Entertainment Tonightได้แพร่ภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพการกระทำผิดในคดีลักทรัพย์ที่มีชื่อของดาราสาวคนดัง ลินด์ซีย์ โลฮาน เป็นผู้ต้องหาเอาไว้โดยภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงท่าทีของพนักงานในร้านขายเครื่องเพชร Kamofie & Company ที่ไม่ได้แสดงท่าทีมีปัญหาใด ๆ กับ โลฮาน ซึ่งสวมสร้อยคอราคา 2,500 เหรียญฯ เอาไว้และเดินออกจากร้านไปโดยไม่ได้ชำระเงิน
แต่ในเวลาต่อมาร้านเครื่องประดับดังกล่าวกลับแจ้งความว่าสร้อยคอดังกล่าวถูกขโมยจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอคำสั่งศาลเพื่อค้นบ้านของโลฮานและสร้อยคอถูกส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อคืนให้กับทางร้านในที่สุด โดยฝ่ายของโลฮาน ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิดเธอเพียงยืมสร้อยคอดังกล่าวมาใส่และได้รับอนุญาตจากทางร้านแล้ว
ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นคดีความทางอาญาที่ร้ายแรงที่สุดที่ ลินด์ซีย์ โลฮาน เคยถูกกล่าวหา โดยวิบากกรรมของสาววัย 24 ปี เกิดขึ้นภายหลังเธอเพิ่งได้รับอิสรภาพจากการเข้าไปใช้ชีวิตในสถานบำบัดยาเสพติดครั้งล่าสุดไม่นานนัก
โดยในส่วนอื่น ๆ ของคลิปแสดงภาพของ โลฮาน ที่กำลังส่งข้อความและลองสร้อยคออีก 2 เส้น โดยเธอใส่สร้อยคอเส้นที่มีปัญหาอยู่ประมาณ 25 นาทีก่อนจะเดินออกจากร้าน Kamofie ไป
ขณะเดียวกันร้านเครื่องเพชรดังได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะนำสร้อยคอของกลางในคดีลักทรัพย์ ที่ขณะนี้อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ทางกฎหมาย ออกให้ประมูลเพื่อมอบรายได้ให้กับการกุศล เมื่อคดีครั้งนี้สิ้นสุดลง “เรา ได้เผยแพร่วิดีโอเทปที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไปแล้ว และมันคือข้อมูลที่ชัดเจนที่สุดสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ และเราเชื่อว่าก้าวต่อไปหลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบสิ้นลงไปแล้ว ก็คือการมอบรายได้จากเครื่องประดับสุดดังชิ้นนี้ให้กับการกุศล”
สำหรับการต่อสู้ทางกฎหมาย โลฮาน มีทางเลือกที่จะยอมรับสารภาพหรือต่อสู้กับข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ที่จะทำให้คดีต้องยืดยาวออกไปอีก และเมื่อขั้นตอนของการรับฟังข้อมูลจากพยานหลักฐานจบสิ้นลงแล้ว ผู้พิพากษาจะต้องตัดสินว่าการกระทำของ โลฮาน เป็นการเข้าข่ายละเมิดต่อทัณฑ์บนในคดียาเสพติดหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้พิพากษามองว่าใช่ ก็มีสิทธิ์ที่จะส่งตัวนักแสดงสาวคนดังเข้าห้องกรงในทันที เพื่อรอคอยการตัดสินในคดีลักทรัพย์ต่อไป
Entertainment Tonight เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภาพวงจรปิดในคดีความสุดอื้อฉาวมาจากร้านเครื่องประดับ Kamofie ที่ได้อ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นการทำลายธุรกิจของร้านเพราะมันส่งผลให้บรรดาผู้สื่อข่าวและปาปาราสซี่ มาจับจ้องรายงานข่าวของร้านไม่เว้นแต่ละวันจนทำให้ลูกค้าต่างหนีหายไปหมด
โดยมีข่าวว่าร้าน Kamofie ทำเงินได้ราว ๆ 40,000 เหรียญฯจากการขายภาพวงจรปิดชุดนี้ ขณะที่ฝ่ายของ ลินด์ซีย์ โลฮาน ก็ออกมาฟ้องร้องเอาผิดกับทางร้านโดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำกำไรจากวิดีโอที่มีภาพของเธอ
แต่ในเวลาต่อมาร้านเครื่องประดับดังกล่าวกลับแจ้งความว่าสร้อยคอดังกล่าวถูกขโมยจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอคำสั่งศาลเพื่อค้นบ้านของโลฮานและสร้อยคอถูกส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อคืนให้กับทางร้านในที่สุด โดยฝ่ายของโลฮาน ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นการเข้าใจผิดเธอเพียงยืมสร้อยคอดังกล่าวมาใส่และได้รับอนุญาตจากทางร้านแล้ว
ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่านี่เป็นคดีความทางอาญาที่ร้ายแรงที่สุดที่ ลินด์ซีย์ โลฮาน เคยถูกกล่าวหา โดยวิบากกรรมของสาววัย 24 ปี เกิดขึ้นภายหลังเธอเพิ่งได้รับอิสรภาพจากการเข้าไปใช้ชีวิตในสถานบำบัดยาเสพติดครั้งล่าสุดไม่นานนัก
โดยในส่วนอื่น ๆ ของคลิปแสดงภาพของ โลฮาน ที่กำลังส่งข้อความและลองสร้อยคออีก 2 เส้น โดยเธอใส่สร้อยคอเส้นที่มีปัญหาอยู่ประมาณ 25 นาทีก่อนจะเดินออกจากร้าน Kamofie ไป
ขณะเดียวกันร้านเครื่องเพชรดังได้ประกาศเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าจะนำสร้อยคอของกลางในคดีลักทรัพย์ ที่ขณะนี้อยู่ในมือของเจ้าหน้าที่ทางกฎหมาย ออกให้ประมูลเพื่อมอบรายได้ให้กับการกุศล เมื่อคดีครั้งนี้สิ้นสุดลง “เรา ได้เผยแพร่วิดีโอเทปที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไปแล้ว และมันคือข้อมูลที่ชัดเจนที่สุดสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ และเราเชื่อว่าก้าวต่อไปหลังจากเรื่องราวทั้งหมดจบสิ้นลงไปแล้ว ก็คือการมอบรายได้จากเครื่องประดับสุดดังชิ้นนี้ให้กับการกุศล”
สำหรับการต่อสู้ทางกฎหมาย โลฮาน มีทางเลือกที่จะยอมรับสารภาพหรือต่อสู้กับข้อกล่าวหาลักทรัพย์ ที่จะทำให้คดีต้องยืดยาวออกไปอีก และเมื่อขั้นตอนของการรับฟังข้อมูลจากพยานหลักฐานจบสิ้นลงแล้ว ผู้พิพากษาจะต้องตัดสินว่าการกระทำของ โลฮาน เป็นการเข้าข่ายละเมิดต่อทัณฑ์บนในคดียาเสพติดหรือไม่ ซึ่งถ้าผู้พิพากษามองว่าใช่ ก็มีสิทธิ์ที่จะส่งตัวนักแสดงสาวคนดังเข้าห้องกรงในทันที เพื่อรอคอยการตัดสินในคดีลักทรัพย์ต่อไป
Entertainment Tonight เป็นผู้ซื้อลิขสิทธิ์ภาพวงจรปิดในคดีความสุดอื้อฉาวมาจากร้านเครื่องประดับ Kamofie ที่ได้อ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกลายเป็นการทำลายธุรกิจของร้านเพราะมันส่งผลให้บรรดาผู้สื่อข่าวและปาปาราสซี่ มาจับจ้องรายงานข่าวของร้านไม่เว้นแต่ละวันจนทำให้ลูกค้าต่างหนีหายไปหมด
โดยมีข่าวว่าร้าน Kamofie ทำเงินได้ราว ๆ 40,000 เหรียญฯจากการขายภาพวงจรปิดชุดนี้ ขณะที่ฝ่ายของ ลินด์ซีย์ โลฮาน ก็ออกมาฟ้องร้องเอาผิดกับทางร้านโดยอ้างว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะทำกำไรจากวิดีโอที่มีภาพของเธอ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น