วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

"ณเดชน์"หวิดเสียโฉมซิ่งเก๋งชนรถขยะ

เป็นข่าวน่าตกใจอยู่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกรณีมีข่าวว่าพระเอกหนุ่มลูกครึ่งหน้ามนคนอีสาน ''แบร์รี่'' ณเดชน์ คูกิมิยะ ที่มีข่าวลอยลมมาเข้าหูว่าพ่อหนุ่มนั้นเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำบาดเจ็บสาหัส เจอะตัวหนุ่มณเดชน์ในงานเปิดตัวแคมเปญใหม่ของโฟร์โมสต์ที่เจ้าตัวรับหน้าที่ เป็นถึงแบรนด์แอมบาสซาเดอร์คนใหม่ร่วมกับสาวคู่ขวัญ ''ญาญ่า'' อุรัสยา เสปอร์บันด์ จึงต้องขอเข้าไปถามถึงเหตุการณ์ความเป็นมาซักหน่อย

ซึ่งหนุ่มณเดชน์ก็ได้ออกมาให้คำตอบเกี่ยวกับกรณีอุบัติเหตุว่าเป็นเพียงแค่อุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนไม่ใช่รถคว่ำ และได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยที่หน้าและหัวเข่าที่ต้องเย็บถึง 10 เข็มจากอุบัติเหตุครั้งนี้

''ครับผมก็ไปเฉี่ยวกับรถขยะมาครับผม (หัวเราะลั่น) พอดีผมไปกับพี่คนนึงซึ่งพี่เค้าเป็นคนขับ แล้วผมนั่งหน้าข้างๆ เค้า แล้วตอนที่เฉี่ยวกันเนี่ยกระจกรถมันแตกก็เลยโดน บาดไปครับผม เลือดออกพอสมควรนะครับผม ตกใจเหมือนกัน เพราะว่าก็ห่วงหน้าตัวเองเหมือนกัน เพราะต้องใช้ทำมาหากินนะครับ แผลที่หน้าไม่ได้เย็บนะครับ แต่ว่าเย็บที่หัวเข่า 10 เข็มครับ พอดีว่าคอนโซนรถมันดันเข้ามาก็เลยโดนที่ขาครับ แผลเป็นก็คงมีแน่นอน แต่ก็ทาสกาเจลไปก็น่าจะช่วยได้บ้างครับ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วน่ะครับ ก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ถือว่าฟาดเคราะห์ไปแล้วกัน (พี่เอเค้าตกใจมากไหมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น) พี่เอก็ตกใจครับผม พี่เค้าก็พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลครับ'

หลังจากเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวก็มีข่าวว่าหนุ่มหน้าใสได้เดินทางไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ที่ต่างจังหวัดมา ซึ่งณเดชน์ก็ได้บอกถึงความรู้สึกที่ได้ไปทำบุญว่ารู้สึกดีขึ้น เพราะนอกจากจะได้ไปทำบุญที่บ้านเกิดคือจังหวัดขอนแก่นแล้ว ยังได้เจอกับญาติๆ ของตนเองที่มาต้อนรับอย่างอบอุ่นทำให้หายกลัวไปเป็นกอง

''ก็พอดีว่าจะไปอยู่แล้วครับ พอดีไปยกฉัตรขึ้นเจดีย์ ก็เลยถือว่าเป็นการแก้เคล็ดไปด้วยเลย ที่วัดป่ากิจญานุสรณ์ที่ อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น ครับผม ได้เจอทั้งญาติๆ แล้วก็พี่น้องที่อยู่ภูเวียงก็ดีใจครับ พอไปทำแล้วเค้าก็ต้อนรับดีมากครับ''

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ถามถึงความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องดวงว่า เชื่อหรือไม่ว่าเป็นเพราะช่วงนี้กำลังฮอตหุงขึ้น หม้อสุดๆ ถึงได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ ทางณเดชน์ก็ได้ให้ความเห็นว่า ไม่คิดว่าเป็นเรื่องดวงแต่อย่างใด แต่คิดว่าเป็นเรื่องของความประมาทเลินเล่อมากกว่า ซึ่งเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนอยู่แล้วหากอยู่ในความประมาท

''อุบัติเหตุแบบนี้มันก็เป็นเรื่องธรรมดานะครับ มันอาจจะเกิดขึ้นเพราะความชะล่าใจมากกว่า ก็เคยมีน้าเคยบอกว่าช่วงนี้ก็ให้ระวังตัวหน่อย เพราะเห็นว่าเราก็กำลังทำงานด้วยครับ ตอนนี้ก็ไม่ได้ขับรถเองแล้วครับก็เปลี่ยนเป็น แบบมานั่งแท็กซี่แทนครับผม ก็จริงๆ พี่เอเค้าก็ไม่อยากให้ขับรถนะครับ ถ้าพอมีเงินก็ค่อยจ้างคนขับรถแล้วกัน ผมยังไม่มีรถตู้เป็นของตัวเองด้วยแหละ ก็ตอนนี้ก็นั่งแท็กซี่เอาประหยัดกว่าเยอะครับ''

หลังจากที่สอบถามเกี่ยวกับข่าวคราวเรื่องอุบัติเหตุไปเรียบร้อยแล้ว ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามเรื่องประเด็นข่าวเม้าท์จากรุ่นพี่ในกองละครช่อง 3 ว่า หนุ่มณเดชน์นั้นออกอาการเหวี่ยงวีนใส่รุ่นพี่ในกองละคร ซึ่งณเดชน์เองก็ไดปฏิเสธเกี่ยวกับกระแสข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริงแต่ อย่างใด เพราะไม่เคยแสดงอาการเช่นนั้น พร้อมทั้งบอกว่าไม่ซีเรียสกับข่าวเที่ไม่จริง ปลงแล้วกับกระแสข่าวแบบนี้

''ก็ไม่มีอะไรครับไม่จริงเลย เพราะผมไม่เคยเหวี่ยงอยู่แล้วครับผม ผมว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิดของผู้ใหญ่หรือเปล่าที่เค้าคุยงานกันไม่ตรง ผมก็ไม่แน่ใจ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ เพราะเองก็แค่ไปทำงานเฉยๆ ก็สำหรับความรู้สึกของผมแล้วในเมื่อมันไม่เป็นความจริงผมก็ไม่ได้อะไรไม่ได้ซีเรียสอยู่แล้วครับ เฉยๆ ดีกว่าคนช่อง 3 ก็น่ารักกับผมทุกคนอยู่แล้วนะครับ ก็ปล่อยวางครับ''

นอกจากนั้นยังมีข่าวว่าหนุ่มณเดชน์นั้นดอดคิด เทียบชั้นกับพระเอก รุ่นพี่ร่วมช่องอย่าง ''เคน'' ธีรเดช    วงศ์พัวพันธ์ ซึ่งเจ้าตัวก็ปัดว่าไม่เคยคิดเทียบชั้น ขอทำงานอยู่บนที่ๆ ตนเองทำอยู่ทุกวันนี้ก็พอใจแล้ว


''อ๋อ...ผมไม่คิดที่จะแทนที่ใครหรอกนะ ครับ ผมก็อยู่ในที่ๆ ผมทำอยู่ตอนนี้ดีกว่า ก็ไม่ได้อยากจะโด่งดังอะไรเท่าพี่เคน แล้วก็ไม่ได้อยากที่จะไปแทนที่ใครด้วยครับ (อยู่ช่องเดียวกันมีแบบเคยได้เจอพี่เคนบ้างไหม?) ไม่ได้เจอเลยครับ ถ้าเจอก็จะดีใจมากครับ''

สุดท้ายผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงเรื่องของการรับเงินจากผู้จัดการ ส่วนตัวคนดัง ''เอ'' ศุภชัย ศรีวิจิตร ถึงข่าวที่ว่าเอรับเงินค่าตัวจากณเดชน์เยอะกว่าที่ณเดชน์ได้ซะอีก ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ไม่จริง และพอใจแล้วกับค่าตัวที่ได้รับในตอนนี้ ไม่ได้คิดว่าน้อยไปแต่อย่างใด

''อ๋อ...คืออันนี้เราตกลงกันตั้งแต่แรกแล้วครับว่างานประมาณนี้ค่า ตัวอะไรยังไงประมาณไหน มันก็แบ่งกันเหมือนเป็นสัญญาใจด้วยน่ะครับ แบ่งเยอะไหมสำหรับผมผมว่าไม่เยอะนะครับ เพราะสำหรับผมนี่ได้เงินมาขนาดนี้ก็ถือว่าบุญแล้วครับ ส่วนแบ่งประมาณไหนพอจะบอกได้ไหม ก็คงประมาณ 70-30 อ่ะครับ น่าจะราวๆ นั้นครับ'' ณเดชน์กล่าวในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น