มีเหตุให้อกสั่นขวัญแขวน สำหรับ "จั๊กจั่น อคัมย์ศิริ สุวรรณสุข” นาง เอกช่อง 7 ที่งานนี้เจอตีนแมวบุกขึ้นบ้านกลางดึกเวลา 04.00 น. เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 เพื่อฉกเอาทรัพย์สินมีค่าภายในหมู่บ้านหรูสไตล์ยุโรป ชื่อดังแห่งหนึ่งย่านจังหวัดนนทบุรี ทั้งๆ ที่สาวจั๊กจั่นเพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังดังกล่าวเมื่อเดือนที่ผ่านมา
โดยภายหลังเจ้าตัวได้โทร.แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร คลองข่อย จังหวัดนนทบุรี และได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ ว่า ได้ซื้อบ้านหลังดังกล่าวราคา 8.5 ล้านบาท รวมตกแต่งแล้วทั้งหมดแล้วราคาประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อทำการตกแต่งเสร็จเรียบร้อยจึงได้ตัดสินใจย้ายเข้าอยู่อาศัยได้ ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยในบ้านหลังดังกล่าวมีแค่ตน อาสาว และสาวใช้อยู่เท่านั้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 6.00 น.(9มีนาคม)สาวใช้ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อไปซื้อกับข้าว และได้พบว่าโน๊ตบุ๊คและเงินสดจำนวนหนึ่งพันบาท ที่วางอยู่บนเค้าท์เตอร์กลางห้องชั้นล่างได้หายไปจึงได้รีบวิ่งขึ้นไปบอกตน จากนั้นเมื่อได้สติจึงได้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในบ้าน จำนวน 8 ตัว ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจน คือในช่วงเวลาประมาณ 04.00น. คนร้ายนั้นได้ลงมืองัดหน้าต่างแบบบานเลื่อนที่อยู่ติดกับประตูห้องครัวเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
จากการตรวจสอบพบว่า ลักษณะเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตใส่กางเกงสามส่วน ลักษณะคล้ายคนงานก่อสร้าง หลังจากนั้นคนร้ายได้เดินสำรวจทรัพย์สินในบ้าน ก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คยี่ห้อเอเซอร์มูลค่าห 5 หมื่นบาทและเงินสดจำนวนหนึ่งพันบาท ที่ได้เตรียมไว้ให้สาวใช้ซื้อกับข้าวได้หายไป
ทั้งนี้ดาราสาวยังกล่าวต่อไปว่าจากภาพของกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายทำท่าทีเหมือนจะเดินขึ้นบันไดมาชั้น2 ซึ่งตนเองและอาสาวขณะนั้นได้หลับอยู่แต่เมื่อคนร้ายมองเห็นไฟที่หิ้งพระเปิดอยู่ จึงตัดสินใจไม่เดินขึ้นมาเพราะกลัวคงว่าจะมีใครตื่นขึ้นมาเจอ ถือว่ายังเป็นโชคดีเพราะไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไปสิ่งที่อยากได้คืนคือโน๊ตบุ๊ค เพราะในเครื่องมีเอกสารการเงินตารางการแสดง เอกสารภาษีคิวงานและสัญญาถ่ายงานโฆษณาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นกับตนเองอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามนำโน๊ตบุ๊คกลับคืนมาให้ได้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่อาศัยในหมู่บ้าน เนื่องจากการเข้าออกของหมู่บ้านมีความเข้มงวด รวมทั้งกำแพงกั้นระหว่างหมู่บ้านกับพื้นที่ติดกันก็มีความสูงมากพอสมควร และรูปพรรณของคนร้ายก็มีลักษณะคล้ายคนงานก่อสร้าง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบในที่พักคนงาน เพื่อเทียบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ได้จากที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะติดตามตัวคนร้ายได้ในไม่ช้า
โดยภายหลังเจ้าตัวได้โทร.แจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธร คลองข่อย จังหวัดนนทบุรี และได้ให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตกใจ ว่า ได้ซื้อบ้านหลังดังกล่าวราคา 8.5 ล้านบาท รวมตกแต่งแล้วทั้งหมดแล้วราคาประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งเมื่อทำการตกแต่งเสร็จเรียบร้อยจึงได้ตัดสินใจย้ายเข้าอยู่อาศัยได้ ประมาณหนึ่งเดือนที่ผ่านมา โดยในบ้านหลังดังกล่าวมีแค่ตน อาสาว และสาวใช้อยู่เท่านั้น
จนกระทั่งเวลาประมาณ 6.00 น.(9มีนาคม)สาวใช้ได้ตื่นขึ้นมาเพื่อไปซื้อกับข้าว และได้พบว่าโน๊ตบุ๊คและเงินสดจำนวนหนึ่งพันบาท ที่วางอยู่บนเค้าท์เตอร์กลางห้องชั้นล่างได้หายไปจึงได้รีบวิ่งขึ้นไปบอกตน จากนั้นเมื่อได้สติจึงได้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดไว้ภายในบ้าน จำนวน 8 ตัว ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุได้อย่างชัดเจน คือในช่วงเวลาประมาณ 04.00น. คนร้ายนั้นได้ลงมืองัดหน้าต่างแบบบานเลื่อนที่อยู่ติดกับประตูห้องครัวเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
จากการตรวจสอบพบว่า ลักษณะเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตใส่กางเกงสามส่วน ลักษณะคล้ายคนงานก่อสร้าง หลังจากนั้นคนร้ายได้เดินสำรวจทรัพย์สินในบ้าน ก่อนจะหยิบโน๊ตบุ๊คยี่ห้อเอเซอร์มูลค่าห 5 หมื่นบาทและเงินสดจำนวนหนึ่งพันบาท ที่ได้เตรียมไว้ให้สาวใช้ซื้อกับข้าวได้หายไป
ทั้งนี้ดาราสาวยังกล่าวต่อไปว่าจากภาพของกล้องวงจรปิด เห็นคนร้ายทำท่าทีเหมือนจะเดินขึ้นบันไดมาชั้น2 ซึ่งตนเองและอาสาวขณะนั้นได้หลับอยู่แต่เมื่อคนร้ายมองเห็นไฟที่หิ้งพระเปิดอยู่ จึงตัดสินใจไม่เดินขึ้นมาเพราะกลัวคงว่าจะมีใครตื่นขึ้นมาเจอ ถือว่ายังเป็นโชคดีเพราะไม่อย่างนั้นก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไปสิ่งที่อยากได้คืนคือโน๊ตบุ๊ค เพราะในเครื่องมีเอกสารการเงินตารางการแสดง เอกสารภาษีคิวงานและสัญญาถ่ายงานโฆษณาต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีความสำคัญและจำเป็นกับตนเองอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามนำโน๊ตบุ๊คกลับคืนมาให้ได้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ จึงได้รวบรวมหลักฐานต่างๆ สันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่อาศัยในหมู่บ้าน เนื่องจากการเข้าออกของหมู่บ้านมีความเข้มงวด รวมทั้งกำแพงกั้นระหว่างหมู่บ้านกับพื้นที่ติดกันก็มีความสูงมากพอสมควร และรูปพรรณของคนร้ายก็มีลักษณะคล้ายคนงานก่อสร้าง จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบในที่พักคนงาน เพื่อเทียบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่ได้จากที่เกิดเหตุ คาดว่าน่าจะติดตามตัวคนร้ายได้ในไม่ช้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น