แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร''

แล้วตอนแรกที่รู้ล่ะจะได้ล่นด้วยกัน คิดยังไง
    ''ปกติครับ แต่ก็มี เอ๊ะ จริงเหรอ ก็ดีนะเราก็เล่นมากับทุกคนก็ค่อนข้างจะโอเคหมด จุ๋ย-วรัทยา, อั้ม-พัชราภา , ยุ้ย-จีรนันท์ ทุกคนน่ารักหมด เป็นพี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมงานในช่อง 7 ด้วยกันครับ''

บางกระแสก็ว่า ''ใหม่-ดาวิกา'' ไม่ใช่แพนเค้ก
    ''บางคนก็บอกเป็นน้องใหม่ เลยไม่มั่นใจว่าใครกันแน่''

ถามถึงละครอีกเรื่อง ที่ถูกถอดแล้ว ''วีรภาพ'' มาเสียบแทน
    ''อันนี้ก็เป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ครับ เราก็ทำตามหน้าที่ เปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนครับ''

เสียดายไหม
    ''คือเราก็ถ่ายละครกับพี่ผู้กำกับฯนะ คุยกันทุกวันว่าบทเป็นอย่างนี้นะเวียร์ คุยกันเสร็จสรรพว่าเวียร์เป็นพระเอกของเขาแน่นอน ก็แป่วเลย เฮ้ย พี่ไม่ใช่แล้ว เขาบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวโอกาสหน้าก็มีอีก''

ข่าวว่า ''นุ่น'' ขอเปลี่ยนตัวพระเอก
    ''ไม่ทราบครับ แต่ผมว่าไม่น่าใช่อย่างนั้นแน่นอน เพราะผมคุยกับพี่นุ่นตลอดว่า ดีใจกันมาก ไปร่วมตอนเดินแบบกับพี่นุ่น ที่อมตะนคร ก็ยังคุยด้วยว่า อุ๊ย นี่เราเล่นละครด้วยกันนี่ ครั้งแรกที่เจอเวียร์ ก็ไม่น่าจะใช่นะครับ ยังคุยกันอยู่''

เขาว่าเวียร์เด็กกว่าเยอะ
    ''ผมว่าไม่นะ ผมว่าหน้าผมไปเยอะแล้วล่ะ''

เอาเป็นว่าไม่ว่า ''เวียร์'' จะเล่นละครเรื่องไหน ยังไงกับใครก็แล้วแต่ แฟนคลับก็คอยให้กำลังใจอย่างเนืองแน่นอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว