วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2554

"ช็อค!" แฟนรายการ The Star7 "ซิลวี่" ตกรอบ!!!

เข้าสู่ Week ที่ 3 กับการแข่งขันอย่างเป็นทางการของ The Star 7 ในโจทย์เพลงลูกทุ่ง โดยเหล่า The Star ที่เหลือทั้ง 6 คน ต่างก็งัดไม้เด็ดของแต่ละคนออกมาโชว์กันอย่างเต็มที่ แม้บางคนอาจจะไม่ใช่คอลูกทุ่งโดยตรง แต่ก็อาศัยการโชว์ที่ทำออกมาให้น่าติดตาม

หลังจากจบโชว์เสร็จตามธรรมเนียมที่ 100 เสียงในห้องส่งจะลงคะแนนให้ผู้เข้าแข่งขัน ผลออกมาว่า ผู้ที่ได้รับเสียงโหวตมาเป็นอันดับ 1 ได้แก่ ตูมตาม (หมายเลข 1 ) หนุ่มอีสานที่ถ่ายทอดบทเพลงลูกทุ่งออกมาได้จับใจคนดูเป็นอย่างมาก ส่วนผู้ที่ได้คะแนน 100 เสียงมาเป็นอันดับสุดท้ายได้แก่ กวาง (หมายเลข 3)

และเมื่อถึงคืนวันอาทิตย์ซึ่งจะเป็นการชี้ชะตาของผู้เข้าแข่งขันว่า ใครจะได้ไปต่อ ผลการแข่งขันในสัปดาห์นี้กลับ "ช็อค!" คนดูทั้งประเทศเมื่อผู้ที่มายืนรอลุ้น 2 คนสุดท้าย ได้แก่ นท กับ ซิลวี่ เป็นที่ตกตะลึงต่อความรู้สึกของคนดูส่วนใหญ่ เพราะทั้ง 2 คน ถือเป็นตัวเก็งที่ใครหลายคนคาดว่า น่าจะอยู่ถึงรอบชิงชนะเลิศก็เป็นได้ และเมื่อผลออกมาว่า "ซิลวี่ (หมายเลข 4)" เป็นผู้ที่ต้องตกรอบไปในครั้งนี้ บรรยากาศภายใน Moon Star ต่างช็อคและเศร้ากับผลคะแนนในวีคนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากผลคะแนนกลางสัปดาห์ ซิลวี่มาเป็นอันดับที่ 1 และก็เป็นที่หมายปอง และชื่นชมจากเหล่ากรรมการทั้ง 3 ท่านที่หวังว่า "ซิลวี่" น่าจะเข้ารอบลอยลำไปสู่รอบ 3 คนสุดท้ายหรืออาจจะเป็น 1 ในผู้ชนะ The Star ในปีนี้ก็เป็นได้ เมื่อผลออกมาแบบนี้ทำให้กรรมการ ทั้ง 3 ท่านมีความรู้สึกเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่คนดูอาจจะเชียร์แต่ลืมโหวตหรือไม่อย่างไร...โดยเฉพาะ "พี่เพชร" ที่ถึงกับน้ำตาคลอพูดไม่ออกเลยทีเดียว

นับเป็นการ "ช็อค" ความรู้สึกของคนดูเป็นอย่างมากกับการตกรอบไปอย่างน่าเสียดายของ "ซิลวี่" สาวน้อยจากภูเก็ต วัย 15 ปี ที่มีพลังเสียงอันน่ามหัศจรรย์....

วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2554

ฉุน! แอ๊ด คาราบาว ทุ่มกีตาร์กลางงานสีสันอวอร์ดส์

(Clip เหตุการณ์ http://www.youtube.com/watch?v=DQK-1YI-cAI)

แอ๊ด คาราบาว หรือ นายยืนยง โอภากุล พร้อม นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เฟรชแอร์ และ นายทิวา สาระจูฑะ ผู้จัดงานสีสันอะวอร์ดส์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีที่ แอ๊ด คาราบาว ทุ่มกีตาร์ลงบนเวทีในงานประกาศรางวัลสีสันอวอร์ดส ครั้งที่ 23 ที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ เมื่อคืนวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยแอ๊ด คาราบาว เผยว่า ตนรู้สึกเสียใจที่กระทำตนไม่เหมาะสมในงานดังกล่าว เนื่องจากขาดสติในการควบคุมอารมณ์ เหตุเพราะไม่พอใจทีมงานที่ไม่มีความรับผิดชอบ จนทำให้เกิดการผิดพลาดทางเทคนิคบนเวที ประกอบกับตนเหนื่อยและเครียดจากการฝึกซ้อมคอนเสิร์ตใหญ่ 30 ปี คาราบาว จึงทำให้เกิดการฉุนเฉียว กระทำการดังกล่าวโดยไม่ยั้งคิด ซึ่งตนยอมรับว่าก่อนขึ้นเวทีได้มีการดื่มแอลกอฮอล์จริง แต่ไม่ได้มึนเมาจนขาดสติ หรือมีปัญหากับเพื่อนร่วมวงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ แอ๊ด คาราบาว ได้กล่าวขอโทษสื่อมวลชนตลอดจนแฟนคลับและศิลปิน ที่เข้าร่วมงาน หลังแสดงกิริยาไม่เหมาะสมดังกล่าวออกไป

จากการสัมภาษณ์ผู้ติดตามคนสนิทของนักร้องชื่อดัง ทราบว่าที่ น้าแอ๊ด ทุ่มกีตาร์ เพราะโมโหที่ถูกแซวนั้นไม่จริงแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะ สาเหตุที่กีตาร์ที่เล่นเกิดการขัดข้อง ทำให้ไม่มีเสียงโดยเจ้าตัวได้เรียกแบ็คสเตจให้มาดูแต่ก็ไม่มีใครสนใจทำให้ เกิดอาการฉุดขาดทุ่มกีตาร์ลงพื้นตามที่เป็นข่าว และคนสนิทยังบอกอีกว่าขณะนี้ น้าแอ๊ด กำลังปรึกษากับ เล็ก คาราบาว เพื่อนร่วมวงเพื่อเตรียมจัดแถลงข่าวในเร็ว ๆ นี้

งานประกาศรางวัลสีสัน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 23 ประจำปี 2553 เมื่อคืนวันที่ 23 มี.ค. ที่ โรงแรม ทาวน์ อิน ทาวน์ มีศิลปิน นักร้องร่วมงานคับคั่ง แต่เกิดเรื่องตกใจขึ้นชั่วขณะหนึ่ง

โดยก่อนที่จะประกาศรางวัลใหญ่ท้ายงานมีการแสดงคอนเสิร์ตของ วงคาราบาว เต็มวง เมื่อจบเพลงวงคาราบาวก็เตรียมลงจากเวที ให้มีการประกาศรางวัลต่อ แต่ มรกต โกมลบุตร ดีเจคลื่นแฟตเรดิโอ 104.5 ได้กล่าวเชิญชวนกลุ่มผู้ร่วมงานปรบมือเรียกร้องให้วงคาราบาว ที่มากันครบวง ขึ้นมาบรรเลงเพลงต่อ ซึ่งแอ๊ด คาราบาว และสมาชิกก็ขึ้นมาตามคำเรียกร้องทันทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม และกล่าวหยอกเย้ากับผู้ชมอย่างสนุกสนาน

แต่จากนั้นเพียงครู่เดียว แอ๊ด คาราบาว ที่ขึ้นมาสะพาย กีตาร์ทำท่าจะเล่นต่อ ก็ถอดสายสะพายกีตาร์ แล้วทุ่มกีตาร์ลงเวทีอย่างสนั่นหวั่นไหว และเดินลงจากเวที ทำเอาคนในงาน สีสัน อวอร์ด ตกใจถึงเงียบกริบกันทั้งงาน หลังจากนั้น ดีเจ มรกต ก็เห็นท่าไม่ดีรีบกล่าวดำเนินรายการต่อทันที

ทั้งนี้ หลังจากจบงานประกาศรางวัล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไม่พบตัวแอ๊ด คาราบาว โดยเจ้าตัวได้เดินทางออกจากงานหลังจากลงจากเวที อย่างไรก็ดี เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามโทรไปหาน้าแอ๊ด เพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าตัวก็รับโทรศัพท์แต่เกิดสัญญาณขัดข้อง หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่า แอ๊ด คาราบาว ฉุนขาดเนื่องจากโดนเสียงตะโกนแซวขึ้นไปบนเวที

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการส่วนตัวของแอ๊ด คาราบาว เปิดเผยผ่านรายการ เรื่องเล่าเช้านี้ ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า สาเหตุที่กระทำการเช่นนั้น เนื่องจาก แอ๊ค คาราบาว เกิดความไม่พอใจในส่วน แบคสเตทของวงคาราบาวเอง เนื่องจากพบความไม่พร้อมในขณะที่กำลังทำการแสดงอยู่ จึงเกิดบันดาโทสะ และโยนเหวี่ยงกีตาร์ทิ้งลงพื้น นอกจากนี้ยังได้ปฏิเสธข่าว ที่ลือว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะความขัดแย้งกันเองภายในสมาชิกวงคาราบาว

วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2554

“บอย” ช็อก “เป็นต่อ” โดนถอด ถามผิดอะไร ไม่รู้ “เนื้อคู่ฯ” เสียบแทน

ถือว่าเป็นซิตคอมที่อยู่มายาวนานและมีแฟนคลับเป็นจำนวนไม่น้อยทีเดียว สำหรับซิตคอม “เป็นต่อ” ของ ค่ายเอ็กแซ็กท์-ซีเนริโอ แถมยังคว้ารางวัลทั้งในและต่างประเทศหลายรางวัล แต่ล่าสุดกลับมีข่าวว่าช่อง 3 ได้มีการปรับผังรายการใหม่ และถอดซิตคอมเรื่องนี้ออกเรียบร้อยแล้ว เพราะเหตุผลที่ว่าเรตติ้งไม่กระเตื้องและนิ่งเกินไป มีผลเดือนพฤษภาคมนี้ ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (23 มี.ค.) บอสใหญ่อย่าง “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” จึง ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ในงานแสดงรอบปฐมทัศน์ละครเวที “เรื่องเล่าคืนเฝ้าผี” ที่เมืองไทยรัชดาลัย เอสพลานาด รัชดา โดยยอมรับว่าช็อกกับเรื่องนี้เช่นกัน และเตรียมที่จะเข้าไปคุยกับผู้บริหารของช่องในเร็วๆ นี้
     
“จริงๆ ก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ได้ยินมาแบบนั้นเหมือนกัน ผม ได้ยินมาจากอินเทอร์เน็ต แล้วก็ให้ทางทีมงานสอบถามไป ก็ได้รับคำยืนยันจากช่องว่าเป็นเช่นนั้น ว่าให้คิดรายการใหม่ จากเหตุผลที่เขาบอกว่าก็เพราะว่ามันนิ่ง อยากได้รายการที่เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ เราก็ค่อนข้างจะตกใจพอสมควรว่าสำหรับรายการ 5 ทุ่มกว่าๆ แบบนี้ เรามุ่งหารายการที่มันมั่งคงไม่ดีกว่าเหรอ”
     
“แล้วรายการเป็นต่อมันก็เป็นรายการที่มั่นคงมา 6 ปี คือมันก็มีรายการอื่นในประเภทนี้ที่อยู่นานกว่านี้เยอะมาก มันไม่ใช่ว่าจะทอล์กออฟเดอะทาวน์ตลอดเวลา แต่ว่ามันมีกลุ่มแฟนหนาแน่นตั้งแต่ตอนแรก วันพฤหัสบดี 4 ทุ่มกว่าๆ จนตอนนี้ 5 ทุ่มกว่าๆ ก็ดูเป็นต่อมาตลอด ก็ค่อนข้างตกใจอยู่เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่ได้คุยอะไรกับช่อง ยังไม่ได้คุยกับผู้ใหญ่ทางช่องเพราะว่าผมเพิ่งได้ข่าวมาเมื่อวานนี้ และเดี๋ยวผมก็ติดไปต่างประเทศก็เลยยังไม่ได้ทำอะไรเลย”
     
“ก็ช็อกครับ ค่อนข้างจะช็อกพอสมควร แต่มันก็ต้องดูเหตุผลที่แท้จริงว่าเหตุผลจริงๆ แล้วคืออะไร ต้องแก้ให้ถูกจุดนะ ถ้าเผื่อเราลงเรือลำเดียวกันเราก็ต้องแก้ให้ถูกจุด แต่อยู่ที่ว่าสุดท้ายแล้วลำดับความสำคัญของแต่ละคนมันเหมือนกันไหม ในเรื่องของการทำรายการโทรทัศน์ ถามว่ามันชัวร์หรือยังก็ยังไม่ได้มีการคุยต่อนะครับ แต่เท่าที่ได้รับคำยืนยันมาจากทางนี้ ผมคิดว่าผมก็คงต้องขออนุญาต เข้าไปคุย เข้าไปสอบถาม เข้าไปชี้แจง เข้าไปดูว่ามันคืออะไร เพราะผมว่าเราทำงานกันมันก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง มันคงไม่ใช่แค่รับคำสั่งแบบนี้ แต่สุดท้ายมันก็ต้องอยู่ที่ช่อง เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนตัดสินใจ”
     
เผยตอนนี้เบรกการถ่ายทำเอาไว้แล้ว และนักแสดงของเรื่องก็อึ้งไม่แพ้กัน บอกอาจจะเอาไปเสนอช่องอื่นถ้าของดีจริงก็ไม่ต้องกลัว ปัดไม่รู้ข่าวที่ว่าซิตคอม “เนื้อคู่ประตูถัดไป” ที่ถูกถอดจากช่อง 5 จะเข้ามาแทนที่
     
 “จากนี้ก็คงเบรกการถ่ายทำไว้ก่อน เพราะเราก็มีสต๊อกเอาไว้เยอะพอสมควรแล้ว ก็อาจจะเบรกไว้นิดหน่อย น่าจะได้ถึงปลายพฤษภาคมครับ แต่ช่องบอกว่าอยากให้เปลี่ยนตอนเดือนมิถุนายน นี่คือสิ่งที่รับรู้รับทราบมา ผมก็ยังไม่ได้คุยอะไรต่อว่ามันจะคืออะไร แต่ถ้าจะเปลี่ยนจริงๆ ก็คงต้องคุยกัน ยังต้องไปคุยกับช่องอีกว่าผ่านหรือเปล่า เขาอยากได้หรือเปล่า สุดท้ายแล้วจะยังไงผมก็ไม่ทราบ ผมตอบไม่ได้”
     
 “นักแสดงบางคนคงทราบแล้วมั้งครับ เพิ่งทราบเมื่อวานนี้ ก็ช็อคกันเยอะนะ คือถ้าถามแบบชาวๆ บ้านคือเราทำผิดตรงไหน คงเป็นอย่างนั้นครับ (หัวเราะ) เขาก็อึ้งกันนะ เพราะคืนวันพฤหัสบดีมันเป็นวันที่คนรอดูรายการนี้กัน ก็มีกลุ่มคนที่รอดูกันเยอะ สำหรับรายการนี้ คือจริงๆ แล้วเรตติ้งดีกระแสดีครับ แต่ว่ามันก็อาจจะดีไปเรื่อยๆ มันก็คงไม่มีอะไรตูมตามขึ้นมาอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ แต่ถ้าถามเราสำหรับรายการ 5 ทุ่มกว่าๆ อย่างนี้ ได้ความมั่นคงที่อยู่คงที่และมีแฟนหนาแน่นขนาดนี้ ผมว่าจริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่มีค่ามากสำหรับคนทำรายการโทรทัศน์ แต่ก็อย่างที่บอกว่าลำดับความสำคัญของแต่ละจุดยืนมันอาจจะไม่เหมือนกัน”
     
 “แต่จะย้ายช่องเลยไหมยังตอบ ไม่ได้ครับ ไม่แน่ ไม่รู้ ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะว่าถ้าเผื่อของมันดีจริงอาจจะมีคนอยากได้อีกก็ได้ อันนี้ไม่รู้ ตอบไม่ได้ แต่ถ้ามันไม่ดีจริงก็อาจจะถูกแล้วก็ได้ ไม่มีใครอยากได้ก็เท่านั้นเอง แต่สำหรับผมยืนยันว่าเรตติ้งดี กระแสดี เราเช็กกันตลอด สิ่งที่อาจจะทำให้เรตติ้งดร็อปไปก็เพราะว่ามันมาฉายช้าลงๆ (หัวเราะ) ดึกขึ้นๆ แต่ข่าวที่ว่าช่องจะเอา เนื้อคู่ฯ มาแทน อันนี้ผมไม่ทราบ ช่องก็ไม่ได้มีโจทย์อย่างอื่นมาให้ทำ เพราะอันนี้เราถูกสั่งมาว่าให้เปลี่ยน ให้เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ แต่ยังไงก็คงต้องเข้าไปคุยอีกทีครับ”

"ฟิล์ม-แอนนี่" ส่อเค้าถอนฟ้องจบลงด้วยดี

จากกรณีที่มีเรื่องราวขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาอย่างต่อเนื่องของดาราสาวชื่อ ดัง ''น.ส.ณชชญา ธนัตถ์ฐิตาภา'' หรือที่รู้จักกันในนาม ''แอนนี่ บรู๊ค'' ที่ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ''นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์'' หรือ ''เฮียฮ้อ'' ฐานหมิ่นประมาท ไว้ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ ''เฮียฮ้อ'' ได้พูดพาดพิง ''แอนนี่'' ในช่วงที่มีข่าวเกี่ยวกับนักร้องชื่อดัง ''ฟิล์ม'' รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ตามที่ได้เคยนำเสนอข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีการฟ้องร้องดังกล่าว ซึ่งผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 มี.ค. 54 ''นายสฤษดิ์ เจียมกมล'' ทนายความของ ''แอนนี่ บรู๊ค'' พร้อมด้วย ''นายดนัยศิษฐ์ เปสลาพันธ์'' ทนายความของ ''นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์'' ได้เดินทางมาไกล่เกลี่ยคดีที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ชั้น 2 ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ซึ่งใช้เวลานานถึงประมาณ 1 ชม. เต็มๆ

หลังจากนั้น ''นายสฤษดิ์ เจียมกมล'' ประธานสภาทนายความจังหวัดธัญบุรี และทนายความของดาราสาว ''แอนนี่'' ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การพูดคุยเจรจาของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปอย่างดี โดยทางฝ่ายคู่กรณีได้ยื่นเสนอให้ ''แอนนี่'' ถอนฟ้องทุกคดีและทาง ''ฟิล์ม-รัฐภูมิ'' ก็จะถอนฟ้องด้วยเช่นกัน ซึ่งจากที่คู่กรณีได้ยื่นข้อเสนอมานั้น ตนเองต้องไปปรึกษากับ ''แอนนี่'' ก่อน และได้มีการนัดหมายกันอีกครั้งในวันที่ 26 เมษายน 2554 เวลา 09.00 น. ที่ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ศาลจังหวัดธัญบุรี อีกด้วย

"เลดี้ กาก้า" ยอมรับเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุ 17

ป๊อปสตาร์แห่งยุค "เลดี้ กาก้า" ออกมายอมรับว่าเธอนั้นเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุ 17 ปี แต่เธอก็พยายามเรียนรู้และสนุกกับการมีเซ็กซ์และความรัก ดังนั้นเธอจึงรู้สึกพอใจที่จะอยู่คนเดียวและคอยเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไปเรื่อยๆ

เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่งว่า

"ฉันเสียความบริสุทธิ์ตั้งแต่อายุ 17 แต่มันทําให้ฉันได้เรียนรู้ว่าเราไม่ควรจะมีอะไรกันในขณะที่ยังไม่พร้อม แต่การมีเซ็กซ์มันก็ดีเหมือนกัน ทุกๆ ครั้งฉันก็ต้องถามว่าป้องกันไหม เพราะถ้าไม่ป้องกัน ตัวเราเองกลัวปัญหาที่จะตามมา มันเหมือนกับการเล่นเกมรัสเชี่ยนรูเลต ซึ่งเราไม่รู้ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่ดีที่สุดก็คงจะเป็นสติ เราต้องมีสติทุกครั้งก่อนที่จะทําอะไร ซึ่งฉันก็ไม่เคยลืมเรื่องนี้ค่ะ"

"รีเบคก้า แบล็ค" ดังเพราะ "ห่วย" จริงหรือ?

ช่วงนี้คอเพลงสากลคงรับรู้ถึงกระแสความร้อนแรงของเพลง Friday ร้องโดยนักร้องสาววัยรุ่นชาวอเมริกัน 'รีเบกก้า แบล๊ก' ที่มีจำนวนผู้เข้าไปชมมิวสิกวิดีโอเพลงดังกล่าวในยูทูปทะลุ 36 ล้านครั้งไปแล้ว

น่าแปลกที่สาวรีเบกก้า ไม่ได้ดังเพราะคนฟังชื่นชมแต่คนส่วนใหญ่พากันถล่มก่นด่า ติติงถึงน้ำเสียงที่ไม่น่าฟัง รูปลักษณ์ก็ไม่ชวนมอง เอ็มวีที่ทำก็ดูไม่เข้าท่าแถมด้วยการจวกหนักๆ ว่า คิดเทียบชั้นกับซุป'ตาร์หนุ่มวัยทีน อย่าง 'จัสติน บีเบอร์' ซึ่งผลที่ออกมาเทียบไม่ติดฝุ่น ม่วายยังถูกมองเป็นตัวตลกซ้ำอีกต่างหาก

ฝรั่งเขาจะวิจารณ์กันตรงๆ งานนี้คอมเม้นท์โดยส่วนใหญ่บอกว่า เพลง Friday ของ รีเบกก้า โด่งดังเป็นเพราะห่วย!!!

เอ๊ะ...หรือจะเป็นแผนโปรโมตกันแน่นะ? เห็นด้วยหรือไม่ ลองไปชมมิวสิกฯ เพลงร้อนๆ นี้ดู (ตาม Link ด้านบน)


 

"เจอราด บัทเลอร์" อาสาดามใจ "เจสสิกา บีล" เบรกขอเป็นแค่เพื่อน

เพียง 5 วันหลังจากประกาศเลิกรากับแฟนหนุ่มที่คบหากันมาเกือบ 4 ปี อย่าง จัสติน ทิมเบอร์เลก ก็มีคนเห็นสาวสวย เจสสิกา บีล ไปสนิทสนมกับ เจอราด บัทเลอร์ เพื่อนนักแสดงจากเรื่อง Playing the Field แล้ว
     
เมื่อไม่นานนี้ทั้งคู่ได้ถ่ายทำภาพยนตร์ร่วมกันในหลุยส์เซียนา ก่อนที่จะมีคนเห็นเจสสิกา บีล นักแสดงสาววัย 29 ปี และ เจอราด บัทเลอร์ นักแสดงหนุ่มวัย 41 ปี อยู่ด้วยกันครั้งแรกนอกกองถ่าย ขณะไปร่วมงานวันเกิดของทีมงานภาพยนตร์ในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง
     
"เมื่อเจอราดมาถึง เขาก็ตรงดิ่งไปหาเจสสิกาทันที เขาจีบเธอจริงๆ" ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าว
     
ตามรายงานระบุด้วยว่า 2 คืนหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็พากันออกไปดื่มมาการิตา ที่ร้านอาหารเม็กซิกัน และไม่เพียงเท่านั้น ทั้งสองคนยังไปดินเนอร์กันอีกสองรอบในอาทิตย์ถัดมาด้วย
     
อย่างไรก็ตามทางเพื่อนสนิทของนักแสดงสาวก็ยืนยันว่าเจสสิกาไม่ได้ รู้สึกอะไรแต่อย่างใด "เธอแค่ต้องการเป็นเพื่อนกับเขาเท่านั้นค่ะ"

     

“จุ๋ย” ปล่อยโฮเสียใจเลิก “นิว” รับ คิดแต่งงานด้วย!

ทำเอาอึ้งไปตามๆ กันหลังนางเอก “จุ๋ย วริทยา นิลคูหา” ออกมายอมรับว่าเลิกรากับ “นิว วงศกร ปรมัตถากร” มาร่วมปีแล้ว ซึ่งให้เหตุผลเพราะว่าเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ทั้งนี้ตั้งแต่ออกมาประกาศเลิกราก็มีข่าวเม้าท์ถึงเรื่องมีที่สาม ทั้งสองฝ่ายอย่างสาวจุ๋ยเองก็มีข่าวลือว่าพระเอกหนุ่มรุ่นน้อง “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” มาตามจีบ อีกทั้งยังมีคนตาดีเห็นว่ามีการไปรับไปส่งถึงบ้านของฝ่ายหญิงอีกด้วย แต่สาวจุ๋ยก็ได้ปฏิเสธชัดเจนว่าพอร์ชไม่ใช่มื่อที่สามแน่นอน   

ด้านนิวก็มีข่าวกับดาราสาว “ตาล กัญญา รัตนเพ็ชร” ว่า กำลังกิ๊กกันอยู่ ซึ่งนิวก็ได้ปฏิเสธไปแล้วเช่นกันว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ซึ่งในวันนี้ (23 มีนาคม 2554) เมื่อเวลา 14.00 น. หนุ่มนิวเองก็ได้ออกงานอีเว้นท์งานหนึ่งแล้วออกปากว่ารู้สึกเสียใจที่ไปไม่ ถึงฝั่งฝัน ทั้งๆ ที่มีแพลนว่าจะแต่งงานกัน

ทั้งนี้เวลาไล่เลี่ยกันสาวจุ๋ยได้มาร่วมงานเปิดตัวโรงภาพยนตร์ KTB Digital Cinema ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอนซีนิเพล็กซ์ และเมื่อเจ้าตัวได้ทราบเรื่องที่นิวพูดถึงเรื่องอดีต ก็ทำเอาสาวจุ๋ยถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว  

 “เรื่องแต่ละข่าวที่เข้ามาตอนนี้จุ๋ยเข้าใจนะ เข้าใจวงการบันเทิงเข้าใจว่าถ้ามันมีเรื่องราวของการเลิกรา โสดแล้วจะเป็นยังไง ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่าทำใจได้เฉยๆ”

 “กับพอร์ชเป็นเพื่อนเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันในกองถ่าย ยอมรับว่าสนิทเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่คุยกันได้ แต่ไม่ได้คุยลึกเรื่องส่วนตัว มีอะไรก็เฮฮากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คือจุ๋ยรักเด็กจริงนะ แต่เป็นเด็กตัวเล็กๆ อันนั้นรัก เรื่องพอร์ชไปตามส่งถึงบ้าน เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่จริง แต่ว่าในกลุ่มที่กองถ่ายก็เคยมีชวนว่าไปกินข้าวที่บ้านไหม หรือจะไปทานข้าวที่ร้านเราไหม แต่ว่ายังไม่มีใครว่างได้ไปกันสักคน”

 “ยืนยันค่ะว่าพอร์ชไม่ใช่มือ ที่สาม เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของพี่นิวและจุ๋ยเท่านั้น เรื่องที่พอร์ชที่บอกว่าจุ๋ยตรงสเปค จุ๋ยถามเขาแล้วล่ะ คิดว่าอาจจะเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดมากกว่า เขาบอกว่าเราเป็นคนที่น่ารัก เป็นสเปคของผู้ชายหลายๆ คนไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ไม่ได้ตรงสเปคมาก ถามว่าพอร์ชตรงสเปคไหม จะบอกว่าจุ๋ยเป็นคนไม่มีสเปคนะ ชอบนิสัยไม่ชอบที่หน้าตา แต่ชอบคนผิวขาว แต่ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นพอร์ช”

เผยยังติดต่อกับ “นิว วงศกร” อยู่ตลอด เชื่อใจอีกฝ่ายไม่กิ๊ก “ตาล กัญญา” ดารารุ่นน้อง บอกตั้งแต่เลิกกันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ลั่น ไม่เปิดรับใครใหม่เพราะยังไม่พร้อม ขอบคุณความหวังดีที่หลายคนอยากให้กลับมาคบกัน

 “ตอนนี้ก็ยังคุยกับพี่นิวอยู่เมื่อวานก็เพิ่งคุย พรุ่งนี้ก็จะมีงานแต่งงานของผู้จัดการส่วนตัว ก็ต้องเจอกัน ข่าว พี่นิวกับน้องตาลจะบอกว่าจุ๋ยสงสารทุกคนที่เป็นข่าว ที่ต้องโดน จริงๆ เขาเป็นเพื่อนกันหมด มันไม่ผิดที่ทำงานด้วยกันแล้วจะสนิทหรือไปทานข้าวหรือบีบีคุยกัน เรื่องนี้พูดตรงๆ ว่าตั้งแต่เลิกกันมา จุ๋ยไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัว เพราะเคารพในสิทธิของเขา เขาจะเจอใครใหม่หรือจุ๋ยจะเจอใครใหม่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว แล้วเราจะไม่คุยถึงเรื่องนี้ เราจะคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบ เรื่องอื่นมากกว่า”

 “ที่พี่นิวบ่นว่าเหงา ก็อยากถามว่าเหงาอะไร (หัวเราะ) ไม่หรอกเห็นเพื่อนเขาเยอะ มีหลายแก็งค์ของเขา เขาเป็นคนมีเพื่อนเยอะเหมือนกัน พอเลิกกันแล้วก็เพิ่งรู้ว่าเขามีเพื่อนเยอะนะ จุ๋ยเองก็อาจจะมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกเหงาหรือโหวงๆ แต่เราก็มีงานมีเพื่อน มันก็ทำให้หายเหงาไปได้ ตอนนี้บอกได้เลยว่าโสดสนิท ไม่กิ๊กไม่กั๊กไม่คบใคร ไม่พร้อมจะเรียนรู้ใครขอเว้นวรรคชั่วคราว”

 “หลายคนก็หวังดีที่อยากให้ กลับมาคบกัน ก็ต้องขอขอบคุณ ความหวังดีหรือความรู้สึกดียังมีให้พี่นิวเสมอ แต่ถามว่าคนที่มันไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่ ดังนั้นเราก็ไม่เสียเวลา เขาเป็นคนดีสำหรับจุ๋ยเสมอ อนาคตก็ไม่รู้จะยังไง ณ วันนี้ยังไม่แน่นอน”

ก่อนหน้าเพียงไม่ถึงชั่วโมง “นิว วงศกร” ให้สัมภาษณ์ว่าเสียดายที่ต้องเลิกกัน ซึ่งทันทีที่เจ้าตัวทราบเรื่องถึงกับร้องไห้ออกมาพร้อมเผยว่า ตนก็เคยคาดหวังถึงขั้นจะแต่งงานกับนิวเช่นกัน เพราะอยากให้ฝ่ายชายเป็นคนแรกเหมือนที่แม่ของตนเองมีพ่อเป็นคนแรกเหมือนกัน

 “ที่พี่เขาบอกว่าอยากให้จุ๋ย เป็นคนที่ใช่และจะแต่งงานด้วย แต่พอเลิกกันแล้วรู้สึกเสียดาย จะบอกว่าจุ๋ยก็เคยหวังเหมือนกัน ในเมื่อวันหนึ่งมันไปไม่ได้ถึงขนาดนั้น เราก็ต้องรู้ตัวเอง จริงๆ พี่นิวก็รู้ เขาก็พูดในจุดที่เราห่างกัน การคบใครสักคนหนึ่งเราไม่เคยคิดว่าเราจะเลิก อยากจะไปให้มันสุด อย่างแม่จุ๋ยมีพ่อเป็นคนแรก จุ๋ยก็อยากให้พี่เขาเป็นคนแรกเสมอ เข้าใจไหม(ร้องไห้)”

จู่ๆ เห็นสาวจุ๋ยร้องไห้ออกมาอย่างพรั่งพรู ก็ทำเอาผู้สื่อข่าวถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน ก่อนจะยุติการสัมภาษณ์เพื่อให้เจ้าตัวได้ทำใจ ซึ่งพอสาวจุ๋ยรวบรวมสมาธิได้และหันไปซับน้ำตาเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวก็แสดงสปิริตหันมายิ้มให้กับผู้สื่อข่าว และยืนให้ช่างภาพถ่ายภาพอย่างเต็มที่ก่อนจะขอตัวกลับ

โดม แจง พลอย ป่วยอดถ่าย MV ปลื้มละครแรง

หนุ่มโดม โอด! เสียดาย พลอย ป่วย อดถ่าย MV เพลง รักเธอตลอดกาล ปลื้ม ละครรักไม่มีวันตาย กระแสแรง โอด ซ้อมทวิภพ ละครเวที หนักจะดึงสาวพลอย เฌอมาลย์ มาเล่น MV เพลง รักเธอตลอดกาล เพลงประกอบละครรักไม่มีวันตาย ซะหน่อย แต่หนุ่มโดม ก็ต้องกินแห้ว เพราะสาวพลอย เกิดป่วยขึ้นมากระทันหัน ไม่สามารถมาทำงานได้ตามที่นัดหมายไว้

งานนี้หนุ่มโดม ก็บ่นเสียดายพร้อมชี้แจงว่า น้องพลอย คงเหนื่อย เพราะเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ และออกงานอีก แต่ยังยืนยันว่า เอ็มวีตัวนี้ แม้จะไม่มีสาวพลอย แต่จะได้เห็นวันจันทร์ที่จะถึงนี้แน่นอน

ส่วนกระแสละครเรื่องแรก รักไม่มีวันตาย หนุ่มโดม ก็ออกอาการปลื้มสุดๆ เพราะกระแสดีเกินคาด ตอนแรกเกร็งเหมือนกันว่า คนดูจะเป็นยังไง แต่เชื่อว่า ด้วยเรื่องราวสนุก แปลกใหม่ จากละครก็คิดว่าคนดูน่าจะชอบ แต่ยอมรับว่า ยากหมดทุกอย่าง ท้าทายดี และชักจะเริ่มติดใจงานละครแล้ว พอถามถึงความคืบหน้าเรื่องละครเวทีทวิภพ หนุ่มโดมก็โอดว่า ยากมาก ตอนนี้ก็เริ่มซ้อมแล้ว

ขอบคุณที่มาภาพและข่าวจาก INN NEWS

จียอน โต้ ริทเขม่นเซน แย่งจีบยันแค่พี่สาว

นักร้องหน้าใหม่สายเลือดกิมจิที่เสน่ห์แรงไม่เบาสำหรับสาว ซอ จียอน ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่า หนุ่ม ริท เรืองฤทธิ์ และ เซน ปฏิภาณ เกิดการเขม่นกัน เพื่อทำคะแนนเอาใจ สาวจียอน

งานนี้สาวจียอนก็รีบแก้ตัวว่า ......จริง ๆ แล้วไม่มีอะไร ริท เป็นน้องเป็นเพื่อนร่วมงานกัน ริทจะช่วยสอนภาษาไทยให้จียอน เพราะจียอน เป็นคนต่างชาติพูดภาษาไทยไม่ค่อยเก่ง เรา 2 แล้วก็ไปงานด้วยกันบ่อย ๆ เลยเป็นข่าว ถามว่าสนิทกันไหม ก็สนิท เพราะร่วมงานในซิทคอม นัดกับนัด แต่ไม่เคยไปไหนมาไหนด้วยกัน 2 คน สำหรับ ริท ก็ไม่ใช่สเปกขนาดนั้น เห็นเป็นเหมือนพี่-น้อง มากกว่า

ส่วน เซน ก็เพื่อนสนิทเหมือนกัน เค้า เป็นคนที่ชอบอะไรแบบเกาหลี ชอบแต่ตัวคล้ายๆ จียอน ก็จะคุยเรื่องแฟชั่นมากกว่า ยืนยัน ริทกับเซน ไม่ได้เขม่นกันเพื่อแย่งจีบตน อาจเป็นเพราะ จียอน เป็นศิลปินใหม่ของ เอ็กแซ็กท์ เค้าคงเอ็นดู เวลา จียอน โดนแกล้งเพราะพูดภาษาไทยไม่ชัด เขาก็สงสาร พยายามช่วยเราตลอด ตอนนี้ยังไม่อยากมีแฟน ขอตั้งใจทำงานก่อน

ยุ้ย ทรุดติดเชื้อในกระแสเลือดฟุบคากองถ่าย

นางเสือสาว ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม นางเอกละครเรื่อง "ป่านางเสือ" เกิดทรุดหนักติดเชื้อไวรัสในกระแสเลือด ระหว่างโหมถ่ายทำละครเรื่อง "ป่านางเสือ" ของค่ายกันตนา ที่กำลังออกอากาศอยู่ทางช่อง 7 สี ในขณะนี้ โดยคนใกล้ชิด กล่าวว่า

"ในระหว่างถ่ายทำละครเรื่อง "ป่านางเสือ" ที่วิทยาลัยราชพฤกษ์ ย่านพระราม 5 ในขณะเข้าฉากกันครบทีมนักแสดงนำ เติ้ล-ธนพล, เขตต์ ฐานทัพ และ เอี๊ยม-วรรษพร นางเอกสาว ยุ้ย มีอาการหน้าซีด หนุ่มเขตต์ เห็นรีบขอยาดม และน้ำจากทีมงานมาให้ สาวยุ้ย 

สาวยุ้ยดื่มน้ำแล้วยังฮึดถ่ายต่อ ระหว่างเข้าฉากพูดไปยังไม่ทันจบประโยค คราวนี้วิ่งออกไปอาเจียน แล้วบอกว่ารู้สึกคลื่นไส้เวียนหัวมาก ทีมงานรีบไปดูแล นั่งพักสักพักยุ้ยบอกขอถ่ายต่อให้เสร็จ เพราะเหลือฉากตนเองเพียงสามซีน

ทางพี่หยง-เอกภพ ตันหยงมาศกุล ผู้กำกับ เลยถามก่อนว่า ไหวหรือเปล่า ยุ้ย ยังบอกว่าไหว จึงถ่ายทำต่อจนเสร็จ และทางผู้กำกับจึงบอกให้ทีมงาน ยกคิวถ่ายทำในวันนี้ เพราะต้องการให้นางเอกสาวพักผ่อน ซึ่งหลังจากออกจากกองถ่าย สาวยุ้ย พร้อมผู้จัดการส่วนตัว ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลวิภาวดี หมอให้พักฟื้น เพราะตรวจพบเชื้อไวรัสในกระแสเลือด จึงอยู่ให้น้ำเกลือ 1 คืน กับ 1 วัน"

โดย นางเอกสาวยุ้ย จะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ และจะมาถ่ายทำละคร "ป่านางเสือ" ในวันพรุ่งนี้ ย่านท่าเรือ แถวปทุมธานี เนื่องจากละครกำลังเร่งปิดกล้อง เพราะกำลังออกอากาศอยู่ทุกวันจันทร์-อังคาร ทางช่อง 7 สี

ตำนานฮอลลีวูด "อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์" สิ้นลมลงแล้วในวัย 79 ปี

นักแสดงหญิงผู้ยิ่งใหญ่ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานแห่งฮอลลีวูด "อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์" เสียชีวิตแล้วในวัย 79 ปี ในช่วงวันพุธที่ 23 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ภายหลังเธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหลังจากมีภาวะหัวใจล้มเหลว มาตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา

อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์ สิ้นลมลงแล้วจากภาวะหัวใจล้มเหลว ที่ศูนย์การแพทย์ ซีดาร์ส ไซไน ในนคร ลอสแอนเจลิสหลังจากเข้ารับการรักษาตัวมาเป็นระยะเวลาประมาณ 6 สัปดาห์ โดย เซลลี่ มอร์ริสัน ประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของนักแสดงหญิงผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้ออกมาแถลงถึงเรื่อง นี้ … “ลูก ๆ ทุกคนอยู่กับเธอที่นั่นด้วย” มอร์ริสัน พูดถึงวาระสุดท้ายของนักแสดงหญิงผู้เป็นตำนานแห่งฮอลลีวูด

อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์ เป็นนักแสดงที่เหมือนกับได้รับทั้งพรจากสวรรค์ และคำสาบ นอกจากผลงานที่ยังอยู่ในความทรงจำของแฟน ๆ รวมถึงเคยคว้ารางวัลออสการ์มาถึง 3 ครั้งแล้ว เธอยังถูกจดจำจากชีวิตส่วนตัวอันเปี่ยมไปด้วยเรื่องราว รวมถึงเรื่องความรักอันล้มเหลว, การต้องทนทุกข์กับปัญหาสุขภาพมาตลอดชีวิต และการเข้าสู่ประตูวิวาห์ถึง 8 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งในนั้นก็คือการแต่งงานกับ ริชาร์ด เบอร์ตัน ที่ความรักของทั้งคู่แทบจะกลายเป็นตำนานแห่งฮอลลีวูดไปแล้ว

อลิซาเบ็ธ โรสมอนด์ เทย์เลอร์ เกิดที่ลอนดอนเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 1932 เป็นลูกสาวของ ฟรานซิส เทย์เลอร์ นายหน้าค้างานศิลปะ และซารา ซอทเธิร์น นักแสดงละครเวทีชาวสหรัฐฯ เพียงแค่ในวัย 3 ขวบ อลิซาเบ็ธ เทย์เลอร์ ก็ฉายแววการเป็นนักแสดง ด้วยการมีโอกาสได้แสดงบัลเลย์ต่อหน้าพระพักตร์เจ้าหญิง อลิซาเบ็ธ แล้ว (ที่ต่อมาคือ พระนางเจ้าอลิซาเบ็ธ ที่ 2) ขณะที่เมื่อมีอายุ 4 ขวบเธอก็เริ่มฝึกหัดขี่ม้า

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เทย์เลอร์ ตามครอบครัวย้ายไปอยู่ที่สหรัฐฯ ซึ่งพ่อของเธอไปเปิดห้องภาพอยู่ที่เบเวอร์ลี ฮิล จนกระทั่งในปี 1942 เธอก็ได้เปิดตัวในวงการภาพยนตร์กับผลงานการแสดงเรื่อง There's One Born Every Minute หลังจากเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่มีอายุเพียง 12 ปี เทย์เลอร์กลายเป็นเจ้าสาว และหย่าครั้งแรกเมื่ออายุได้ ท็อดด์ สามีคนที่ 3 ของเธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1958 เธอแต่งงานถึง 8 ครั้งกับสามีทั้งหมด 7 คน ขณะเดียวกันก็กลายเป็นนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด และได้รับการยกย่องว่าเป็นนักแสดงสาวที่สวยที่สุดในช่วงเวลานั้น

ผลงานอันเป็นตำนาน

ตลอดระยะเวลาการทำงานในวงการกว่า 60 ปี เทย์เลอร์มีผลงานกว่า 50 เรื่อง และเคยได้รับรางวัลออสการ์ 3 ครั้งจากผลงานการแสดงใน Butterfield 8 (1960) รวมถึง Who's Afraid of Virginia Woolf? (1966) ที่เธอได้ร่วมงานกับ เบอร์ตัน คู่ขวัญทั้งในจอและนอกจอ

นอกเหลือจากนั้นผลงานที่น่าจดจำของ เทย์เลอร์ ยังรวมถึงการฉายภาพความน่ารัก, บริสุทธิ์ ในหนังที่สร้างจากวรรณกรรมเยาชน National Velvet (1944) ที่เล่าของเด็กสาววัย 12 ขวบ กับการแข่งขันขี่ม้าข้ามสิ่งกีดขวางชิงแชมป์ระดับประเทศ หนังเรื่องนี้เป็นผลงานลำดับที่ 5 ของเทย์เลอร์เป็นหนังที่สร้างความโด่งดังให้กับเธอ ขณะเดียวกันอุบัติเหตุที่เธอตกม้าระหว่างการถ่ายทำ ก็กลายเป็นบ่อเกิดปัญหาสุขภาพของเทย์เลอร์ไปอีกหลายปี

Cleopatra คือหนังอีกเรื่องของ เทย์เลอร์ ที่ยังคงถูกกล่าวขวัญถึงทุกวันนี้ ทั้งเรื่องทุนสร้างอันมหาศาล, ความล้มเหลวทางด้านธุรกิจของหนัง และเรื่องราวเบื้องหลังการสร้าง กับความรักของ เทย์เลอร์ กับ ริชาร์ด เบอร์ตัน

Chris Brown ฟิวส์ขาด อาละวาด ฉีกเสื้อ ทำลายข้าวของ กลางสตูดิโอ!!

เป็นเรื่องเกิดเหตุการณ์ร้อนแรงให้ขึ้นหน้าหนึ่งอีกครั้งสำหรับ Chris Brown นักร้องผิวสีแนวอาร์แอนด์บี ที่เคยมีคดีความทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว Rihanna นักร้องชื่อดัง จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลมาแล้ว

และครั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการกับพิธีกรหญิง Robin Roberts ที่สตูดิโอ Times Square
ในรายการ Good Morning America เนื่องจากทางพิธีกร ตั้งคำถามที่ใครๆก็อยากถามอยากรู้ แต่ไม่กล้าถาม ในประเด็นเรื่องราวของเขากับ แฟนสาว Rihanna ซึ่งทางฝ่ายนักร้องหนุ่มเองก็พยายามเบี่ยงเบนประเด็นที่ไม่อยากพูดถึง ไปพูดถึงอัลบั้ม F.A.M.E. ผลงานเพลงล่าสุดของเขาแทน

หลังจากที่ให้สัมภาษณ์เสร็จ คริสได้เข้ามาให้ห้องแต่งตัว ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งแสดงกิริยาท่าทางออกมาอย่างชัดเจน เขาเริ่มส่งเสียงดัง สร้างความตื่นตระหนกให้กับทีมงานที่อยู่หลังฉาก จนต้องมีการเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้ามาห้ามปราม

แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล เพราะเหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ คริสเริ่มแสดงกิริยาก้าวร้าวมากขึ้นด้วยการทำลายข้าวของ ทุบกระจกหน้าต่างในห้องแต่งตัวจนแตกกระจัดกระจาย และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคริสได้ฉีกเสื้อตัวเองออกมาในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัยกำลังเข้าจับกุม หลังจากนั้นเขาจึงถูกนำตัวออกจากตึกในทันที คริส ยังคงอยู่ในคำสั่งศาลเรื่องการควบคุมความประพฤติ ที่เริ่มมาตั้งแต่คดีทำร้ายร่างกายริฮานน่า ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเขาอีกด้วย!!

"เมล บี" Spice Girls ท้องอีกแล้วตามหลังเพื่อนซี้ "วิคตอเรีย"

เมลานี บราวน์ หรือ เมล บี นักร้องสาววัย 35 ปี ที่มีลูกมาแล้ว 2 คนคือ ฟีนิกซ์ ไช ลูกสาววัย 12 ปี ที่เกิดกับ จิมมี กัลซาร์ แดนเซอร์หนุ่มสามีคนแรกของเธอ และ แองเจิล ไอริส ลูกสาววัย 3 ปี ที่เกิดกับนักแสดงตลกชื่อดัง เอ็ดดี เมอร์ฟีย์ มาตอนนี้ก็ได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมล บี และ สตีเฟน แต่งงานกันมา ได้ 3 ปีครึ่ง และรู้สึกตื่นเต้นกับข่าวดีนี้แม้ว่าทั้งคู่ตั้งใจว่าจะรอให้แต่งงานครบ4ปี แล้วค่อยมีลูกก็ตาม "พวกเราตื่นเต้นจริงๆ เราไม่ได้วางแผนไว้ กะว่าจะรอให้ครบ 4 ปีก่อนแล้วค่อยมีลูกถ้าเป็นแบบนั้นเราคงรู้สึกว่าพร้อมและคงจะไม่ตื่นเต้น เท่าไหร่ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่รู้สึกพร้อมจริงๆก็เถอะ"

เมล บี เผยข่าวดีนี้ให้กับสามีของเธอที่เคยมี จีเซล ลูก สาววัย 6 ปีซึ่งเกิดกับความสัมพันธ์ครั้งเก่าของเขามาแล้ว ว่าเขากำลังจะมีลูกของตนเองอีกหนึ่งคนโดยหลังทราบข่าวดีเขาถึงกับเปิดแชมเปญ ฉลองกับภรรยาเลยทีเดียว

 "ผมเอาคริสตัลแชมเปญมาเปิดฉลองให้กับเรา ผมพูดกับลูกว่า 'ลูกจ๋า สนุกกับแก้วนี้นะเพราะว่าหนูจะไม่ได้ดื่มมันอีกต่อไปแล้วนะ!' ผมต้องบอกให้คุณรู้ เธอดื่มด่ำกับคริสตัลแก้วนั้นจริงๆ"

 อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งเขาและเธอต่างก็มีลูกติดเป็นลูกสาวทั้งหมด โดยไม่มีลูกชายเลยแม้แต่คนเดียว แต่เมล บี ก็ไม่ตื่นเต้นอยากทราบเพศของลูกในท้องแต่อย่างใด

  "ฉันยังไม่รู้เลยว่าอยากรู้เพศของลูกหรือเปล่า ฉันเพิ่งผ่านสามเดือนแรกมาเอง ผ่านช่วงอันตรายมาได้อย่างปลอดภัย ช่วงสามเดือนแรกฉันรู้สึกแย่จริงๆ รู้สึกเหนื่อยมาก พูดจริงๆว่าตั้งแต่ตั้งท้องลูกๆมาฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย"

 เรียกได้ว่างานนี้ เมล บี ตรงข้ามกับสาว พอช สไปซ์ หรือ วิคตอเรีย เบ็คแฮม เพื่อน ร่วมวงอย่างมากเนื่องเธอมีลูกชายมาแล้ว 3 คนและตื่นเต้นอย่างมากที่จะทราบเพศของลูกในครรภ์จนได้รับข่าวดีว่าเด็กใน ครรภ์เป็นเพศหญิงและเธอไม่มีอาการแพ้ท้องรุนแรงแต่อย่างใด นับได้ว่าครั้งนี้ 2 สาวสไปซ์เกิร์ลต่างก็ตั้งครรภ์ในเวลาไล่เลี่ยกันเลยทีเดียว

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

"ขวัญ" รับสนิทคนในเครื่องแบบ มึนข่าวจับคู่ "อ๋อม-เวียร์"

ครองตัวเป็นโสดมานาน สำหรับนางเอกสาว "ขวัญ" อุษามณี ทำให้เธอถูกจับคู่กับบรรดาหนุ่มในวงการ ล่าสุดโดนจับคู่กับพระเอกที่เพิ่งโสดมาหมาดๆ อย่าง "เวียร์" ศุกลวัฒน์ และอีกทั้งยังตกเป็นข่าวกับ "อ๋อม" อรรคพันธ์ เมื่อเจอสาวขวัญในวันเปิดกล้องละครเรื่อง โบ๊เบ๊ และ หอบรักมาห่มป่า ที่บริษัทดาราวิดีโอเลยถามไถ่ถึงประเด็นดังกล่าว ขวัญเผยดังนี้

 "ความรักก็มีหมาที่บ้าน หนูแบ่งให้เรียบร้อยแล้ว (มีคนเข้ามาไหม) มีเข้ามาบ้างเราผู้หญิงสวยเนอะ(ยิ้ม)หนูก็อยู่ของหนูแบบนี้ แต่ถ้าถามว่าเป็นคนนอกหรือคนในวงการอันนี้ไม่รู้ว่าเพราะเข้ามาไม่ถึงตัวขวัญหนูไม่เคยอยู่ตัวคนเดียวไปไหนก็อยู่ครอบครัวอยู่กับคุณแม่ หรืออยู่กับเพื่อน ทุกวันนี้คุยกับคนที่รู้จักกันมาตั้งนาน แต่คนใหม่ๆ ไม่ได้คุยอะไรกับใครขวัญยังไม่มีแฟนก็คุยกับใครได้" ขวัญกล่าว
 

เคยพูดว่ามีเพื่อนในเครื่องแบบที่คุยกันอยู่นั้น ล่าสุดขวัญเผยว่าหนุ่มคนดังกล่าวไม่ใช่เพื่อน แต่เป็นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งนานแล้ว และยังคุยกันอยู่เนื่องจากสนิทกันและที่บ้านรู้จักดี  ส่วนจะมีโอกาสพัฒนาหรือไม่นั้นคงเป็นเรื่องอนาคตที่ไม้รู้

 "ไม่มีหยอดคำหวานอะไร ถ้ามีเรื่องอะไรก็ปรึกษากับพี่คนนี้ได้  แต่ไม่ได้อะไรมากมายนะ อย่าจูนไปกับพี่คนนี้คนเดียวนะ แม่ไม่ไฟเขียวกับใครสักคน เพราะเขาอยากให้เราอยู่กับเขาไปนานๆ"

 ส่วนที่มีข่าวกับพระเอกหนุ่ม  "เวียร์" ศุกลวัฒน์ กับ "อ๋อม" อรรคพันธ์ นั้น นางเอกชื่อดังกล่าว ว่าไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีโอกาสได้เจอกับสองพระเอกหนุ่มสักเท่าไหร่

 "หนูไม่เจอกับพี่เวียร์เลย กับพี่อ๋อมไม่เจอกับพี่เขาเหมือนกัน อย่างพี่เวียร์เจอกันจริงๆ ตอนถ่าย ดั่งดวงหฤทัย นอกนั้นก็เจอตามงาน สวัสดีค่ะ พี่อ๋อมยิ่งหนักไม่เจอเลย (ต่างคนต่างโสดหรือเปล่า) หนูไม่ทราบก็ตลกดี แต่ถือว่าข่าวเบาสำหรับขวัญ ยังดีกว่าข่าวแรงๆ เพราะขวัญเจอบ่อยแล้ว"

"มาริโอ้" ไม่หวั่น! ถูกสอบเกณฑ์ทหาร

จากกรณีที่มีรายงานข่าว กองทัพบก จะดำเนินการคัดเลือกตรวจเลือกชายไทยที่มีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ คือ ผู้ที่เกิด พ.ศ. 2533 และผู้ที่มีอายุ 22 ถึง 29 ปีบริบูรณ์ หรือผู้ที่เกิด พ.ศ. 2525-2532 ที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจเลือกเข้าเป็นทหารกองประจำการประจำปี 2554 ระหว่างวันที่ 1-12 เมษายน นี้ โดยความต้องการยอดทหารในปีนี้ ประมาณ 88,760 คน โดยเน้นในเรื่องการรักษาไว้ซึ่งความบริสุทธิ์ยุติธรรม และการป้องกันการทุจริตในการตรวจเลือก โดยมีคณะกรรมการตรวจเลือกจำนวน 154 คณะจะทำหน้าที่ในการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์กฎหมายอย่างเคร่งครัด

ขณะเดียวกันเตรียมเข้าตรวจสอบสถานภาพการศึกษาของ มาริโอ้ เมาเร่อ ดาราหนุ่ม ซึ่งเกิดเมื่อปี 2530 ภูมิลำเนาทหาร เขตประเวศ ได้ขอผ่อนผันมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกในวันที่ 7 เมษายนนี้ เนื่องจากมีเสียงร้องเรียนมาว่า เมื่อปีที่แล้วดาราหนุ่มไม่ได้เอาเวลาไปเรียนหนังสือตามที่ทำเรื่องผ่อนผัน หากแต่หนักเอาไปใช้ในการทำงานในวงการบันเทิง แสดงละคร และเดินแบบเป็นส่วนใหญ่

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ''มาริโอ้'' ได้ยอมรับว่าเมื่อปีที่ผ่านมาไม่ได้ไปเรียนสม่ำเสมอจริง เนื่องจากมีงานในวงการบันเทิงที่ต้องทำจำนวนมาก แต่ขอยืนยันว่าเวลานี้ตนยังเรียนอยู่ที่ คณะนิติศาสตร์ ปี 2 ม.รามคำแหงจริง ซึ่งฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้สามารถไปตรวจสอบข้อเท็จจริงได้และในปีนี้ได้จัดสรรเวลาการทำงานกับการเรียนให้ดำเนินไปควบคู่กันได้อย่างลงตัวแล้ว

ทั้งนี้ก่อนหน้าที่มีรายงานข่าวว่า กองทัพบกเตรียมเข้าตรวจสอบสถานภาพการศึกษา ''มาริโอ้'' เคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแล้วว่าในการคัดเลือกทหารประจำปี 2554 ยังจะทำการผ่อนผันเหมือนเดิมโดยให้เหตุผลว่า ยังไม่พร้อมเพราะยังต้องเรียนหนังสือ อีกทั้งยังมีงานเยอะ อย่างไรก็ตามหากถึงเวลาจะต้องเป็นทหารกองประจำการตนก็ไม่กลัวและพร้อมรับใช้ชาติทำหน้าที่ของลูกผู้ชายไทย

นอกจาก ''มาริโอ้'' แล้วยังมีคนวงการบันเทิง และลูกคนในวงการอีกหลายคนมีคิวเข้าคัดเลือกทหารกองประจำการหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ''อ๊อฟ'' ชนะพล สัตยา พระเอกช่อง 7สี,  ''อเล็กซ์-เรนเดล'' พระเอกช่อง 3, กานต์ อ่ำสุพรรณ  มือกลองวงโปเตโต้, ''ไมค์''  พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล นักร้องชื่อดัง โคราช กระโดนชำนาญ ลูกชาย พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ นักร้องเพื่อชีวิตชื่อดัง

อย่างไรก็ตาม ในรายของ ''อ๊อฟ-ชนะพล'' ,  ''อเล็กซ์-เรนเดล '' และ ''ไมค์-พิรัชต์'' ได้ยืนยันแล้วเช่นกันว่าจะขอทำการผ่อนผันในปีนี้ เนื่องจากยังติดเรียนหนังสือในระดับอุดมศึกษา

แอน พร้อมแต่งแค่ เอ เอ่ยปาก

คบหากันมาก็นมนานจนถึงวันนี้ก็ปาเข้าไป 11 ปี แล้วแต่สาวแอน ทองประสม กับ แฟนหนุ่ม เอ ทินพันธ์ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเข้าพิธีวิวาห์เสียทีในขณะที่สื่อมวลชน แฟนละคร และแฟนคลับต่างก็พากันลุ้นสุดตัว

"ยังไม่แต่งแต่ไม่แน่อยู่ดีๆ อาจจะอยากแต่งก็ได้ แต่ตอนนี้ยังอาจจะมีจังหวะที่ปึงแล้วก็พร้อมเลยยังไม่รู้ต้องดูก่อน ทุกวันนี้ถามว่าพร้อมหรือมั้ยก็ยังติดที่เรายังทำงานอยู่แต่ถามว่าเป็นวัยที่พร้อมมั้ยพร้อมมากๆ แล้ว ก็ไม่ได้รังเกียจแต่งก็ได้แต่อีกแป๊บหนึ่งรอว่างๆ ก่อน เพราะเขาก็ไม่ได้ถามเราก็ไม่ได้ทวงเพราะรู้กันอยู่แล้ว ถึงเวลาจังหวะที่ใช่ก็คงจะต้องมาคุยกันเพราะเราไม่ได้ดูคนอื่นแล้วดูที่ตัวเราเป็นหลัก"

คิดว่าปีนี้น่าจะพร้อมแต่งมั้ย

"เรารู้สึกเขาโอเค.ลงตัวกับแอนตั้งแต่สามปีที่รู้จักกัน ทุกวันนี้เหมือนเพื่อนกันไปแล้วเพราะคบกันมา 11 ปี จนตอนนี้ไม่นับแล้วไง แล้วของแบบนี้แอนว่าไม่ต้องคุยแล้วนัดวันกันมาเลย ใครจะขอใครก่อนไม่ใช่ประเด็น อยู่ที่ใครนึกได้ก่อนก็สะกิดก่อนไม่เป็นไร"

11 ปีมีทั้งหวานและจืด

"ก็ต้องมีปัญหามีทุกอย่างถ้าไม่มีคงคุยกันไม่รู้เรื่อง แอนว่าพอมีปัญหาเราจะเรียนรู้พอเรียนรู้เราจะรู้จักกันมากขึ้นว่าเขาก็มี ความคิดหลายมุม มันมีหมดแหละทั้งผูกพันและจืดชืด จืดชืดหมายความว่าความเป็นวัยรุ่นไม่มีแต่รู้สึกผูกพันมากขึ้น ซึ่งแอนรู้สึกแฮปปี้กับแบบนี้มากกว่า เพราะเราจะได้ไม่ต้องมานั่งสร้างความเซอร์ไพรส์ให้กันตลอดเวลา หรือสร้างสถานการณ์ให้ดูพิเศษตลอดเวลา แค่รู้สึกมั่นคงทางใจก็พอแล้ว คุณเอเป็นคนไม่หวานนะค่อนข้างเป็นคนจริงมากกว่าไม่แฟนตาซีเลย ทุกอย่างจริงหมด ไม่ค่อยปลอบใจไม่ค่อยปลอบประโลม เป็นแนวถ้าผิดจะแนะนำเลยควรทำแบบนี้ ถ้าทำไม่ถูกจะต่อว่าทันที"

แต่แอนกับเอก็ไม่เคยมีข่าวฉาว

"เพราะแอนไม่ได้ไปไหนทำแต่งาน คือแอนไม่รู้ ของอย่างนี้จะเกิดกับใครเมื่อไหร่ แต่คงไม่มีใครอยากให้เกิด เราก็ทำทุกวันนี้ประคับประคองไม่ให้มันเกิดทำให้ดีที่สุด เวลาเราทุ่มสุดหัวใจถ้าเขายังอยากจะไปเราจะไม่มานั่งเสียใจ ไม่โทษตัวเอง ถ้าเขาเป็นคนดีจริงต้องรู้ว่าเราดีกับเขาและจะไม่ทำร้ายเรา แอนคิดอย่างนี้นะ แต่วันหนึ่งถ้าไม่เป็นอย่างที่แอนคิดก็ต้องยอมรับ"

เซ็กซ์เทป “อัชเชอร์” โผล่อีกราย!!!

นักร้องหนุ่มผิวหมึกชื่อดัง “อัชเชอร์” ตกเป็นคนดังในเรื่องฉาวรายล่าสุดแล้ว หลังมีเซ็กซ์เทปของเขาหลุดออกมาโดยเทปดังกล่าวเป็นเทประหว่างเขากับอดีตภรรยาซึ่งถูกขโมยไปตั้งแต่ปี 2009

ซึ่งเทปลับดังกล่าวเขาได้ถ่ายไว้ระหว่างมีเพศสัมพันธ์กับ ทาเมกา ฟอสเตอร์ อดีตภรรยา โดยตามรายงานระบุว่าในเทปนั้นประกอบไปด้วยการร่วมรักกันหลากหลายลีลาเลยทีเดียวซึ่งในขณะนี้กำลังเป็นที่ถามหาและต้องการจากนักโหลดบิดเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ รายงานระบุอีกว่า เทปลับของอัชเชอร์และ ทาเมกาถูกขโมยไปจากในรถของนักร้องดังตั้งแต่เดือน ธ.ค. ปี 2009 ซึ่ง TMZ ได้ระบุว่าพวกเขาได้ดูวิดีโอเรทเอ็กซ์นี้เป็นที่เรียบร้อยและยืนยันได้ว่าบุคคลในเทปดังกล่าวเป็นอัชเชอร์และทาเมกาจริง

อย่างไรก็ตามตัวแทนของนักร้องชื่อดัง ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเรื่องนี้แต่อย่างใดและด้านอดีตภรรยานั้น ก็ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่าเธอไม่ได้อยากให้เทปดังกล่าวถูกเผยแพร่

“ฉันยอมให้มีเซ็กซ์เทปหลุดออกมาไหมเหรอ? ไม่อยากอย่างแน่นอน ฉันเป็นแม่และยังเป็นนักลงทุนด้วยซึ่งเซ็กซ์เทปหรือสื่อลามกอะไรพวกนั้น มันไม่ใช่วิถีทางของฉัน ฉันไม่ได้อยากให้คนเห็นฉันในแบบนั้นหรอกนะ”

"เคท วินสเล็ต"ไม่เหงาใจ ลือแอบคบ"จอห์น เมเยอร์"

ก็อย่างที่เรารู้กันว่า นางเอกสาวเจ้าของรางวัลออสการ์จากหนังเรื่อง ''The Reader'' ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เพราะต้องแยกทางกับ แซม เมนเดส อดีตสามีผู้กำกับฯ ชื่อดังขณะที่ความรักครั้งล่าสุดกับ หลุยส์ ดาวเลอร์ นายแบบหนุ่มชาวอังกฤษ ก็จบเห่ไปอย่างรวดเร็ว
    
แม้หลายๆ คนมองว่าความจริงแล้วหัวใจของ วินสเล็ต น่าจะโหยหา ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ พระเอกคู่ขวัญ เพราะตลอดระยะเวลาที่ครองความเป็นม่ายสาวพราวเสน่ห์เธอมักพร่ำเผลอถึงความดีของ ''หนุ่มลีโอ'' อยู่เป็นประจำแต่ขอบอกว่าตอนนี้มีข่าวลือว่าดาราสาววัย 35 ปี กำลังมีความรักใหม่แบบลับๆ กับ เมเยอร์ ซึ่งขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นนักล่าสวาทตัวยงและมักจะคบกับสาวที่เพิ่งจะผิดหวังเรื่องความรักเพราะเขามองว่าความรู้สึกที่อ่อนแอของสาวๆ ช่วยกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้เป็นอย่างดี
    
แหล่งข่าววงในอดรนทนไม่ไหวรีบแจ้นออกมาแฉเรื่องนี้อย่างเมามันว่า ''เมื่อช่วง 2-3 สัปดาห์ก่อน จอห์น อยู่ในงานปาร์ตี้ที่แมนฮัตตัน และก็วิ่งเข้าไปหา เคท เขาพาเธอไปโน่นไปนี่ และ เคท ก็ตอบสนองแบบไม่มีบ่นเธอรู้สึกสนุกซะไม่มี และเธอก็ขอให้เขาเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ''

แฉ "ปารีส" แรดแต่เด็ก ทำนมตั้งแต่อายุ14ปี โดนแม่ไล่ไปเอาออก

นีล สเตราส์ อดีตนักข่าวสายบันเทิงซึ่งตอนนี้เป็นนักเขียนขายดีจากการเขียนหนังสือแฉชีวิตคนดังให้สัมภาษณ์ว่า เขาเคยสัมภาษณ์ ปารีส ตอนเธออายุ 18 ปีและบอกกับเขาเองว่า ทำนมตอนอายุ 14 ปี ขัดแย้งกับคำพูดของ ปารีส เมื่อปี 2009 ที่เธอนั่งยันนอนยันว่า ไม่เคยไปผ่าตัดนม เพราะกลัวมีด กลัวเข็ม ซึ่งก็คงมีคนเชื่อไม่ยาก เพราะว่าหน้าอกหน้าใจของเธอไม่ได้บะละฮึ่มแต่อย่างใด ออกแนวแบนๆ ด้วยซ้ำ แต่เหตุผลเบื้องหลังที่มันแบน เพราะโดนแม่ไล่ไปเอาซิลิโคนออกต่างหาก !
    
สเตราส์ เอ่ยถึงตอนเจอ ปารีส สมัยยังไม่โด่งดังเท่านี้อ้างคำพูดของไฮโซสาวว่า ''ฉันเคยไปทำหน้าอกตอนอายุ 14 ปี แต่แม่บอกให้ไปเอาออกซะ ฉันคิดถึงเรื่องการไปถ่ายแบบให้กับเพลย์บอย เพราะพวกเขาชอบลูกคนดัง และเหตุผลเดียวที่ฉันไปทำหน้าอกก็เพราะพอพ่อของฉันรู้ว่าฉันไปทำอะไรมา เขาจะจ่ายเงินฉันแบบดับเบิ้ลสองเท่าเพื่อไม่ให้ไปทำอีก''

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2554

"แอปเปิ้ล" ไม่ได้ไปต่อเป็นคนที่ 2... The Star 7

เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการแข่งขัน "เดอะ สตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 7" หรือ The Star 7 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมาโดยผู้เข้าแข่งขันทั้ง 7 คนต้องโชว์ความสามารถในโจทย์ "เพลงดังย้อนยุค"ซึ่งแต่ละคนมีพัฒนาการทางด้านเสียงร้องและการโชว์บนเวทีมากขึ้นจนได้รับเสียงชมจากกรรมการทั้ง 3 ท่าน

เริ่มต้นโชว์ด้วยหมายเลข 3 "กวาง" กรวรรณ สุทธิวงษ์ที่มาพร้อมกับเพลงแดนซ์อย่าง "พลิกล็อค" ของคริสติน่า อากิล่า ซึ่งเธอทั้งร้องทั้งเต้นได้ดีมาก ๆ ก่อนที่ผู้ชมจะได้ไปซึ้งกันกับเพลง "ไม่มีใคร"จากหมายเลข 4 "ซิลวี่" ภาวิดา มอริจจิ ที่โชว์พลังเสียงได้ประทับใจไร้ที่ติเช่นเคย ตามติดมาด้วยเพลง "ลืมไปไม่รักกัน"ถ่ายทอดโดยหมายเลข 5 "แอมป์" สิริพงศ์ ชูศักดิ์สกุลวิบูลและหมายเลข 6 "นท" นท พนายางกูร ที่ออกมากล่อมทุกคนให้เคลิบเคลิ้มด้วยเพลง "วิมานดิน"

จากนั้นหมายเลข 7 "แอปเปิ้ล" อิษฏ์อาณิก อินทรสูต ก็ออกมากับเพลงช้าสะกดใจผู้ชมในเพลง "แพ้ใจ" ก่อนที่หมายเลข 8 "เนส" ยุทธนา กานิลตาม" จะออกมากับจังหวะกวน ๆ กับเพลง "อย่าคิดมาก" และปิดท้ายด้วยเพลง "แผลในใจ" หมายเลข 1 "ตูมตาม" ยุทธนา เปื้องกลาง

เมื่อการแสดงจบลงผลคะแนนของผู้ชม 100 เสียงในห้องส่งปรากฏว่า กวาง คว้าไปถึง 28 คะแนน ตามมาด้วย ซิลวี่ 19 คะแนน, แอมป์ 16 คะแนน , นท 14 คะแนน, ตูมตาม 11 คะแนน , เนส 8 คะแนน ส่วนอันดับสุดท้ายยังคงเป็น แอปเปิ้ล กับ 4 คะแนน

อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ที่ 20 มี.ค.จะผู้ที่มีคะแนนโหวตน้อยที่สุดจะไม่ได้ไปต่อซึ่งผลปรากฎว่า หมายเลข 7 "แอปเปิ้ล" อิษฏ์อาณิก อินทรสูต คะแนนโหวตน้อยสุดต้องหยุดฝัน the star 7 ของเธอไว้เพียงเท่านี้

นุ่น" ลั่น "ต๊อด" เข้าใจ ยังไม่พร้อมปั๊มลูก

ยังคงลุ้นและให้กำลังใจกันอยู่ กับเรื่องการมีทายาทของนางเอกช่อง 7 สี ''นุ่น'' วรนุช ภิรมย์ภักดี ที่กำลังมีผลงานละคร ''ค่าของคน'' กับสามีหนุ่มไฮโซ ''ต๊อด-ปิติ'' ทายาทเบียร์สิงห์ว่าเมื่อไหร่จะได้เห็นข่าวดีกันสักที โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทั้งคู่ทะเลาะกันเพราะฝ่ายชายอยากมีลูก แต่นางเอกสาวยังไม่ยอมเปิดอู่สักทีซึ่งตัวนางเอกสาวก็ออกมาโต้ไปแล้วว่าไม่เป็นความจริงตนและสามีไม่ได้ทะเลาะกันเรื่องมีลูกแต่อย่างใด
    
เมื่อผู้สื่อข่าวมีโอกาสได้เจอนุ่นที่เดินทางมาร่วมงานเปิดตัว ธนาคารเอชเอสบีซี สาขาทองหล่อวันก่อนจึงได้อัพเดตเรื่องมีทายาทอีกครั้ง ซึ่งนางเอกสาวบอกว่า ตอนนี้ยังไม่ปั๊มลูกเพราะกำลังจะมีละครเรื่องใหม่เดือนพฤษภาคมนี้ แต่ว่าได้คุยกับหนุ่มต๊อดแล้วว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายก่อนจะเบรกไปทำครอบครัวให้สมบูรณ์สักที
    
''เรื่องทายาทก็ยังค่ะ เตรียมเปิดกล้องละครเรื่องใหม่อยู่ก็คุยกันกับต๊อดแล้วค่ะว่ายังเล่นละครอยู่ แต่ว่าอาจจะเรื่องสุดท้ายถามว่าเขายังไม่หายงอนเหรอคือจะบอกว่าเขาไม่ได้งอน นุ่นว่าเรื่องครอบครัวเป็นเรื่องของคนสองคนที่ต้องคุยกันไม่ใช่จะคนใดคนหนึ่งแต่เราก็ยังแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้ตัวเขาเองก็ยังแฮปปี้กับชีวิตแบบนี้ก็โอเค''
    
ต่อข้อถามว่าหลังจากเปิดกล้องละครเรื่องใหม่เดือนพฤษภาคมแล้ววางแพลนไว้ไหมว่าจะมีทายาทในช่วงเดือนไหนดี เรื่องนี้นางเอกสาวบอกว่า ''กะไม่ได้เหมือนกันค่ะ แล้วแต่บุญเราแล้วกัน''
    
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ถามถึงกระแสละครเรื่อง ''ค่าของคน'' ที่แสดงร่วมกับ ''ป้อง'' ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ ว่าเป็นอย่างไรบ้างเพราะเรื่องนี้เลิฟซีนและฉากอารมณ์ค่อนข้างเยอะทีเดียนางเอกสาวเผยว่า ผลตอบรับจากแฟนๆ ดีมากทีเดียว
    
''กระแสละครค่าของคนดีมาก ต้องขอบคุณแฟนๆ นะคะเพราะว่าจริงๆ นุ่นเองก็หายจากหน้าจอไป 7-8 เดือนเหมือนกันหายไปนานก็จะมีพี่ๆ ที่เอ็กแซ็กท์เอากระทู้มาให้ดูไม่ว่าในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เว็บต่างๆ พันทิป ก็ขอบคุณนะคะที่คอยติดตามมันก็มีบ้างทั้งติและชมเป็นเรื่องปกติ ต้องบอกว่าทีมงานพวกเราทุกคนก็รับฟังแล้วเวลามาพูดถึงเรื่องนี้ก็ชื่นใจ''

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวถามว่าเห็นมีคนเม้าท์มาว่าต๊อดถึงกับบ่นว่า ป้องทำภรรยาเขียวช้ำทั้งตัว เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน นุ่นบอกว่าจริง
    
''(หัวเราะ) ก็จริงน่ะ พี่ป้องเขาแบบว่า...'' ผู้สื่อข่าวถามว่ารุนแรงเหรอ?  นางเอกสาวตอบว่า ''เอ่อ ไม่อยากใช้คำนั้น มันเป็นฉากอารมณ์เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะว่านุ่นเองก็ตบเขาจริงหลายรอบมาก เป็นปกติที่เขาจะเอาคืน เลิฟซีนมันก็เป็นเลิฟซีนทั่วๆ ไป ไม่ได้มีการจูบจริง แต่หอมแก้มมันก็คงต้องมีบ้าง มันเป็นเรื่องของงานน่ะค่ะ'' นางเอกสาวกล่าว

มีโครงการวิวาห์ "อั้ม-นัท"ขออุบไต๋

คบหาดูใจกันมาได้ระยะหนึ่ง และควงคู่อวดความหวานไปงานบ้างพอสมควรล่าสุด ''อั้ม'' อธิชาติ ชุมนานนท์ พระเอกช่อง 3 และ ''นัท มีเรีย'' นักร้องดาราสาวเกี่ยวก้อยออกงาน ''โฮมโปร เอกซโป'' ครั้งที่ 13 อวดความหวานออกงานกันอีกยกท่ามกลางความสนใจจากสื่อมวลชนรุมสัมภาษณ์จำนวนมากเพื่อขออัพเดตความเคลื่อนไหวต่างๆ ของทั้งคู่โดยเฉพาะโครงการวิวาห์ที่หลายคนแอบลุ้นแอบส่งใจเชียร์ให้ได้ลงเอยกันซะที
    
เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้ง ''อั้ม'' และ ''นัท'' เปิดใจว่าเวลานี้ตนทั้งคู่มีคำตอบเรื่องวิวาห์อยู่ในใจแล้วว่า จะเอาอย่างไรเพียงแต่ขอให้รอโอกาสให้เหมาะกว่านี้ก่อนรับรองว่าตนทั้งคู่พร้อมเปิดเผยให้ได้รับรู้กันแน่นอนโดยอั้มรับหน้าเสื่อตอบว่า
    
''ตอนนี้มีคำตอบในใจอยู่แล้วครับ แต่ยังบอกไม่ได้หรอกครับเอาไว้รอโอกาสให้พร้อมกว่านี้ก่อน ผู้ใหญ่ของเราทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้เร่งรัดอะไรนัทเองเขาก็สนิทกับครอบครัวของผมเขาชอบเด็ก ก็เลยชอบมาเลี้ยงหลานที่บ้านผมบ่อยๆ เอาไว้พร้อมมากกว่านี้ เดี๋ยวบอกแน่นอนครับ''
    
ส่วนกรณีที่มีข่าวแพร่สะพัดว่า คบหากันเพื่ออัพค่าตัวเลือกออกงานคู่นั้น อั้มและนัทยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่เป็นความจริงแน่นอน แต่การจะออกงานคู่กันนั้น ตนทั้งคู่ดูที่ความเหมาะสมของงานที่ติดต่อมามากกว่า

ส่วนแพลนควงคู่ไปเที่ยวไหนด้วยกันเพื่อเป็นการพักผ่อน จากการทำงานหนักทั้ง อั้มและนัทยืนยันว่า ยังไม่มีแพลนไปไหน เพราะต่างคนต่างต้องให้เวลากับการทำงาน แม้จะรู้สึกว่าเหนื่อยบ้างบางเวลา แต่ตนทั้งคู่ก็คอยเป็นกำลังใจให้กัน ทำให้ช่วยบรรเทาความเหนื่อย และความอ่อนล้าจากการทำงานได้เป็นอย่างดี

"ติ๊ก-พลอย" เฮ ซิวดารานำโทรทัศน์ทองคำ "วนิดา"ละครดีเด่น

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 54 เวลา 19.00 น. ที่หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ชมรมส่งเสริมโทรทัศน์ มูลนิธิจำนงรังสิกุลและสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีพล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานจัดงานประกาศผลรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ครั้งที่ 25 ประจำปี 2553 บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีคนในวงการโทรทัศน์ และดารานักร้องมาร่วมงานคับคั่ง อาทิ ''หน่อง'' อรุโณชา ภาณุพันธุ์ บอสใหญ่ บรอดคาซท์, ''พ่ออี๊ด'' สุประวัติ ปัทมสูตร ศิลปินแห่งชาติ, ดวงดาว จารุจินดา, ''อ้อม'' พิยดา จุฑารัตน์, ''กัปตัน'' ภูธเนศ หงษ์มานพ, วิว วรรณรท, แอริณ ยุกตะทัต, ''แตงโม'' พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน, ''อ๋อม'' อรรคพันธ์ นะมาตร์ ฯลฯ
     
ผลรางวัลที่สำคัญ ๆ ดังนี้


รางวัลสถานีด้านข่าวดีเด่น ได้แก่ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี
รางวัลรายการข่าวและสถานการณ์ปัจจุบันดีเด่น ได้แก่ รายการข่าวภาคค่ำ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี
รางวัลผู้สื่อข่าวภาคสนามดีเด่น ได้แก่ ฐาปนีย์  เอียดศรีไชย สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลรายการเกมโชว์ดีเด่น ได้แก่ รายการยกสยาม ผลิตโดย บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี
รางวัลรายการสตรีดีเด่น ได้แก่ รายการกิน อยู่ คือ  ผลิตโดย สถานีโทรทัศน์ Thai PBS
รางวัลรายการครอบครัวดีเด่น ได้แก่ รายการครอบครัวเดียวกัน ผลิตโดย สถานีโทรทัศน์ Thai PBS
รางวัลพิธีกร ประเภททีมดีเด่น ได้แก่ สุจิรา อรุณพิพัฒน์ และดวงพร ทรงวิศวะ รายการ กิน อยู่ คือ ผลิตโดย สถานีโทรทัศน์ Thai PBS
รางวัลพิธีกรเดี่ยวดีเด่น ได้แก่ ณวัฒน์ อิสรไกรศีล รายการอะเมซิ่งเมืองไทย ผลิตโดย บริษัท ฮอลิเดย์ เทเลวิชั่น สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลมิวสิกวิดีโอ เพลงไทยสากลดีเด่นได้แก่ เพลงน้ำตาคั่งในสมอง ศิลปิน : แดน วรเวช Feat. เวย์ ไทเทเนียม  ผู้กำกับฯ : แดน วรเวช จาก Sony music
รางวัลมิวสิกวิดีโอ เพลงไทยลูกทุ่งดีเด่น ได้แก่ เพลงมื้อใด๋สิคิดฮอด ศิลปิน : ต่าย อรทัย  อัลบั้ม : ฝันยังไกลใจยังหนาว ผู้กำกับฯ : ตั้งจิตร บุญพาณิชย์แสงดี จากแกรมมี่ โกลด์


รางวัลเพลงนำละครดีเด่น ได้แก่ เพลงให้รักเดินทางมาเจอกัน ละครเรื่อง 4 หัวใจแห่งขุนเขา จาก : โนพรอบเล็ม ศิลปิน : ดา เอ็นโดรฟิน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลบทละครโทรทัศน์ดีเด่น ได้แก่ ละครเรื่องไฟอมตะ โดยศัลยา จาก เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ทีวี
รางวัลผู้กำกับละครดีเด่น ได้แก่ ละครเรื่องมาลัยสามชาย โดย ผอูน จันทศิริ จาก เอ็กแซ็กท์ แอนด์ เซเนริโอ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5
รางวัลดาราสนับสนุนชายดีเด่น ได้แก่ อรรคพันธ์ นะมาตร์ ละครเรื่องพระจันทร์ลายพยัคฆ์ จากโพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7
รางวัลดาราสนับสนุนหญิงดีเด่น ได้แก่ รินลณี ศรีเพ็ญ ละครเรื่องวนิดา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลดารานำชายดีเด่น ได้แก่ เจษฎาภรณ์ ผลดี ละครเรื่องวนิดา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลดารานำหญิงดีเด่น ได้แก่ เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ละครเรื่องระบำดวงดาว จาก โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์  สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
รางวัลละครดีเด่น ได้แก่ ละครเรื่องวนิดา จากละครไท สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3

รางวัลเกียรติยศคนทีวี ประจำปี 2553 ได้แก่
ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์
คุณพิสมัย วิไลศักดิ์
พ.อ.นเรศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
คุณดวงดาว จารุจินดา
คุณรอง เค้ามูลคดี

"ดิว เดอะสตาร์5" บวชรับวัยเบญจเพสฉายา"ธัมมะ วังโส

เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เพื่อเรียนรู้ศึกษาธรรมะอีกคน สำหรับ ''ดิว'' พงศธร สุภิญโญ หรือ ''ดิว เดอะสตาร์ 5'' นักร้องหนุ่มมาดเซอร์ซึ่งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ได้ฤกษ์งามยามดีเข้าพิธีอุปสมบท ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ท่ามกลางความปลื้มปีติของครอบครัวและเหล่าญาติมิตร รวมทั้งเพื่อนๆ ในวงการบันเทิงที่พากันไปร่วมอนุโมทนาในงานบวชครั้งนี้ อาทิ ''บอย'' ถกลเกียรติ วีรวรรณ, ''กัปตัน'' ภูธเนศ หงส์มานพ, รุจน์ เดอะสตาร์, โตโน่ เดอะสตาร์, เกรซ เดอะสตาร์, สิงโต เดอะสตาร์ ฯลฯ ซึ่งพระดิวได้รับฉายาทางธรรมว่า ''ธัมมะ วังโส'' แปลว่า ''ตระกูลของผู้มีธรรม'' โดยการบวชครั้งนี้พระดิวเตรียมบวชอย่างน้อยเป็นเวลา 15 วัน และหลังจากนั้นอาจจะออกธุดงค์ที่ต่างจังหวัดเพื่อแสวงหาความสงบต่อไป

''เหตุผลของการตัดสินใจบวชในครั้งนี้เป็นเพราะความเหมาะสมอะไร หลายๆ อย่าง และอายุผมก็ครบ 24 ย่างเข้า 25 พอดี ก็ถือว่าเป็นช่วงเบญจเพสด้วย ซึ่งเป็นการบวชที่ใกล้กับวันเกิดของตัวเองวันที่ 21 มีนาคมนี้ จึงอยากให้เกิดสิ่งดีๆ ในชีวิต คุณแม่ท่านก็ดีใจมากครับ เมื่อเช้าผมได้ขอขมาคุณแม่จนท่านน้ำตาไหล บอกให้เรารักษาศีลศึกษาพระธรรมให้เต็มที่ ผมว่าคนเราถ้ามีความตั้งใจแล้วจะสามารถทำได้ทุกอย่าง ซึ่งก็จะทำให้เต็มที่ หลังจากการบวชครั้งนี้ก็อยากจะนำแก่นพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนามาปรับ ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งท่านได้สอนอะไรเราไว้มากมาย ผมเชื่อว่าถ้าเราหลายคนสามารถดำรงชีวิตโดยมีพระธรรมเหล่านี้จะช่วยทำให้จิต ใจสงบ สำหรับระยะเวลาในการบวชคาดว่าอย่างน้อยคงสัก 15 วันครับ หลังจากศึกษาพระธรรมที่นี่สัก 2 อาทิตย์แล้วก็อาจจะออกธุดงค์ที่ต่างจังหวัด เพราะอยากแสวงหาความสงบการใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ซึ่งการที่ไม่มีความสะดวกสบายในตรงนั้นคงจะทำให้เราได้ฝึกตัวเองได้มากกว่า ครับ'' พระดิวกล่าว

“กิ๊ฟซี่” ยันไม่ได้หลบหลู่ แค่ใส่ชุดตำรวจไปจับผู้ชายเท่านั้นเอง

หลังสร้างความฮือฮา นำชุด ตำรวจและพยาบาลมาดัดแปลงให้เซ็กซี่แล้วก็ใส่ถ่ายมิวสิควีดีโอ “I LIKE THAT BOY” นักร้องคนดัง “กิ๊บซี่ วนิดา เติมธนาภรณ์” กับ “กิ๊บซ่า ปิยา พงศ์กุลภา” ก็โดนวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่ว สุดท้ายก็ถูกกบว.แบน ไม่ให้ออกอากาศทันที ล่าสุดได้เจอสาวกิ๊บซี่ ในงาน “Supersports Freestyerunway Summer Fashion Show 2011” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ด นักร้องสาวก็ได้เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวต่อสื่อมวลชนว่า
      
 “สำหรับเอ็มวีที่เพิ่งโดนแบนไป กิ๊บก็รู้สึกนะว่าโดนแบนอีก แล้วเหรอ แต่ก็อยากจะชี้แจงว่าเราไม่ได้มีความตั้งใจหรือเจตนาที่จะเอาใครมาลบหลู่ มันไม่เกี่ยวการที่เราเอาเครื่องแบบมาเป็นสัญลักษณ์มันไม่ใช่เลย เช่นในเอ็มวีเนื้อเรื่องมันเป็นแบบว่าเราใส่ชุดตำรวจสาวไปจับผู้ชายแค่นั้น เอง”
      
 “กิ๊บเชื่อว่าในวงการบันเทิงในการแสดงในหลายๆ ด้าน อย่างเล่นละครเล่นหนังเล่นตลก ทำเอ็มวีมีการอ้างอิงถึงอาชีพต่างๆ อยู่แล้วแต่เอ็มวีเราเอามาแค่เป็นสัญลักษณ์ เฉยๆ แล้วเราก็เอาไปดัดแปลงไม่ใช่ว่าเป็นชุดของใครเป๊ะๆ กับการที่โดนสังคมจับตามองตลอดตัวกิ๊บเองก็รู้สึกชินแล้วนะ คือเราตั้งใจทำงานให้เต็มที่อยากให้มีอะไรแปลกใหม่ออกไป ประเด็นสำคัญมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น”
      
ไม่สนโกอินเตอร์หลัง “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” บอส อาร์เอส เตรียมดันเด็ก “กามิกาเซ่”โกอินเตอร์ บอกแค่งานในเมืองไทยของตัวเองก็เยอะแล้ว และรู้สึกแฮปปี้กับการทำงานดีอยู่แล้ว แย้มสงกรานต์ปีนี้อาจมีบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศอังกฤษ
      
 “เรื่องโกอินเตอร์เอาเป็นว่าตอนนี้ (หัวเราะ) กิ๊บไม่มีเวลาทำอะไรแล้ว เราไมได้สนใจเรื่องโกอินเตอร์ อยู่แค่นี้ก็พอใจแล้ว กิ๊บก็โกอินเตอร์แล้ว พรุ่งนี้ก็ไปภูเก็ต (หัวเราะ) ทุกวันนี้ก็มีงานโชว์ตัว มีงานออกต่างจังหวัดเกือบทุกวันอาทิตย์หนึ่งก็หลายครั้ง แค่นี้ก็แฮปปี้ดีคงไม่มีเวลาไปคิดถึงว่าเราจะไปโกอินเตอร์ แต่ถ้ามีจังหวะมีโอกาสก็ดี แต่มันเป็นเรื่องที่ไกล ไม่อยากไปคิดอะไร จุดนี้มันดีมากอยู่แล้ว ไม่รู้จะอะไรอีก”
      
 “สงกรานต์ปีนี้ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดน่าจะได้ไปต่างประเทศ ก็คือจะไปประเทศอังกฤษตอนนี้ก็กำลังคุยๆ งาน คิดว่าอาจจะมีบินไปเล่นคอนเสิร์ตที่อังกฤษ อย่าเพิ่งเรียกว่าโกอินเตอร์เลย ยังก่อนดีกว่าตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการ ตอนนี้ดูคิวอยู่ในการตกลงถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็คงได้ไป 50-50 ตอนนี้ก็รอเรื่องวีซ่าเรื่องของการดำเนินการข้อตกลงของลูกค้า มันอยู่ในกระบวนการและก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญา คือเขาติดต่อมาทางกิ๊บไม่ได้ติดต่อมาทางบริษัท เป็นคลับไทยที่โน่น”
      
ปัดมีหนุ่มขับเฟอร์รารี่คันสีเหลือง ดอดตามรับตามส่งเกือบทุกงาน ยันไม่มีหนุ่มขับรถหรูและไม่ได้ชอบหนุ่มนักซิ่ง ยันตอนนี้โสดสนิท
      
 “กิ๊บไม่เคยคบใครที่มีรถอย่างนั้นเลย กิ๊บไม่สนใจเรื่องนี้เลย ไม่ได้มองที่ตรงนี้ในชีวิตนี้ยังไม่เคยมีใครขับรถแบบสปอร์ตมาจีบ แล้วเราก็ไม่ชอบผู้ชายซิ่งรถด้วย ส่วนตัวก็ไม่มีใครมาจีบหรืออะไรจะทำงานตลอด ถ้ามีแฟนก็แปลกแล้ว เพื่อนในวงบางคนเขาก็ชัดเจน ตอนนี้เรื่องงานของกิ๊บกำลังดี รู้สึกว่าอยากให้ไปโฟกัสตรงนั้น ตอนนี้ก็ไม่มีใครเป็นพิเศษจริงๆ แล้วเรายังไม่เจอมากกว่าแต่ถ้าถึงจุดหนึ่งกิ๊บมีแฟนก็คงไม่ปิดบังหรอก แล้วของแบบนี้ไม่ต้องหาหรอกเดี๋ยวก็คงเจอเอง”

"เรเน่ เซลเวเกอร์" แยกทาง "แบรดลีย์ คูเปอร์" แล้ว

สองนักแสดงชื่อดังแห่งฮอลลีวูด "แบรดลีย์ คูเปอร์" และ "เรเน่ เซลเวเกอร์" กลายเป็นคูรักคนดังอีกคู่ที่ทำท่าว่าความหวานชักจะเริ่มจืดจางลงเสียแล้วโดยนิตยสาร People ได้รายงานว่าทั้งสองได้ยุติความสัมพันธ์ลงแล้วหลังจากคบหากันมาประมาณ 2 ปี และเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปี 2010
     
ข่าวการเลิกราของ แบรดลีย์ คูเปอร์ และ เรเน่ เซลเวเกอร์ เกิดขึ้นเพียง 4 วันหลังจากฝ่ายชายเพิ่งแสดงความไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ครั้งนี้ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ ฮาเวิร์ด สเติร์น ใน รายการวิทยุแห่งหนึ่งโดยนักแสดงหนุ่มวัย 36 ปี กล่าวว่าตลอดการคบหากัน 2 ปี เขาไม่เคยเอ่ยปากขอแฟนสาวรุ่นพี่วัย 41 ปีแต่งงานแต่อย่างใด
       

คูเปอร์ พบกับ เซลเวเกอร์ ครั้งแรกระหว่างถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Case 39 เมื่อ 5 ปีก่อนแต่ความรักของทั้งคู่เริ่มต้นขึ้นในปี 2009 โดยในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาเซลเวเกอร์ ถึงกับตัดสินใจยกเลิกการมาร่วมงานลูกโลกทองคำก็เพื่อต้องการใช้เวลากับแฟนหนุ่มหลังจากพ่อของเขาถึงแก่กรรม อย่างไรก็ตามข่าวลือเรื่องการยุติความสัมพันธ์ก็เริ่มดังขึ้นมาเมื่อทั้งสองมาร่วมงานเลี้ยงก่อนงานออสการ์ด้วยกันทั้งคู่แต่เป็นการมาแบบตัวใครตัวมันไม่ได้มางานดังกล่าวด้วยกัน
     
โดยขณะนี้ตัวแทนของ คูเปอร์ และ เซลเวเกอร์ ยังไม่ได้ตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าวในเรื่องนี้แต่อย่างใด
     
นักแสดงชื่อดังทั้งสองเคยผ่านชีวิตแต่งงานระยะสั้น ๆ มาแล้วด้วยกันคู่ โดย แบรดลีย์ คูเปอร์ เคยแต่งงานกับนักแสดงสาว เจนนิเฟอร์ เอสโบซิโต้ เมื่อปี 2006 ก่อนจะแยกทางกันไปหลังจากใช้ชีวิตสามีภรรยาแค่ 4 เดือน เช่นเดียวกับ เรเน่ เซลเวเกอร์ ที่เคยแต่งงานและใช้ชีวิตคู่กับ เคนนี่ เชสนีย์ เมื่อปี 2005 ในช่วงสั้น ๆ เพียง 4 เดือนเท่านั้น

ภาพแรก "วันเดอร์ วูแมน" คนใหม่

หลังจากมีการเปิดเผยถึงโครงการสร้างและรายชื่อนักแสดงนำในซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่สุดดังเรื่อง "วันเดอร์ วูแมน" ฉบับใหม่ ล่าสุดทางสถานีโทรทัศน์ NBC ได้เผยโฉมภาพของ "เอเดรียน พาลิกกี้" นักแสดงสาวผู้รับบทนำในเรื่อง กับชุดเครื่องแบบสไตล์ใหม่ของ "วันเดอร์ วูแมน" ฉบับปี 2011 ให้ได้ชมกันเป็นครั้งแรกแล้ว
      
ผู้สร้างซีรีส์เรื่อง วันเดอร์ วูแมน ของ NBC ได้เผยภาพแรกของสาว เอเดรียน พาลิกกี้ ในชุดซุปเปอร์ฮีโร่สาวสุดดังแห่ง ดีซี คอมมิคส์ ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่กางเกงขายาวฟิตเปรี๊ยะและรองเท้าบู๊ตสีน้ำเงินแทนที่จะเป็นกางเกงขาสั้น และรองเท้าสีแดงแบบที่แฟน ๆ ของหนังสือการ์ตูนชุดนี้คุ้นเคยกันมานานนอกจากนั้นลวดลายต่าง ๆ ของชุดยังเปลี่ยนไปเพื่อลดสไตล์ชาตินิยมเชิดชูความเป็นอเมริกันลงไปบ้างและเสริมความเป็นเทพปกรณัมกรีกแบบที่มาที่แท้จริงของตัวละครตัวนี้ลงไป
      
ซึ่งดูจะเป็นรูปแบบใหม่ของชุดที่ใกล้เคียงกับ วันเดอร์ วูแมน โฉมใหม่ของฉบับการ์ตูนที่ทางดีซีเปิดตัวกันไปเมื่อปีก่อนอยู่ไม่น้อย
      
โดย EW.com อ้างคำยืนยันจาก NBC ว่า วันเดอร์ วูแมน ฉบับซีรีส์ปี 2011 จะมีความร่วมสมัยและไม่ได้เดินตามรอยทางของ วันเดอร์ วูแมน แห่งยุค 70s ที่ ลินดา คาร์เตอร์ เคยแสดงเอาไว้จนโด่งดังอย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากนักแสดงสาว เอเดรียน พาลิกกี้ แล้ว ซีรีส์ซุปเปอร์ฮีโร่เรื่องนี้ยังจะมี อลิซาเบ็ธ เฮอร์ลีย์ และ แครี เอลเวส์ ร่วมรับบทเด่นในเรื่องด้วย
      
สำหรับ วันเดอร์ วูแมน คนล่าสุดอย่างสาว เอเดรียน พาลิคกี้ ถือว่าไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการบันเทิงสหรัฐฯ โดยเฉพาะแวดวงโทรทัศน์ เธอเคยรับบทเด่นในซีรีส์เรื่อง Friday Night Lights ที่เพิ่งจะจบลงไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ นอกจากนั้นยังเคยร่วมแสดงในซีรีส์ Lone Star, Aquaman รวมถึงเป็นแขกรับเชิญของ Supernatural, Criminal Minds, Robot Chicken และยังมีงานแสดงในหนังใหญ่อย่าง Legion เมื่อปี 2010 และ Red Dawn ที่มีคิวเข้าฉายในปีนี้ด้วย

ภาพหลุด "วาเนสซ่า ฮัดเจนส์" ที่แท้เพื่อนสนิม ขี้อิจฉาเป็นคนปล่อย

จากที่ข่าวก่อนหน้านี้ที่นำเสนอทั้งภาพ และข่าวแล้วว่ามีภาพนู้ดหลุดลอตใหม่ของ ฮัดเจนส์ ออกมาอีกแล้ว ก่อนหน้าเธอจะมีหนัง ''Sucker Punch'' เข้าฉายปลายเดือนมีนาคมนี้ส่งผลให้เธอสั่งทนายควานหาตัวคนทำผิดมาเล่นงาน และพุ่งเป้าไปที่แฟนเก่าเป็นสำคัญแต่ล่าสุดมี ''บุคคลนิรนาม'' ร่อนอีเมลแฉว่านี่เป็นฝีมือของเพื่อนเก่าของเธอ 2 คน หนึ่งในนั้นคือ อเลซ่า นิโคลัส วัย 18 ปีที่มีภาพอยู่ด้วย ส่วนอีกคนชื่อ เคย์สลี่ คอลลินส์ อายุ 19 ปี
     
บุคคลนิรนาม อ้างว่า สาวน้อย 2 คนสร้างชื่อใช้งานเว็บไซต์อัพโหลดภาพโดยใช้ชื่อว่า ''Sweet Melodies'' ซึ่งปัจจุบันลบจากชื่อผู้ใช้ไปแล้วโดยบางข้อความในอีเมลระบุว่า ''เคย์สลี่ และ อเลซ่า คือคนเผยแพร่ภาพของวาเนสซ่า ย้อนไปตั้งแต่เดือนกันยายน 2007 เคย์สลี่กับ อเลซ่า เป็นเพื่อนสนิทกับวาเนสซ่า ตั้งแต่ปี 2006 แต่พวกเธอห่างกันในเวลาต่อมาเพราะ วาเนสซ่า ต้องทำงานวาเนสซ่า ผูกพันกับ อเลซ่า ถึงขนาดเชิญเธอมาแสดงในเอ็มวีเพลงแรกของเธอ เพื่อชดเชยการที่พวกเธอไม่ได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน''
     
 ''ปลายปีนั้น อเลซ่า บอก วาเนสซ่า ว่าน่าจะถ่ายภาพวาบหวิวเพื่อเรียกร้องความสนใจจากแฟนของเธอ วาเนสซ่า เห็นด้วยและตกลงถ่ายภาพนู้ดแบบลับเฉพาะกันจากนั้น เคย์สลี่ ก็ถ่ายภาพ วาเนสซ่าจูบกับ อเลซ่า แต่ อเลซ่า กับ เคย์สลี่ ไม่ได้ถ่ายภาพนู้ดของตัวเอง วาเนสซ่า ถ่ายภาพเพิ่มอีกในปีนั้น และปีถัดมาแต่เธอระวังอย่างดีและลบภาพออกจากมือถือ วาเนสซ่า อัพโหลดภาพลงอีเมแล้วส่งไปให้แฟนตามที่ อเลซ่า แนะนำ''
     
''หนึ่งในการกระทำเหล่านี้เธอทำตอนอยู่บ้านของ อเลซ่า และ อเลซ่า โหลดภาพลงคอมพิวเตอร์ของเธอหลังจาก วาเนสซ่า เผลอล็อกอินเข้าอีเมลของตัวเองเอาไว้และตั้งแต่เดือนกันยายน 2007 ทั้ง อเลซ่า กับเพื่อนของเธอ เคย์สลี่ จะทยอยปล่อยภาพของ วาเนสซ่า ออกมาทุกครั้งที่เธอจะมีผลงานภาพยนตร์เข้าฉายฉันเชื่อว่าสาเหตุทั้งหลายทั้งปวงของเรื่องนี้เป็นเพราะว่าพวกเธออิจฉาที่เพื่อนประสบความสำเร็จ''

Before and After: “ลีแอน ไรมส์” น้ำหนักตัวลดวูบก่อนแต่งงาน

ภาพถ่ายเปรียบเทียบรูปร่างของนักร้องสาวคันทรีย์ “ลีแอน ไรมส์” สร้างความตกใจให้กับแฟน ๆ ของเธอเป็นอย่างยิ่งเมื่อมันแสดงให้เห็นว่านักร้องสาววัย 28 ปี ผอมลงจากเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างมากซึ่งล่าสุด “ไรมส์” ได้ทวีตข้อความถึงเรื่องนี้ยืนยันว่าตนเองปกติดี ไม่มีอะไรให้เป็นห่วงอย่างแน่นอน
      
 “ฉันไม่สนใจบทความโง่ ๆ พวกนั้นหรอกค่ะเพราะรู้ถึงสุขภาพของตัวเองดี บางทีคนพวกนั้นควรจะต้องคิดถึงการดูแลตัวเองบ้างทั้งด้านภายนอกและภายในจิตใจด้วย” ลีแอน ไรมส์ ทวีตข้อความหลังเรื่องน้ำหนักตัวของเธอกลายเป็นประเด็นข่าวขึ้นมา
       

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าแฟนคลับบางส่วน ยังอดเป็นห่วงในตัวของนักร้องสาวคนดังไม่ได้ แฟนเพลงคนหนึ่งของเธอกล่าวว่าในภาพดังกล่าว ไรมส์ ก็ดูแตกต่างจากที่เคยเป็นมาจริง ๆ ซึ่งนักร้องสาววัย 28 ปีกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “นั่นมันรูป ลองมาดูตัวจริงของฉันซิคะ”
      
RadarOnline.com เป็นผู้ออกมาเปิดประเด็นเรื่องน้ำหนักตัวของ ไรมส์ เป็นเจ้าแรก ซึ่งสำนักข่าวจอมแฉยังได้ติดต่อขอความเห็นจากนักโภชนาการที่ระบุหลังจากเห็นภาพถ่ายว่า ไรมส์ อาจจะเผชิญกับภาวะเครียดก่อนแต่งงาน และปัญหาอีกหลาย ๆ อย่าง

 “คนจำนวนมากมีแนวโน้นที่สามารถเพิ่มน้ำหนักตัวได้อย่างรวดเร็ว แต่ในทางตรงข้ามบางคนก็มีความสามารถในการลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียว กัน” ดร. ฟาริด ซาริฟ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกล่าว “รูปร่างของเธอเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งอาจจะเป็นผลจากความเครียด เมื่อวันแต่งงานกำลังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ”
      
 “ผู้หญิงจำนวนมากลดน้ำหนัก เพื่อตัวเองจะได้ดูดีในชุดเจ้าสาว และสำหรับคนอย่าง ลีแอน ไรมส์ ความกดดันที่ต้องดูดีต่อหน้าแฟน ๆ เพลง ก็มีผลด้วย นอกจากนั้นเธอยังอาจจะมีความเครียดมากไปกว่าคนอย่างพวกเรา เพราะต้องถูกตามถ่ายรูปจากบรรดาช่างภาพอิสระ และมีรูปของตัวเองตีพิมพ์ตามสื่อต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา”
      
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพท่านนี้ยังย้ำว่า การที่น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็วอาจจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสมอไปก็ได้ “เธออาจจะรู้สึกดีกับตัวเองในตอนนี้ รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวามากกว่ากับรูปร่างใหม่ ณ จุดนี้ผมจึงจะไม่ชี้ว่า การลดน้ำหนักตัวลงอย่างรวดเร็วแบบนี้คือสัญญาณอันตราย”
      
โดยในเดือน ต.ค. 2010 ลีแอน ไรมส์ บอกกับนิตยสาร Shape ว่าเธอควบคุมน้ำหนักด้วยการซ้อมมวย และออกกำลังกายแบบ circuit training
      
ไรมส์ เพิ่งหมั้นหมายกับ เอ็ดดี้ ซีเบรียน นักแสดงหนุ่มจากซีรีส์ CSI: Miami เมื่อ เดือน ธ.ค. ที่ผ่านมาซึ่งแม้จะยังไม่มีกำหนดลั่นระฆังวิวาห์ที่แน่นอน แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าเธอกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมการสำหรับงานแต่งงาน

"รีฮันนา" เปิดใจรู้สึกรับไม่ได้โดนพ่อหักหลังประกาศตัดขาดไม่ขอยุ่งเกี่ยวอีกต่อไป

รีฮันนา นักร้องสาวชื่อดังได้ให้สัมภาษณ์กับทางนิตยสาร Vouge เกี่ยวกับกรณีบาดหมางกันระหว่างเธอกับ โรนัลด์ เฟนตี พ่อของเธอโดยระบุว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนหักหลังเมื่อพ่อนำเรื่องของเธอไปพูดกับสื่อ
      
 "มันเหมือนกับ ฉันมีความหมายยังไงสำหรับเขา? มันแปลกจริงๆ นั่นเป็นเพียงคำเดียวที่ฉันคิดได้ที่จะอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะว่าคุณโตขึ้นมากับพ่อ คุณรู้จักเขาดี คุณเป็นส่วนหนึ่งของเขา ให้ตายเถอะ! แต่จากนั้นเขาดันไปทำอะไรที่ประหลาดๆซึ่งนั่นทำให้ฉันเริ่มรับไม่ได้"
      
 "คุณได้ยินเรื่องราวน่าสะพรึงเกี่ยวกับคนที่ทำอะไรบางอย่างลับหลัง คุณ ทำอะไรที่แปลกๆ แต่คุณจะคิดเสมอว่านั่นไม่ใช่ครอบครัวฉัน พ่อของฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่"
      
นักร้องสาวระบุว่าทุกอย่างย่ำแย่ขึ้นกว่าเดิมหลังจากที่เกิดเหตุทำร้ายร่างกายระหว่างเธอกับ คริส บราวน์ อดีตแฟนหนุ่ม เนื่องจากพ่อของเธอไม่ยอมติดต่อเธอเลยแต่สอบถามผ่านสื่อและออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อแทน
      
 "นั่นเป็นครั้งแรก พ่อฉันไปพบสื่อและเล่าเรื่องโกหกให้พวกเขาฟังเป็นกระบุงเพราะว่าเขาไม่ได้คุยกับฉันเลยหลังจากที่เกิดเหตุการณ์เหล่านั้น เขาไม่เคยโทรมาหาฉันเพื่อถามว่าฉันเป็นอย่างไรบ้างหรือฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่านี่ไม่มีเลย เขาไม่เคยโทรมาเลย เขาดันตรงไปหาสื่อเพื่อเช็คเรื่องของฉันแล้วตอนนี้เขาก็ทำแบบนั้นอีกแล้ว"

ตามรายงานระบุว่าในปี 2007 รีฮันนายังเคยให้สัมภาษณ์บอกสื่อด้วยว่าพ่อของเธอติดยา ซึ่งตอนนี้นักร้องสาวเผยว่าเธอเลิกล้มที่จะกลับมาสานสัมพันธ์กับพ่อเธอแล้ว "ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าเอาเหอะทำอะไรก็ทำฉันเหนื่อยแล้ว"

"ไรอัน ฟิลิปเป" เป็นพ่อคนไม่รู้ตัวทำอดีตแฟนสาวท้องก่อนบอกเลิก

หลังจากรักๆเลิกกันมานานจนในที่สุด "ไรอัน ฟิลิปเป" นักแสดงหนุ่มหล่อและ "อเลซิส แน็ปป์" นางแบบสาวก็มีอันต้องเลิกราไปตั้งแต่ปีที่แล้วจนฝ่ายชายไปพบรักใหม่ กับ "อแมนดา ซีฟรีด"  แต่ล่าสุดฝ่ายนางแบบสาวออกมายืนยันว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของอดีตแฟนหนุ่ม ได้ 6 เดือนแล้ว

แม้ว่าไรอัน ฟิลิปเป นักแสดงวัย 36 ปี จะมีลูกแล้วถึง 2 คนกับ รีส วิทเธอร์สพูน อดีตภรรยาแต่งานนี้เจ้าตัวก็งงสุดๆเมื่อรู้ตัวว่ากำลังจะมีลูกอีกคนซึ่งเกิดจาก อเลซิส แน็ปป์ นักแสดง-นางแบบอดีตแฟนสาววัย 26 ปี ซึ่งทางฝ่ายสาวออกมายืนยันว่าเธอตั้งครรภ์ระหว่างที่ยังคบหากับอดีตแฟนหนุ่ม
       

แม้ว่าเด็กในครรภ์จะมีกำหนดลืมตาดูโลกในเดือน มิ.ย. ที่จะถึงนี้ แต่คู่รักดังกล่าวก็ได้เลิกรากันมาตั้งแต่เดือน ก.ย. ปีที่แล้ว โดยอเลซิสยังคงยืนยันหนักแน่นว่าเด็กในท้องของเธอเป็นลูกของไรอันอย่างแน่นอน ซึ่งหมายความว่างานนี้เธอตั้งครรภ์ลูกในท้องในวันสุดท้ายที่พวกเขายังคบหากันอยู่เลยทีเดียว
     
ตามรายงานระบุว่า อเลซิส คบๆเลิกๆอยู่กับไรอันหลังจากออกเดทด้วยกันเพียงไม่กี่เดือน ก่อนจะเลิกรากันเด็ดขาดในเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว "เธอตั้งครรภ์ได้ 6 เดือนแล้วเธอคอยบอกคนโน้นคนนี้เสมอว่าเขาเป็นพ่อเด็ก"


ทางด้านแหล่งข่าวทางฝ่ายไรอันเองก็ออกมาเผยว่าเขาไม่รู้ตัวมาก่อนแต่ถ้าเด็กเป็นลูกเขาจริงเขาก็ยินดีรับผิดชอบ "ไรอันไม่รู้เลยว่าเขาเป็นพ่อของเด็กในท้องอเลซิส ถ้าเขาเป็นพ่อของเด็กจริง เขายินดีจะรับผิดชอบเกี่ยวกับเด็กคนนี้อย่างเต็มตัว"
     
ทางด้านแหล่งข่าวที่เคยใกล้ชิดกับอเลซิสและไรอันก็ยืนยันว่าทั้งคู่เคยคบหากันจริงจังอยู่พักหนึ่ง "เขากับอเลซิสเคยคบหากันอยู่ช่วงหนึ่ง เป็นสัมพันธ์ที่ค่อนข้างจริงจัง เขาเป็นคนดี เขาชอบการเป็นพ่อเขาทำหน้าที่พ่อได้เป็นอย่างดี"


 "ถ้าเด็กเป็นลูกของเขาจริงๆ เขาจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเขาจะรับผิดชอบเด็กคนนี้อย่างจริงจังแน่นอน"

"กฤษณ์" โต้ ทำของใส่ "มดดำ" ไม่โกรธอีกฝ่ายลั่นไม่ขอร่วมงานอีก

ป๊ะหน้ากันในงานครอบครู บ.เวิร์กพ้อยท์ฯ กฤษณ์-มดดำ งดสัมภาษณ์คู่ก่อนดีเจตี๋เปิดใจเหตุลาออกจากรายการ “ กฤษณ์-มดดำ ออนทีวี ”

“ต้องบอกก่อนจุดเริ่มต้น กฤษณ์-มดดำ ออนทีวีเราทำด้วยกัน แต่ช่วงหลังผมต้องยอมรับว่าผมลารายการไปบ่อยมากแล้วก็ไม่มีเวลาไปทำรายการเลย บางทีบางอาทิตย์จัดแค่อาทิตย์ละครั้งบ้างสองครั้งบ้าง ก็เลยคุยกับทางผู้ใหญ่และขอเบรกไว้ก่อนเพราะตอนนี้ผมมีทั้งงานส่วนตัวและงานนอกเต็มไปหมดแล้วรายการสดต้องยอมรับว่ามันใช้เวลามาก และต้องไปสตูดิโอทุกวันจันทร์-ศุกร์ พอเบรกไปปั๊บมันก็ไม่มีผมไปแต่เป็นรายการ “ กฤษณ์-มดดำ ออนทีวี ” ไม่มีผมมันก็แปลกๆ ทางผู้ใหญ่เลยเปลี่ยนเป็น “ มดดำออนทีวี ” ดีกว่า”

มีข่าวว่า มดดำ ไปยื่นข้อเสนอกับผู้ใหญ่ว่าถ้ามี มดดำ ก็ต้องไม่มี กฤษณ์ จริงเท็จยังไง?

“อันนี้ผมไม่ได้ยินนานแล้ว แต่เรื่องนี้ต้องไปถามมดดำโดยส่วนตัวผมไม่ได้ยินแบบนี้ (มดดำบอกว่าร่วมงานกันไม่ได้แล้ว?) คือเรารู้จักกันมานานทำงานกันมานาน บางทีคุณมดดำเขาอาจจะน้อยใจหรืองอนอะไรผมอันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ แต่โดยส่วนตัวผมไม่มีปัญหาในการที่จะร่วมงานกับมดดำเลยเมื่อกี้ก็ยังเจอเขา ก็ยังแซวกันอยู่แต่ว่ามดดำคิดยังไงต้องไปถามเขาตัวผมเองก็ยังงงอยู่ (หัวเราะ) ผมก็ถามเขานะแต่เขาไม่ค่อยคุยและไม่ค่อยตอบเราก็เลยไม่รู้จะเดินต่อไปยังไง”

มีข่าวว่า กฤษณ์ ทำของใส่ มดดำ ??

“อันนี้คงไม่ใช่ ผมไม่รู้จะทำของใส่เขาเพื่ออะไรนี่ผมกลายเป็นหมอผีไปแล้วเหรอ (ยิ้ม) (จะมีโอกาสกลับมาสนิทกันเหมือนเดิมมั้ย?) ส่วนตัวผมไม่ได้มีอะไร ถ้าทิ้งระยะไปอะไรๆ มันอาจจะเป็นไปได้ คุณมดดำเองเขาอาจจะติสก์ๆ อารมณ์ของเขาเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ผมก็ไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไร (เขาตั้งเงื่อนไขว่าถ้ามีเราก็ไม่มีเขา ทางเราตั้งเงื่อนไขอะไรมั้ย?) โอ...ไม่ละฮะ มีงาน มีเงิน ก็มีเราฮ่ะ (หัวเราะ)”

 “ผมว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรใหญ่โต เพราะผมก็ไม่ได้ไปทะเลาะกับคุณมดดำ แล้วคุณมดดำก็ไม่ได้ทะเลาะกับผม มันเกิดจากอะไรสักอย่างคงต้องไปถามเขา ตัวผม...ผมยังงงๆ อยู่เลย เดี๋ยวรอสัมภาษณ์เขาเลย เพราะเขาก็อยู่เหมือนกัน (หัวเราะ) (ต้องการกาวใจมั้ย?) คงไม่ต้องการกาวใจหรืออะไร เพราะเราโตๆ กันแล้ว คงเป็นเรื่องความรู้สึกของทางด้านคุณมดดำมากกว่า ตัวผมไม่มีปัญหาเลยนะ”

ตู่ ภพธร โต้รถชนไม่รับผิดชอบ-ให้ศาลตัดสิน

นักร้องหนุ่ม ตู่ ภพธร เปิดใจต่อสื่อมวลชนถึงกรณีที่มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนในรายการบอก 9 เล่าสิบ หลังเกิดอุบัติเหตุรถชนกันและกล่าวหาว่า ตนไม่รับผิดชอบค่าเสียหายและคดีความไม่คืบหน้าซึ่งตนก็ยอมรับว่าเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งประกันรถขาดทั้งคู่ ซึ่งตนก็ได้พยายามไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีแต่ไม่เป็นผลสำเร็จจึงปล่อยเป็นกระบวนการของชั้นศาล ซึ่งตนก็ได้ไปตามนัดทุกครั้ง พร้อมปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือและยืนยัน หากผิดก็พร้อมจะรับผิดชอบตามคำตัดสินของศาล

ส่วนในเรื่องของความรักกับพีอาร์สาว น้องนุช นั้นก็ราบรื่นแฮปปี้ไร้ปัญหา พร้อมแย้ม ๆ ว่า เร็ว ๆ นี้ กำลังจะคลอดงานเพลงอัลบั้ม2 ซึ่งรับรองว่าถูกใจแฟนเพลงอย่างแน่นอน

"ก้อง กรุณ" ขอบคุณ "แตงโม" ป้องไม่ใช่เกย์

หนุ่มไฮโซ ก้อง-กรุณ ขอบคุณ แตงโม ป้องไม่ใช่เกย์ยันไม่โกรธ ลั่นแมน 100 เปอร์เซ็น น้ำชา ไม่หึงหลังถูกอดีตแฟนสาว แตงโม ภัทรธิดา ให้สัมภาษณ์เปิดใจในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุยว่า เคยพลาดคบแฟนไฮโซแต่เป็นเกย์ จนทำให้หลายคนต่างจับตามองว่าเป็นหนุ่ม ก้อง กรุณ ซึ่ง สาวแตงโม ก็ออกมาทวิตแก้ข่าวยืนยันว่าไม่ใช่ หนุ่มก้อง อย่างแน่นอน

งานนี้ หนุ่มก้อง เปิดใจว่าตนรู้สึกขอบคุณที่ แตงโม ได้แสดงความจริงใจในการออกมาแก้ข่าวให้ซึ่งตนก็ไม่ได้ซีเรียส หรือ โกรธฝ่ายหญิงแต่อย่างใด ซึ่งตนก็ยืนยันว่าตนเป็นแมนร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้เป็นเก้งกวางตามกระแสข่าวซึ่งตนก็เชื่อว่าประชาชนคนดูก็คงน่าจะมีวิจารณญาณในการพิจารณาได้ส่วนแฟนสาวอย่าง น้ำชา ก็ไม่ได้ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้น และไม่เคยหึงหวงอดีตแฟนสาวแต่อย่างใด

“เวียร์” รับเหงาหลังเลิก “แพนเค้ก” บอก ดีใจด้วยมีคนลุ้นให้คบ “เป้”

ตั้งแต่เลิกรากับ “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ก็ดูเหมือนว่า “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ” จะห่างหายไปจากทั้งหน้าจอทีวีและงานอีเว้นต์ต่างๆ แม้จะมีโอกาสได้เจอะเจอเจ้าตัวตามงานบ้าง แต่ก็มักจะถือโอกาสชิ่งไม่ยอมให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์ ล่าสุดมีโอกาสเจอเจ้าตัวที่งาน “THE MALL BANGKOK OPTICAL 2011” จึงสอบถามเรื่องราวหัวใจหลังจากเลิกรากับแพนเค้ก เพราะมีข่าวว่าตอนนี้หนุ่มเวียร์ประชดชีวิต ทำตัวเป็นคาสโนว่าจีบสาวไปเรื่อย งานนี้เจ้าตัวแจงชีวิตหลังโสด นอกจากงานแล้วก็มีแต่เพื่อนและครอบครัว ไม่มีเวลาไปเจอะเจอศึกษาสาวที่ไหนเลย
     
 “ตอนนี้ก็ทำงานอย่างเดียวไม่มีเรื่องความรักเลย ไม่มีไปจีบใครไม่มีใครเข้ามาจีบ อาจจะเป็นเพราะว่าผมเองก็ไม่ค่อยได้เจอใครเท่าไหร่ ก็อยู่แต่ตามกองละครเสียส่วนใหญ่ไอ้ข่าวที่ว่าผมไปแอบกุ๊กกิ๊กกับคนนั้นคนนี้มันก็แค่ขำๆครับ มันก็เป็นตามปกติของข่าวอาจจะเป็นด้วยเรื่องของการโปรโมตละคร ก็อาจจะมีข่าวคู่กันบ้างปกติเวลาเลิกกองต่างคนก็ต่างมีกิจกรรมเป็นของตัวเองไม่ได้ติดต่ออะไรกัน”
     
 “พอโสดคนก็จะมองว่าผมเป็นคาสโนว่า ความจริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยครับ มันก็เป็นปกติอย่างเวลาที่เราโสดปุ๊บก็จะมีข่าวแบบนี้เข้ามา ก็มีโอกาสโสดทั้งทีก็ต้องจีบสาวให้เต็มที่แน่นอน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยครับ ตอนนี้ชีวิตปกติยังไม่มีโอกาสได้มองใครเลย ยังไม่มีใครเข้ามาก็เร่งทำงานไปก่อน”
     
 “อารมณ์เหงามันก็มีบ้างเวลา ที่เราไม่ได้ทำงานแต่เราก็มีเพื่อน เพื่อนผมเยอะอีกอย่างช่วงนี้ครอบครัวผมก็มีโอกาสได้บินมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯบ่อยก็เลยไม่เหงา ตอนนี้เวลาที่เหลือจากการทำงานก็จะอยู่กับเพื่อน อยู่กับครอบครัวมากขึ้นที่ครอบครัวผมบินมาบ่อยไม่ใช่ว่าห่วงกลัวผม จะคิดมากอะไรหรอกครับ เขาห่วงเรื่องของสุขภาพผมมากกว่า ว่าอยู่อะไร ยังไง ที่ไหน เป็นยังไงบ้างแค่นั้นเอง”
     
 ลั่นไม่ได้ติดต่อกับสาว “แพนเค้ก” แล้ว บอก ต่างคนก็ต่างยุ่งกับงานของตัวเอง ไม่หึงที่อีดหวานใจรับงานคู่ “เป้ อารักษ์ อมรศุภศิริ” ขอโฟกัสแต่เรื่องงานอย่างเดียวพอ
     
 “ช่วงนี้ผมไม่ได้ติดต่อกับเขาเลยครับ เพราะผมเองก็ค่อนข้างงานยุ่ง น้องเองก็ทำงาน ต่างคนก็ต่างเหนื่อย ต่างก็เร่งทำงานของแต่ละคนไปดีกว่า แต่ก็ยังพอมีแฟนคลับบางส่วนเชียร์ให้เรากลับมาคืนดีกันนะครับ มีคนพูดบ้างแต่เราเองก็ตอบไม่ได้ มันเป็นเรื่องของอนาคต ทุกอย่างมันก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นได้ ตอบไม่ได้ว่ามันจะมีโอกาสรึเปล่า”

 “ส่วนเรื่องที่น้องเองเขามีงานคู่กับเป้เยอะ ก็ไม่อะไรครับ ก็ปกติ จะไปซีเรียสเพื่ออะไร ไม่รู้สึกอะไรเลย กับข่าวต่างๆ ระหว่างน้องกับเป้ตรงนี้คงต้องไปถามเป้เองนะครับ ผม เองก็ไม่ค่อยได้ติดตามเท่าไหร่ ว่าตอนนี้แต่ละคนเป็นไปยังไงแล้วบ้าง เพราะเราเองก็ต้องทำตัวเราเองให้ดีก่อน ไม่อยากไปสนใจคนอื่นเท่าไหร่ ก็ดีครับ เห็นก็มีหลายคนลุ้นๆ เขาอยู่ ส่วนตัวผมไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกอะไร เรื่องอารมณ์หึงหวงตัดทิ้งไปเลยครับ ไม่มีเลย ตอนนี้ผมขอโฟกัสเรื่องงานอย่างเดียวพอ”


“ณเดชน์” โผล่รับแล้ว ไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นที่แท้เป็นออสเตรีย

เข้าวงการมาด้วยการเปิดตัวว่าตนเองเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นจนเป็นที่ฮือฮาสร้างจุดสนใจจนสาวๆ กรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมืองแต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนออกมาแฉว่า “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างที่กล่าวอ้างหากแต่เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรียต่างหาก งานนี้ก็เลยทำเอาหลายคนถึงกับช็อคไปตามๆ กันไม่คิดว่าพระเอกขวัญใจจะเมคประวัติตัวเองขึ้นมาหลอกลวง หลังจากที่เก็บตัวเงียบมาหลายวันล่าสุดหนุ่มณเดชน์ก็ออกมาเคลียร์เรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยยอมรับแต่โดยดีว่าเรื่องที่โดนขุดคุ้ยเป็นเรื่องจริง ตนไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างที่เคยบอกไว้
     
 “ข่าวที่บอกว่าผมไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่น ผมอยากจะบอกตรงนี้เลยคืออยากบอกมานานแล้ว แต่ว่ายังไม่ถึงเวลาแต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูดผมก็อยากจะบอกว่าใช่ครับผมไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ว่าคุณพ่อบุญธรรมผมเป็นคนญี่ปุ่นผมก็เลยให้เกียรติคุณพ่อผมด้วยการที่บอกว่าผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ชื่อผมที่อยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีครับ ซึ่งจริงๆ แล้วผมเป็นลูกครึ่งออสเตรียครับคุณพ่อจริงๆ ผมเป็นออสเตรีย”
     
 “คืออย่างที่บอกว่าเป็นการให้เกียรติเพราะว่าตั้งแต่ผมเกิดมาผมก็อยู่กับคุณแม่และก็ปะป๊ามาตลอดทุกคนรักผมและนี่ก็คือความรักที่ผมมอบให้ทุกคน คือการทำงานและก็การที่ผมบอกว่าผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นและถ้าผมออกมาพูดตั้งแต่แรกว่าผมไม่ใช่แบบนี้จริงๆ ก็คงไม่มีใครมาสนใจหรอก”
     
โว ไม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้นเพราะตนไม่ได้ต้องการที่จะปิดบังตั้งแต่แรก


 “กับข่าวที่ออกมาก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดหรือซีเรียสอะไร เพราะว่าจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะมาปิดบังอะไรไว้มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพูดตั้งแต่ตอนนั้น แต่ตอนนี้มันถึงเวลาพูดเพราะว่าทุกคนมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้แล้วแต่ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด ก็อยากจะบอกว่าไม่ได้เครียดไม่ซีเรียสครับเพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรเลย”
       

งานนี้คนที่โดนมองเป็นคนจัดฉากก็เลยหนีไม่พ้น “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้จัดการสวนตัวของ “ณเดชน์” ซึ่งเรื่องนี้ถึงกับทำให้เอบ่นว่าเหนื่อยมาก “พี่เอก็บอกว่าเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่รู้นะว่าใครจะคิดยังไง คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบังแต่จะให้ผมออกมาบอกว่าผมเป็นลูกคนนี้นะ คนนี้นะ มันก็ไม่ใช่เพราะว่ามันเหมือนว่าจะโจ่งแจ้งเกินไปหรือเปล่า”