วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

คู่กรณีมีหนาว "โกโก้" จ่อสาวไส้ลงพ็อกเกตบุ๊ก

กลายเป็นประเด็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ ในทันทีหลังจากที่คุณแม่ ''ปราศรัย นิธิไพศาลกุล'' คุณแม่ของนักน้องหนุ่ม ''กอล์ฟ'' พิชญะ นิธิไพศาลกุล ออกมาให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าตอนนี้ลูกชายได้หอบผ้าย้ายออกมาอยู่คอนโดฯ นานกว่าครึ่งปีแล้ว โดยมีนักแสดงสาว ''ดิว'' อริสรา ทองบริสุทธิ์ หวานใจของนักร้องหนุ่มเป็นคนคอยดูแล ซึ่งทำให้ทางคุณแม่ของ ''กอล์ฟ'' เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก และหลังจากที่ข่าวเกิดขึ้นทั้ง ''กอล์ฟ'' และ ''ดิว'' ก็ยังเก็บตัวเงียบ มีเพียงข้อความสั้นๆ ที่โพสต์ผ่านทวิตเตอร์เท่านั้น ทำให้ทางผู้สื่อข่าวต้องสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวจากคนรอบข้าง ซึ่งอีกหนึ่งบุคคลที่ผู้สื่อข่าวติดต่อไปหาก็คือ ''โกโก้'' นิรุณ ลิ้มสมวงศ์ ในฐานะผู้ดูแลงานให้กับ ''สาวดิว'' โดยในเรื่องนี้ ''โกโก้'' บอกว่า

''ก็มีข่าวใหญ่มาก เราก็รู้สึกตกใจ นักข่าวก็โทร.มาถามเยอะเหมือนกัน เพราะข่าวมันค่อนข้างแรง เราก็สงสารน้องนะ เพราะว่าน้องเค้าเสียหายเพราะน้องเค้าเป็นผู้หญิง โก้เองก็อ่านจากข่าวที่บอกว่าแม่กอล์ฟไม่พอใจ แต่ว่าเท่าที่โก้คุยกับดิว เค้าบอกว่าไม่ได้มีอะไรขนาดนั้นเลย คุณแม่ดิวเค้าก็บอกว่าคุยกับคุณแม่กอล์ฟแล้วเค้าก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลย ก็ทราบมาประมาณเท่านี้ครับ ว่าเค้าไม่ได้มีปัญหาอะไร โก้ก็งงเหมือนกันมันเป็นยังไงกันแน่ ว่าแหล่งข่าวจริงๆ แล้วเป็นยังไง คุณแม่กอล์ฟให้สัมภาษณ์จริงหรือเปล่า ก็อยากรู้เหมือนกัน เพราะนักข่าวบางคนยังไม่แน่ใจเลยว่าคุณแม่กอล์ฟให้สัมภาษณ์เองหรือเปล่า''

จากที่เห็น ''ดิว'' กับ ''กอล์ฟ'' คบกันมาเป็นอย่างไรบ้าง
''ดิวกับกอล์ฟเคาคบกันเนี่ย เค้าก็ดูน่ารัก คือจริงๆ ดิวไปไหนเนี่ยคุณแม่ก็จะไปด้วย คือเค้า 2 คนเป็นเด็กที่มีสัมมาคารวะกับโก้ครับ ก็ไม่มีอะไร ส่วนที่บอกว่าไปอยู่คอนโดฯ ด้วยกันอันนี้ไม่ทราบจริงๆ แต่ทางน้องดิวโก้ว่าน้องเค้าไม่มีคอนโดฯ จริงๆ ดิวเค้าอยู่บ้านกับคุณแม่นะ ไปไหนคุณแม่ก็ไปด้วยตลอด''

กับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ ''ดิว-อริสรา'' ทำให้มีกระแสข่าวออกมาอีกว่าในระยะหลังๆ เด็กในความดูแลของนักปั้นชื่อดัง ''โกโก้-นิรุณ'' มักจะมีข่าวฉาวเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไล่เรียงมาจากหนุ่ม ''มาริโอ้ เมาเร่อ'' ที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับ ''เอ-ศุภชัย'' ทั้งที่ยังไม่หมดสัญญา, สาว ''สายป่าน-อภิญญา'' ที่ขอยกเลิกสัญญาเพราะไม่พอใจการรับงานของผู้จัดการคนนี้ หรือ ''น้องบัว'' นางเอกโฆษณาน้ำส้มยี่ห้อหนึ่ง ที่ขอมารับงานเอง ทำให้ผู้จัดการดาราที่ชื่อว่าโกโก้ถูกมองในแง่ลบ ซึ่งเรื่องนี้ ''โกโก้'' ได้เปิดใจอย่างหมดเปลือกถึงข่าวเม้าท์ดังกล่าวให้กับ ''สยามดารา'' ว่า

''เรื่องข่าวนี้กลัวมากครับ และก็เครียด เพราะว่าล่าสุดก็ยังไปอ่านในเว็บไซต์อยู่ ก็มีคนด่าทั้งฝั่งโก้และฝั่งป่านก็อย่างที่บอกว่ามีปัญหาทะเลาะกันไม่มีใคร มองว่าคนคนใดคนหนึ่งดี 100 เปอร์เซ็นต์หรอก มันก็ต้องมีมองทั้ง 2 อย่างทั้งดีและไม่ดี มันไม่มีใครได้ดีครับ ทะเลาะกันก็เสียทั้งคู่ครับ โก้อยากให้มองในมุมกลับกันครับ ว่าการที่ทะเลาะกันไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกร้อยเปอร์เซ็นต์ คือทุกอย่างเนี่ยโก้ก็ไม่ได้มีปัญหาก่อน เราก็ทำงานไปตามเรื่อง พอดีเข้าไปอ่านไนเว็บไซต์ ขอแก้ข่าวนิดนึงอึดอัด คือบางคนบอกว่าทำไมเรามาทวงบุญคุณเด็ก โก้อยากบอกว่าเราไม่เคยทวงบุญคุณน้องนะ อยากให้เข้าใจว่ามันคือการทำงาน มันเป็นธุรกิจ เราก็ต้องแบ่งเงินกัน เรื่องบุญคุณก็ไม่เคยพูด แต่ในอินเทอร์เน็ตเค้าก็ว่ากันมันควรมีความกตัญยู ซึ่งตัวโก้เองไม่ได้ทวงบุญคุณ อยากให้ทุกคนเข้าใจว่าโก้ไม่ได้พูดถึงเรื่องบุญคุณนะ อยากให้มองในแง่เป็นการทำงานล้วนๆ ก็ได้ ในเมื่อคุณตกลงทำงานร่วมกันตามสัญญา แบ่งเงินเท่านี้ เวลาเท่านี้ ควรจะทำให้ครบตามวาระก่อน แล้วถ้าคุณจะไป อย่างน้องดิวเนี่ยคุณหมดสัญญาแล้วคุณไปมันก็ไม่มีปัญหาอะไรเลย ก็จะแฮปปี้ทั้ง 2 ฝ่ายครับ''

ยันไม่ใช่เด็กแค่ในสังกัด ''โกโก้'' ที่มีปัญหา
''คือโก้ไม่อยากให้คิดว่าเด็กในสังกัดโก้ที่มีปัญหา โก้ว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไป เด็กสมัยนี้เป็นกันเยอะมาก โก้ไม่เข้าใจว่าคุณพ่อ-คุณแม่สมัยนี้เลี้ยงลูกเหมือนเพื่อนหรือเปล่า แต่สมัยโก้จะมีคำนึงคือ รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี แต่พ่อ-แม่สมัยนี้เค้าไม่ได้ตีลูกรึเปล่า สั่งสอนลูกจริงๆ หรือเปล่า ซึ่งจริงๆ โก้ก็ไม่สมควรพูดเรื่องนี้มาก เรายังไม่มีลูก แต่เราโดนพ่อ-แม่สั่งสอน สมัยโก้เรื่องคบกันผู้หญิง-ผู้ชายจับมือกันยังไม่มีเลย ไม่ได้โทษน้องๆ อย่างเดียวนะ อาจด้วยสื่อด้วย อย่างการกอดจูบเป็นเรื่องปกติ อยากให้น้องๆ รุ่นใหม่ระวังตัว รักษาตัวกันดีๆ คบกันก็อย่างถูกต้องดีกว่า อย่าเกินเลยกัน ให้เกียรติทั้งผู้หญิง-ผู้ชาย ทำอะไรให้อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ เที่ยวกลางคืน ดื่มเหล้า อย่าทำเลยครับ''

ย้อนถึงสาเหตุที่ผิดใจกับ ''สายป่าน-อภิญญา''
''สาเหตุหลักๆ มันเหมือนกับว่าคำพูดครับ การวางตัว เรารู้สึกว่าน้องเค้าพูดกับเราไม่ดี เราเป็นผู้ใหญ่ คือมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ แค่พูดจาไม่ดี และก็ไม่ยอมรับ จริงๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องของการทำงานอะไรเลย เรื่องแค่ว่าคำพูดที่เด็กใช้พูดกับเรา จริงๆ ของเรื่องคือ เราอาบน้ำอยู่ เค้าโทร.มา 2 ครั้ง เราไม่ได้รับก็พูดไม่ดี มึง มา พา โวย วะ แบบ ทำไมมึงไม่รับโทรศัพท์วะ เป็นอย่างนั้น พอต่อๆ มาหลังจากมีปัญหากันก็กลายเป็นประเด็น คนก็มองเราว่าไม่ดี ไม่รับโทรศัพท์ ไม่ติดต่องานให้น้อง โน่นนี่นั่น..ก็มีหลักฐานครับ เพราะฉะนั้นถ้าคุยกันนอกรอบเนี่ยน้องเค้าจะอ้างโน้นอ้างนี่กับคุณพ่อเค้า ซึ่งคุณพ่อเค้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เพราะฉะนั้นเราให้ศาลเป็นคนตัดสินดีกว่า เราใช้หลักฐานที่เรามีครับ''

''โกโก้'' ซัด ''มาริโอ้'' ทักทายแค่ตอนอยู่ต่อหน้าสื่อ
''โอ๊ย...ไม่ทักครับ ถ้ามีนักข่าวอยู่เค้าทัก แต่ถ้าเจอกันข้างนอกเค้าไม่ทัก แล้วจริงโก้ไม่เข้าใจอยู่เรื่องนึง คือโก้ให้สัมภาษณ์ไปบ่อยมาก...ยังไม่จบ เพระเค้าไม่ลงขอโทษทางหนังสือพิมพ์ให้ตามตกลง แต่เค้าก็ยืนยันว่าเค้าทำหมดแล้วโก้ก็งง เพราะเค้ายังไม่ทำครับ''

เล่าถึงข้อพิพาทล่าสุดกับเด็กในสังกัด นางเอกโฆษณารายหนึ่งถึงขั้นมีการขู่ทำร้าย
''คือจริงๆ น้องเค้าไปรับงานเอง ทางคุณพ่อกับคุณแม่เค้าก็บอกว่าต้องยอมให้รับ เราก็บอกว่าไม่ได้ เพราะทางสัญญาเนี่ยไม่ให้รับงานเอง เค้าก็ไม่ยอม เค้าจะใช้กฎหมู่ ถ้ากฎหมายสู้ไม่ได้ เพราะเค้าเป็นนักเลงที่จังหวัดหนึ่ง ครับ  ตอนนี้โก้ก็ระวังตัวครับ อัดเสียงไว้ก่อนเลย แล้วก็แจ้งตำรวจไว้ก่อน แล้วคุณพ่อ-คุณแม่โก้ก็ทราบ ก็ต้องเก็บรวบรวมหลักฐานเท่าที่มีครับ และน้องเค้ายังมีสัญญาประมาณ 3 ปี ก็มันได้จบแค่งานน้ำส้มตัวนี้มันยังมีงานใส้กรอกอีกตัวนึงออกมาอีก คือมันเยอะครับ เราก็ต้องเก็บ เหมือนกับกรณีสายป่านเราก็ต้องรวบรวมหลักฐานไว้ก่อน อย่างสายป่านเนี่ยเค้าก็บอกไม่รับงาน แล้วอยู่ดีๆ ก็ไปถ่ายชุดว่ายน้ำ ก็บอกว่าไม่แคร์จะรับงาน''

''โกโก้'' ลั่นอยากให้เด็กเคารพสัญญา ยันตนเองไม่ใช่คนเริ่มก่อน
''โก้ไม่ได้อยากมีปัญหา โก้ไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน ใครเค้าอยากขึ้นศาล เราไม่ว่างด้วย เราไม่อยากมีปัญหากับเด็ก คนก็ว่าเราอยู่แล้ว คือเราไม่เข้าใจว่าทำไมน้องเค้าไม่เคารพสัญญากันเลย ซึ่งเราอยากทำตรงนี้ให้น้องเค้าเคารพสัญญา อย่างน้องบัวเดี๋ยวก็มีตามกันมาอีก คือมันเหมือนกับเป็นสเต็ป มีคนนึงมาก็จะมีอีกคนตามมากันเรื่อยๆ คืดกลายเป็นว่าไม่เคารพสัญญา ด้วยความที่ว่าเราเป็นสังกัดเล็ก ไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่โต น้องเค้าอาจจะมองว่า ฉันผิดสัญญาก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ซึ่งจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่เราก็ต้องเคารพสัญญา ตอนที่คุณเซ็นคุณยังไม่ดัง ยังไม่เป็นที่รู้จัก คุณเซ็น แต่พอคุณเป็นดารา คุณดัง ก็ปลี่ยนไป แต่ก่อนคุณเคารพเรา แต่พอคุณดังคุณไม่เคารพเรา มันไม่ได้ครับ อย่างลมปากคุณเปลี่ยนได้ นิสัยคุณเปลี่ยนได้ โก้อยากให้ศาลท่านช่วยให้เป็นมาตรฐานว่าอย่างอื่นมันเปลี่ยนได้ยังไง  แต่สัญญามันเปลี่ยนไม่ได้ มันเป็นตัวหนังสือ คืออยากให้มองที่สัญญาครับ''

''อยากให้ทุกคนมอง 2 ด้านบ้าง ไม่ต้องมองโก้ดี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่ามองว่าเลวไปเลย มีเรื่องกับเด็กอะไรแบบนี้ ก็อยากรณรงค์ให้ทุกคนทำตามสัญญา ถ้าเราไปเซ็นสัญญากับใครก็อยากให้ทำตามนั้น แม้จะไม่ได้เป็นลายลักษณ์อักษร เป็นแค่คำพูดก็อยากให้ทำตามสัญญาครับ คืออยากให้ทุกคนมองในจุดนี้มากกว่าว่าใครเป็นคนผิดสัญญาครับ''

คู่กรณีเตรียมระวังได้เวลา ''โกโก้'' เขียนพ็อกเกตบุ๊กแฉ!
''โก้เองจะเขียนพ็อกเกตบุ๊ก ใครจะว่าโก้แค้นก็ได้ แต่ว่าเราอยากจะเล่าในบางแง่มุมที่ยังไม่มีใครรู้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเรา คนจ้องจะด่าเรา เกลียดเรา แต่ว่าในความเป็นจริงเราไม่ได้เป็นตัวร้าย เราไม่ได้ทำอะไรเลย...ตื่นขึ้นมาเพื่อที่จะทำงาน เพื่อที่จะหาเลี้ยงคุณพ่อ-คุณแม่ ซึ่งจะว่าแฉก็ได้ เพราะมันคือความจริง ถ้าแฉก็คืออะไรแบบนี้ คือโก้ไม่ชอบคนโกหก ถ้าอะไรที่เราตอบไม่ได้เราก็ไม่ตอบ ไม่ใช่มาโกหก อย่างบางคนโกหกจนเป็นนิสัยเยอะมาก โก้เป็นคน ถ้าตัวเราผิดก็ยอมรับ แต่คนในวงการโกหกก็มีเยอะครับ ก็อยากจะเขียนขึ้นมาให้รู้ ว่าอย่างน้อยสักวันนึงเราเป็นอะไรไปก็ยังมีความจริงในพ็อกเกตบุ๊กเล่มนี้''

''โก้ก็ยกเคสที่เกิด อย่างมาริโอ้เนี่ยที่ขึ้นศาล คืออยากให้จบ เค้าก็ไปลงในพ็อกเกตบุ๊กของพี่เอ เค้าย้ายไปอยู่กับพี่เอ อันนี้เนี่ยมันเรื่องโกหกนะ เพราะว่าถ้าคุณย้ายไปตอนหมดสัญญาแล้วโก้จะฟ้องคุณได้อย่างไร เค้าชอบอ้างให้โก้หยุดพูด โก้ก็หยุดแล้ว อยู่ดีๆ คุณก็ไปลงพ็อกเกตบุ๊กของพี่เอ ใครเริ่มก่อน และมันเป็นเรื่องที่บิดเบือนความจริง ซึ่งอันนี้เราคงต้องเขียน ต้องบอกเล่ากัน เพราะว่าถ้าศาลท่านฟัง ท่านก็จะรู้ว่ามันไม่ใช่ มันทำให้เราเสียหาย ถ้าคนไปอ่านพ็อกเกตบุ๊กของเค้า แล้วบอกว่าหมดสัญญาแล้วจะย้ายไป แล้วโก้จะฟ้องเค้าได้ยังไง ก็จะรีบเขียนให้เสร็จเร็วๆ นี้ครับ''

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น