วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

“เมล กิ๊บสัน” เปิดใจ : ข้อหาซ้อมเมีย, เหยียดผิว, อนาคตในวงการ

หลังจากต้องตกอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่องปัญหาชีวิตส่วนตัวมา นานมากกว่า 1 ปี ล่าสุด "เมล กิ๊บสัน" ได้ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก เพื่อเปิดใจทั้งเกี่ยวกับเรื่องความผิดพลาดในอดีต และแผนการในอนาคต ที่นักแสดงชื่อดังยอมรับว่า เขาอาจจะไม่รับงานแสดงอีกต่อไปแล้วก็ได้ หากแฟน ๆ ไม่ยอมรับ
     
ในการให้สัมภาษณ์ยาวเหยียดกับ Deadline.com ระหว่างโปรโมตภาพยนตร์เรื่อง The Beaver นักแสดงผู้อื้อฉาว เมล กิ๊บสัน ได้เปิดปากกล่าวถึงปัญหามากมาย ที่มีจุดเริ่มต้นจากความบาดหมางกับอดีตหญิงคนรัก อ็อกซาน่า กรีกอรีว่า ที่มีข้อกล่าวหาว่า กิ๊บสัน ทั้งทำร้ายร่างกาย และด่าทอรุนแรงต่อเธอ จนกลายเป็นปัญหาทางกฎหมาย ที่สร้างความยุ่งยาก และทำลายชื่อเสียงของยอดนักแสดงรายนี้ให้ย่อยยับไปช่วงเพียงปีเศษเท่านั้น
     
ในประเด็นเรื่องการถูกดำเนินคดีใช้ความรุนแรง กิ๊บสัน ให้อธิบายถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
     
"ผมได้รับอนุญาตให้จบคดีทั้งหมด โดยยังสามารถยืนกรานความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ เป็นขั้นตอนที่ศาลสามารถลงโทษโดยผู้ต้องหาไม่ต้องสารภาพหรือยอมรับผิด อาจจะไม่ใช่วิธีที่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ศาลและอัยการมองว่าเหมาะสมกับคดีความครั้งนี้ ผมอาจจะชนะคดีหากยอมใช้เวลาต่อสู้ในชั้นศาลนานเป็นปี แต่ผมยอมจบมันเพื่อลูก ๆ และครอบครัว เพราะมันอาจจะกลายเป็นเรื่องวุ่นวายเหมือนกับละครสัตว์ไปได้ คุณไม่ควรจะลากทุกคนในชีวิตให้ตกต่ำไปกับคุณโดยไม่จำเป็น ผมยอมโดนเล่นงาน เพื่อจะได้ก้าวต่อไปเสียที"
     
กิ๊บสัน ที่ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการคนหนึ่ง ต้องพบกับข้อกล่าวหาเรื่องการเหยียดผิว, เหยียดเชื้อชาติ และเหยียดยิว จากถ้อยคำอันรุนแรงที่ถูกบันทึกเสียงในเทป ระหว่างการทะเลาะกับ กรีกอรีว่า ซึ่งถูกส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต่อมาหลุดไปสู่สาธารณะ ซึ่งกิ๊บสัน ยอมรับว่าเขากล่าวถ้อยคำแบบนั้นไป แต่ไม่ได้เชื่อเช่นนั้น
     
"ผมไม่เคยทำอะไรไม่ดีกับใคร ไม่เคยแสดงท่าทีการเลือกปฏิบัติ เลือกที่รักมักที่ชัง กับคนต่างเพศ, ต่างเชื้อชาติ, ต่างศาสนา หรือมีรสนิยมทางเพศที่แตกต่าง ผมไม่ได้โทษใครนะครับที่จะเชื่อแบบนั้น จากเรื่องราวขยะที่ได้ฟังในเทปหลุดซึ่งถูกตัดต่อ แต่คุณต้องมองในภาพรวม ในเหตุการณ์ที่เกิดการถกเถียงกันหนักจนสติแตก กลายเป็นความไร้เหตุผล ของคนที่พยายามจะเอาตัวรอดจากความสัมพันธ์อันย่ำแย่ มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายมาก เป็นช่วงเวลาที่แย่สุด ๆ สำหรับคนคนหนึ่ง ที่เกิดขึ้นในวันหนึ่ง โดยที่ไม่ได้สะท้อนภาพรวมของสิ่งที่ผมคิด หรือสิ่งที่ผมปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ทำมาตลอดทั้งชีวิต"
     
ในหนังเรื่อง The Beaver ที่ กิ๊บสัน รับบทนำ เป็นผลงานการกำกับของ โจดี้ ฟอสเตอร์ ที่พูดถึงหนุ่มใหญ่ซึ่งสร้างบุคลิกใหม่ขึ้นมาบนตุ๊กตามือบีเวอร์ เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดหลังจากสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก โดยหนังเรื่องนี้ต้องได้รับผลกระทบจากข่าวฉาวของ เมล กิ๊บสัน ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปีก่อน ทำให้ถูกเลื่อนฉายหลายครั้ง
     
โดยนักแสดงหนุ่มใหญ่วัย 55 ปี ยืนยันว่าเขายังมีโปรเจ็คหนังอยู่ในมืออีกพอสมควร ซึ่งหากสาธารณะชนจะเกลียดชัง และปฏิเสธไม่ยอมรับเขา ด้วยเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น กิ๊บสัน ก็เผยว่าเขาเองก็ไม่ได้คิดมากอะไรหากต้องยุติบทบาทกับอาชีพนักแสดง
     
"ผมอาจจะไม่แสดงหนังอีกเลยก็ได้ มันไม่ใช่ปัญหาอะไรหรอก แต่ตอนนี้ผมมีโปรเจ็คหนังอยู่ เป็นงานที่อยากทำเพราะมันน่าจะสนุก ผมไม่รู้หรอกว่ามันจะได้เดินเครื่องรึเปล่า เป็นหนังที่ผมจะได้ทำงานกับ แรนดี้ วอลเลซ (ผู้เขียนบท Braveheart) อีกครั้ง ผมได้บทมาแล้ว มันเป็นเรื่องราวที่อยู่กับเขามาเป็นปีแล้ว เป็นหนังสือที่เขาเขียนและดัดแปลงเป็นบทหนังด้วยตัวเอง มันจะคล้ายกับงานของ อเล็กซานเดอร์ ดูมาร์ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มอันธพาลอะไรทำนองนั้น"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น